บท
ตั้งค่า

2.บทนำ

บทนำ

ณ แคว้นหมิง ฟ่านรั่วเจี๋ยออกมาเก็บสมุนไพรเพื่อปรุงตำรับยาสูตรลับ พร้อมตามหาแมลงเต่าทองกับด้วงกว่าง ยามนี้นางอยู่ห่างจากกำแพงเมืองพอสมควร หญิงสาวเพลิดเพลินใจอยู่นานกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงม้าดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

เมื่อสืบเท้าไปข้างหน้าเพื่อดูว่าเกิดสิ่งใด หัวใจพลันหล่นวูบไปอยู่ตรงปลายเท้า ภาพที่เห็นคือหายนะครั้งใหญ่ในชีวิต สองมือเรียวงามชื้นไปด้วยเหงื่อ และการเคลื่อนไหวของชายฉกรรจ์เหล่านั้นซึ่งประจักษ์ต่อดวงตากลมโตส่งผลให้สมองขาวโพลนชั่วขณะ

ชีวิตที่อยู่อย่างระแวดระวังภัยมาโดยตลอดนับแต่มารดาสิ้นใจในสภาพ‘คนหมู’ ซึ่งถูกทำให้ตายอย่างอนาถด้วยการตัดหู ปาก จมูก รวมถึงมือและเท้า แล้วโยนลงกองอาจม ถึงนางจะยังเด็กในช่วงเวลานั้น แต่เสียงร้องของมารดายังกรีดก้องในหัวยามนึกถึง ดังนั้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฟ่านรั่วเจี๋ยจึงมิอาจไว้ใจผู้ใด

และสถานการณ์ตรงหน้านี้นางคาดคะเนว่าคือภัยร้ายต่อคนในแคว้นหมิง แน่นอนมันย่อมส่งผลกระทบถึงนางด้วย ตอนนี้กองกำลังของทหารผู้มาเยือนมีมากจนนับไม่ถ้วน ธงประจำตัวสีดำมีอักษรสีแดงโลหิตโดดเด่นซึ่งแจ้งชัดว่าผู้นำทัพเป็นถึงชินอ๋องแห่งแคว้นต้าหลาง เขาคือชายผู้ที่ถูกขนานนามว่า ‘อ๋องปีศาจหรือหมาป่ารัตติกาล’ คนผู้นี้รูปร่างสูงใหญ่ราวแปดฉื่อ คือชายผู้กระหายสงครามที่ผีเห็นยังหวั่น โดยเล่าขานกันว่า เขาดื่มเลือดและกัดกินเนื้อมนุษย์เป็นอาหาร!

มู่ชิงซาน คือชื่อของเขา เพียงแค่เอ่ยถึงฟ่านรั่วเจี๋ยก็ขนลุกไปทั้งสรรพางค์กาย และนางได้ยินผู้คนโจษขานถึงความโหดเหี้ยมของเขามาช้านานชินอ๋องผู้นี้ต้องการประกาศศักดาของแคว้นต้าหลาง เขาหวังครอบครองแคว้นหมิง แผ่นดินที่มีอารยธรรมมายาวนานหลายพันปี อีกทั้งการแพทย์เจริญก้าวหน้า นับเป็นขุมทรัพย์ของอีกเจ็ดแคว้นที่เหลือ

วันนี้นางโชคร้ายเหลือเกินที่ได้เห็นชายตัวโตนั่งอยู่บนหลังม้าศึก เขาสวมหน้ากากเหล็กซึ่งตอกสลักเป็นรูปหัวหมาป่า ดูดุดันน่าเกรงขาม ความสงสัยใคร่รู้ไหลวนอยู่ในหัวฟ่านรั่วเจี๋ยจนก่อเกิดความเครียดมหาศาล เหตุใดมู่ชิงซานจึงยกกำลังมาที่นี่ ด้วยมีข้อตกลงระหว่างเจ็ดแคว้นว่าห้ามมิให้ยึดครองแคว้นหมิง พร้อมให้อิสระในการปกครองตนเองโดยไม่ต้องขึ้นตรงต่อแคว้นใด

จากนั้นความรู้สึกเย็นเยียบก็เข้าปกคลุมจิตใจหญิงสาว หากเกิดศึกสงคราม นางจะเอาตัวรอดอย่างไร แผ่นดินที่นางเกิดอ่อนด้อยเรื่องการศึกกว่าทุกแคว้น นอกจากนั้นพืชผักและสมุนไพร รวมถึงสัตว์หลายชีวิตที่นางเลี้ยงไว้ อาจถูกจับไปเป็นของบรรณาการแก่เหล่าทหารเลวต่างบ้านต่างเมืองเพียงแค่คิดนางก็ครั่นคร้ามใจ

สองขาของฟ่านรั่วเจี๋ยรีบก้าวหนีกลิ่นอายชั่วร้าย นางกึ่งก้าวกึ่งวิ่งอย่างรวดเร็ว กระทั่งเจียนถึงปากถ้ำเล็กๆ มันคือทางลับเข้าสู่ตำหนักซึ่งเป็นที่อยู่ของตน เป็นห้วงเวลาเดียวกันที่จู่ๆ มีร่างหนึ่งเซถลาเข้ามาปะทะนางก่อนอีกฝ่ายจะเสียหลักล้มพับลงต่อหน้า

หัวใจหญิงสาวหล่นหาย ฟ่านรั่วเจี๋ยมองร่างดังกล่าวด้วยความประหลาดใจ ชายผู้นี้สูงเพรียว มีผ้าดำปกปิดใบหน้าครึ่งล่างเอาไว้ กระนั้นดวงตาดำขลับกับคิ้วเรียวสวยได้แจ้งชัดว่าเขางามกว่าบุรุษทั่วไป เมื่อเขาค่อยๆดึงผ้าปิดหน้าออก ฟ่านรั่วเจี๋ยก็เหมือนถูกสะกดจุดให้นิ่งค้าง

ริมฝีปากบางของเขาเป็นกระจับงาม จมูกโด่งเป็นสัน พิศแล้วชวนให้หลงใหล ผิดแต่ยามนี้ใบหน้าเขาไร้สีเลือด มันขาวซีดราวกับได้รับอันตรายเจียนจะทำให้สิ้นชีพ

“ชะ ช่วยข้าด้วย แม่นาง ข้ามิอาจตายอย่างสูญเปล่า”

หญิงสาวนึกชั่งใจ คราแรกอยากก้าวหนี แต่ด้วยเห็นเขาได้รับบาดเจ็บจึงไม่อาจเพิกเฉย หากผู้ใดต้องการมีชีวิตและไม่สมควรตาย นางคงต้องยื่นมือช่วยเหลือ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นศัตรูก็ตาม

“หากช่วยท่าน ข้าจะมีความผิดหรือไม่” ฟ่านรั่วเจี๋ยถามออกไป แน่นอนนางย่อมต้องการคำตอบที่น่ารับฟัง

“แม่นาง ได้โปรดจงเห็นแก่ชีวิตผู้คน อย่าให้มีใครต้องล้มตายเลย รีบนำป้ายหยกนี้ไปส่งให้ถึงมือชินอ๋องชิงซาน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินการ!!”

เขาเอ่ยจบจึงกระอักเลือดออกมา และยามนี้เขาตกอยู่ในเงื้อมมือของสตรีซึ่งไม่ใช่พระโพธิสัตว์หรือเทพเซียน หากนางคือ...ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์แห่งตำหนักเย็น!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel