บทที่ 8 คนเดิม
“สงสัยจะยังไม่ตื่นไฟยังไม่เปิด”
หล่อนพึมพำคนเดียว อยู่ ๆ ฝนก็โปรยปรายลงมาหล่อนวิ่งกลับเข้าบ้าน
“ตกอะไรแต่เช้าล่ะคะคุณฝนขา แล้วอย่างนี้จะไปจากรีสอร์ทนายปากจัดได้ยังไง”
ฝนที่โปรยละอองลงมาหยุดไปครู่เดียวก็โปรยละอองอ่อน ๆ ลงมาอีก อรอินทุ์เดินออกมาแบมือรับละอองแล้วถอนใจยาวกลับเข้าไปนั่งกอดอกอยู่บนเก้าอี้รับแขก
เสียงฝีเท้าม้าดังมาแต่ไกลและมันดังใกล้เข้ามาๆ หล่อนลุกขึ้นเดินไปยืนที่ขอบประตู ครู่เดียวม้าสีหมอกก็ปรากฏเด่นชัดที่หน้าบ้านพร้อมชายหนุ่มบนหลังม้า หล่อนเผลอยิ้มให้เขาแต่พอเขาโดดลงมา หล่อนหันหลังกลับรีบปิดประตูทันที
“นี่คุณ เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะก่อนที่ผมจะพังมัน”
เขาออกคำสั่งเสียงเข้มอยู่หน้าบ้าน แต่หล่อนไม่ยอมเปิดเพราะไม่อยากเห็นหน้าเขาทั้งที่นอนฝันถึงเขาทั้งคืน
“คุณอินทุ์จะเปิดหรือไม่เปิด ถ้าไม่เปิดผมพังนะ”
“ไม่เปิด คุณมีธุระอะไรก็รีบพูดมาหรือว่าจะมาไล่ฉัน”
“ใช่..เปิดออกมาเดี๋ยวนี้ ผมไม่อยากอารมณ์เสียแต่เช้า”
ข้างในห้องเงียบไปครู่หนึ่งประตูจึงเปิดออก ทันทีที่เขาเห็นหน้าหล่อนชัด เขาคว้าข้อมือหล่อนดึงออกมาจากประตูแล้วปิดประตูอย่างรวดเร็ว
“คุณจะทำอะไรฉัน”
หล่อนถามด้วยความตกใจ เขายิ้มเป็นยิ้มที่หล่อนอยากเห็นนับตั้งแต่เห็นในทีวีเมื่อเดือนก่อน เขายิ้มแบบนี้อีกแล้ว
“จ้องหน้าผมทำไม แปลกใจอะไรไม่ทราบ”
เขาถามยิ้มๆ และรู้ว่าหล่อนหลงรอยยิ้มของเขาเข้าแล้ว
“เปล่า ปล่อยมือฉัน แล้วพูดธุระของคุณมา ถ้าจะไล่ฉันออกไปตอนนี้ฉันขอเวลาให้สว่างก่อน ทางมันมืดไม่กล้าเดิน กลัวงู”
หล่อนพูดเสียงห้วนไม่ยอมมองหน้าเขาอีก เขายิ้มจูงมือหล่อนลงบันไดมาที่ม้าสีหมอก หล่อนเงยมองหน้าเขาสลับกับม้า
“จะทำอะไรเนี่ย อย่าบอกนะว่าจะให้ฉันขี่ม้า ฉันไม่เอาด้วยหรอก ฉันกลัวตก” หล่อนถอยห่างทันทีแต่ช้าไป เขาอุ้มร่างบางขึ้นพร้อมออกคำสั่ง
“เหยียบที่ห่วงนั่นแล้วนั่งที่อาน”
“ไม่เอา ฉันกลัวตก”
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่ะ ผมอยู่ด้วยทั้งคน”
หล่อนยอมทำตามที่เขาสั่งด้วยอาการใจเต้นโครมคราม ตัวสั่นเพราะความกลัว ไชยวัฒน์โหนตัวขึ้นมานั่งบนหลังม้าโอบแขนสองข้างรอบตัวหล่อน ใบหน้าเข้มอยู่ห่างจากใบหน้าเกลี้ยงเกลาสดใสเพียงไม่ถึงคืบ
ลมหายใจหอมสะอาดของเขาเป่ารดแก้มเนียนโดยไม่รู้ตัว หล่อนรู้สึกใจเต้นแรงกว่าเดิม เลือดในกายสาวสูบฉีดจนร้อนไปทั่วร่าง อ้อมแขนแข็งแรงกันตัวหล่อนไว้ไม่ให้หล่นจากหลังม้า
“ทำตัวตามสบาย ไม่ต้องกลัวตกหรอกน่ะ ผมไม่ใจร้ายทำคุณตกจากหลังเจ้าหมอกหรอก”
เขาพูดข้างหูหล่อนและแนบคางสาก ๆ ที่ขมับของหล่อน ความอบอุ่นในกายชายหนุ่มแล่นผ่านผิวเนื้อสู่ร่างงามของหญิงสาว หล่อนเผลอยิ้มรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก มือสองข้างเกาะแขนเขาไว้แน่น
“เป็นไง กลัวมากมั้ย”
“ก็กลัวสิ ถามได้ ฉันไม่เคยขี่ม้านี่”
“ไม่เคยก็หัดสิ แล้วก็ไม่ต้องกลัวหรอก ตกม้าแค่หนสองหนจะได้ขี่ม้าเก่งไงล่ะ”
“ไม่เอาด้วยหรอก ตกแค่ครั้งเดียวกระดูกฉันคงหักเป็นสองท่อนแน่”
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าให้ตกสิ กอดแน่นๆ นะไม่งั้นกลิ้งตกลงไปผมไม่รู้ด้วย”
เขาแกล้งพูดให้หล่อนกลัวและนั่นทำให้เขารู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่เคยสนุกมานานแล้ว ไม่อยากเชื่อว่าเพียงแค่ได้เจอและรู้จักอรอินทุ์จะทำให้ชีวิตของเขากลับมาสู่สภาพเดิมอีกครั้ง
เมื่อก่อนเขาเป็นชายหนุ่มที่อารมณ์ดีสนุกสนานร่าเริง แต่พอกลับมาจากต่างประเทศความร่าเริงนั้นหายไปสิ้นเหลือแต่ความจริงจังกับหน้าที่การงานและซีเรียสทุกครั้งที่รังสิมาก้าวเข้ามาวุ่นในบ้านในฟาร์มม้า
หล่อนไม่กล้าเข้าไปยุ่งที่รีสอร์ทเพราะกัลยาไม่ยอม หล่อนจึงไม่ชอบกัลยาเท่าไรนัก ชายหนุ่มอารมณ์ดีจึงเงียบขรึมตลอดเวลา แต่วันนี้เขากำลังกลับมาเป็นไชยวัฒน์คนเดิมแล้ว
ไชยวัฒน์ควบม้ามาถึงหน้าบ้านใหญ่ เขาโดดลงก่อนและรับอรอินทุ์ลงจากนั้นตบสะโพกเจ้าสีหมอกสองครั้งมันก็เดินเล็มหญ้าตามสบายของมัน
“เชิญขึ้นไปดื่มกาแฟร้อนก่อน ยัยกัลเตรียมไว้รอแล้ว”
เขาก้มศีรษะให้หล่อนนิดหนึ่งแล้วจ้องหน้าหล่อนนิ่ง หล่อนย่นจมูกใส่แล้วเดินขึ้นบันไดไป เขายิ้มพอใจ เดินตามขึ้นไป กัลยาหันมามองหญิงสาวพร้อมรอยยิ้มสดใส
“สวัสดีตอนเช้าจ้ะอินทุ์ ดื่มกาแฟรสไหนเดี๋ยวพี่ชงให้”
“ขอบคุณค่ะ อินทุ์ชงเองดีกว่า พี่กัลไปนั่งเถอะค่ะเดี๋ยวอินทุ์จัดการให้”
อรอินทุ์เดินยิ้มเข้ามาช่วยกัลยาชงกาแฟทั้งของตัวเองและของพรพจน์รวมไปถึงไชยวัฒน์ซึ่งคนหลังนี้หล่อนไม่อยากชงให้สักเท่าไหร่แต่กัลยายกถ้วยมาวางไว้แล้วหล่อนก็ต้องชง หล่อนคิดจะแกล้งเขาแต่คิดอีกทีเขาอุตส่าห์ไปรับหล่อนมาดื่มกาแฟ อย่าแกล้งเขาดีกว่า ไม่นานชายหนุ่มก็ได้ลิ้มชิมรสกาแฟฝีมือหญิงสาวที่เขาวางแผนให้หล่อนอยู่ต่อ แต่ยังไม่ทันจะได้บอกแผนให้ธาตรีกับกัลยาฟัง รถของฉลองก็แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน ฉลองวิ่งหน้าตื่นขึ้นมาข้างบนด้วยอาการหอบนิด ๆ