บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 คำสั่งที่ปฏิเสธไม่ได้

คำสั่งที่ปฏิเสธไม่ได้

“พิมพ์ว่าอะไรน่ะ ใครท้อง” นิษฐาที่เดินเข้ามาได้ยินที่ป้าหลานพูดกันพอดี จึงได้ถามขึ้นเสียงดังเพราะความอยากรู้อยากได้ยินคำตอบอย่างแน่ชัด

“ก็...” พิมพาได้แต่อ้ำอึ้ง ไม่กล้าที่พูดออกมา ได้แต่ก้มหน้าลงอย่างสลด

“ตามฉันมาที่ห้องรับแขกกันทุกคนเลย ลัดดา โทรตามหมอณัฐให้เข้ามาที่บ้านเดี๋ยวนี้ด้วย” นิษฐาจึงตัดบทขึ้นมา พร้อมกับเอ่ยสั่งสาวใช้คนสนิทออกไป

นายแพทย์ณัฐพงษ์ เรืองพาณิชยากุล สูตินารีแพทย์แห่งโรงพยาบาลเอกชนดัง และยังเป็นแพทย์ประจำกูล แถมยังเป็นน้องชายแท้ๆของ พัฒน์พงษ์ อีกด้วย

ชายหุ่นสูงโปร่งสวมเสื้อกราวนด์ขาว อายุราว 40 ปี เดินถืออุปกรณ์และกระเป๋าเครื่องมือแพทย์ กำลังจะออกจากบ้าน เพราะได้เข้ามาตรวจหญิงสาวตามคำสั่งของพี่สะใภ้อย่างนิษฐา

“เจ้าณัฐ ใครเป็นอะไรหรือ ถึงมาที่นี่ได้” พัฒน์พงษ์ถามน้องชายขึ้นทันที ที่เจอกันหน้าประตูทางเข้าบ้าน เพราะพึ่งจะกลับมาจากทำงานที่บริษัทพอดี

“คือว่า...” ณัฐพงษ์อ้ำอึ้งไม่กล้าตอบพี่ชายทันที เพราะพี่สะใภ้ห้ามไม่ให้บอก

“อะไร” พัฒน์พงษ์จ้องมองไปที่น้องชายทันที

“คุณนิษให้มาตรวจหนูหริ่งที่นี่ครับ ว่าท้องหรือเปล่า” ณัฐพงษ์เมื่อไม่อาจปิดบังพี่ชายได้ จึงพูดความจริงออกมาทันที

“อะไรน่ะ...แล้วผลสรุปว่ายังไง” พัฒน์พงษ์ที่ได้ยินตอนแรก ตกใจนิ่งไปสักพัก เมื่อรวบรวมสติได้จึงถามต่อทันที เพื่ออยากรู้คำตอบที่แน่ชัด

“หนูหริ่งตั้งครรภ์ได้ 8 สัปดาห์ หรือประมาน 2 เดือนได้แล้วครับ” ณัฐพงษ์พูดมาตามที่ได้ตรวจพีรดาไปเมื่อสักครู่ และคาดการตามความเป็นไปได้ของประจำเดือนขาด เพราะว่าเครื่องมือที่นำมาตรวจไม่ครบ

“อืม ขอบใจมาก” พัฒน์พงษ์พยักหน้านิ่งรับ

“ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวก่อนน่ะครับ” ณัฐพงษ์เมื่อได้บอกความจริงกับพี่ชายออกไปแล้ว จึงขอตัวกลับออกไปทันที เพราะมีงานต่อ

“ตาพีทกลับมายัง” เสียงเข้มพูดขึ้นมาทันที ที่เดินเข้ามาถึงห้องรับแขก และนั่งลงยังโซฟตัวยาวประจำตำแหน่งของเขาทันที

“โน้นค่ะ คุณพีทมาพอดีเลย” ลัดดาตอบออกมาเพราะสายตาหันไปเจอกับรถของลูกชายคนเล็กของบ้านเลี้ยวเข้ามาพอดี

สามพี่น้องที่กลับมาถึงบ้านพร้อมกัน เดินเข้ามาภายในบ้าน ก็ต้องมองหน้ากันอย่างงุนงง เมื่อห้องรับแขก มีพ่อนั่งอยู่ตรงกลาง แล้วมีทุกคนในบ้าน ทั้งแม่บ้านและคนสวนอยู่กันครบ ในใจคิดเพียงแค่ว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ จึงตัดสินใจถามขึ้น

“มีอะไรกันอีกหรือครับ ทุกคนอยู่พร้อมหน้ากันเชียว” พจีพัฒน์ถามขึ้นทันที

“นั่งลง” เสียงเข้มของผู้เป็นพ่อพูดสั่งขึ้นมา

“มีอะไรกันค่ะคุณแม่” พจีกานต์จึงหันไปถามทางนิษฐา ที่นั่งนิ่งไม่กล้าพูดอะไร

“เอาล่ะ ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้น จนบานปลายมาขนาดนี้แล้ว พ่อจะให้ตาพีทแต่งงานกับหนูหริ่งให้เร็วที่สุด” พัฒน์พงษ์พูดขึ้น พร้อมกับเข้าประเด็นของเรื่องทันที

“อะไรน่ะ” ลูกทั้งสามต่างตกใจ พูดเป็นเสียงเดียวกันขึ้นมาทันที

“แต่งงาน นี้มันเรื่องบ้าอะไรกันอีกครับ" พจีพัฒน์ถามขึ้นมาทันที อย่างไม่เข้าใจ ในเมื่อเรื่องมันผ่านมาแล้ว ทำไมพ่อต้องให้แต่งงานอีก

“เพื่อรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นมายังไงล่ะ” พัฒน์พงษ์พูดขึ้นมา พร้อมกับสายตาที่มองไปยังพีรดา

“รับผิดชอบอะไรกันครับ แล้วผมก็ไม่ได้รักยัยเปียนี้ด้วย” พจีพัฒน์ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ในสิ่งที่พ่อกำลังทำอยู่ตอนนี้

“หนูหริ่งท้อง” พัฒน์พงษ์ตอบไปเพียงสั้นๆ แต่ได้ความหมาย และคำตอบอย่างชัดเจน

“ห๊า...ท้อง” ทั้งสามพี่น้องต่างต้องตกใจพร้อมกันอีกครั้ง

“ใช่..หมอพึ่งจะกลับออกไปเมื่อกี้นี้เอง” พัฒน์พงษ์พูดขึ้น เพื่อยืนยันอีกที

“แล้วเธอไม่ได้ป้องกันเหรอยัยเปีย” พจีพัฒน์จึงหันไปถามเอาความจริงจากพีรดาทันที

“...พีท เราเป็นต้นเหตุนะ พูดอะไรออกมาช่วยให้เกียรติแม่ของลูกบ้าง อย่างน้อยๆก็เห็นแก่ลูกของแกที่กำลังจะเกิดมาลืมตาดูโลกในอีกไม่ช้านี้แล้ว” พงศกร พูดสวนน้องชายขึ้นมาทันที พร้อมกับพร่ำสอนออกไปเพียงเล็กน้อย

“จะป้องกันอะไรล่ะ ก็คงจะอยากจับลูกชายฉันจนตัวสั่น ถึงกล้าปล่อยให้ตัวเองท้องขึ้นมาได้” นิษฐาที่ทนไม่ไหวพูดขึ้นมาอย่างดูแคลนหญิงสาวทันที

“คุณเงียบก่อน ว่ายังไงหนูหริ่ง หลังจากที่เกิดเรื่องวันนั้น หนูไม่ได้ทานยาป้องกันหรือ บอกลุงมาตามตรง ลุงไม่ได้จะลงโทษหรือทำอะไรหนูกับลูกทั้งนั้นแหล่ะ” พัฒน์พงษ์สั่งห้ามไม่ให้ภรรยาพูด แล้วหันมาถามพีรดาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“คือ...ว่า” พีรดาได้แต่อ้ำอึ้งพร้อมกับมองไปที่นิษฐา

“อะไร พูดออกมาสิ” นิษฐาเมื่อรู้ว่าพีรดามองมาที่เธอ ก็ตวาดเสียงใส่ทันที

“หนูทานไปเม็ดแรกตั้งแต่ที่ออกไปซื้อมาตั้งแต่สายของวันนั้นแล้วค่ะ แต่อีกหนึ่งเม็ด...” พีรดาพูดออกไปตามจริง แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น กลับมองหน้าของนิษฐานิ่ง ไม่ได้พูดต่อ

“อะไร...มองหน้าฉันทำไม” นิษฐาพูดออกมาอย่างสงสัย เมื่อพีรดาเอาแต่มองมาที่เธอ

“หนูจะทานเม็ดสองช่วงดึก พอดีน้ำที่ห้องหมดเลยถือยาออกมา หวังจะทานที่ตึกใหญ่ แต่คุณนายมาเห็นเข้า คิดว่าหนูกำลังจะทำอะไร เลยเอายาที่หนูถือมาด้วยไปทิ้งค่ะ เลยไม่ทานเม็ดที่สอง” พีรดารวบรวมความกล้าขึ้นมาอีกครั้ง พูดความจริงออกมาจนหมด

“หึ...เป็นยังไงล่ะแผนการของคุณ วุ่นวายใหญ่โตพอไหมล่ะคราวนี้” พัฒน์พงษ์เค้นหัวเราะ พร้อมกับมองไปที่ภรรยาของเขาแล้วต่อว่าทันที

“ท้องก็ไปเอาออกสิ ในเมื่อเธอก็ยังเด็กอยู่ งานการก็ยังไม่มีทำ จะมีปัญญาที่ไหนเลี้ยง” นิษฐาพูดออกมาอย่างไม่รู้สึกสลดใจอะไร

“หยุดคิดอะไรแบบนั้นเลยนะ นิษ คุณเป็นแม่คน ลูกตั้งสามคนแล้วน่ะ แล้วเรื่องวุ่นๆทั้งหมดนี้ อย่าคิดน่ะว่าผมไม่รู้ว่าเป็นแผนการของคุณที่ต้องการหนูนัชชามาเป็นลูกสะใภ้ โดยการวางยาลูก แต่หนูหริ่งดันมาพลาดท่าเสียแทน ผลเลยตกมาที่เด็กเข้า ลูกยังเด็กกันอยู่เลยคุณคิดเรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน คุณนิษ” พัฒน์พงษ์ต่อว่าภรรยาขึ้นมาทันทีอย่างเหลืออด เพราะไม่คิดว่าเธอจะมีความคิดอะไรแบบนี้

“นี้คุณแม่ทำอะไรลงไปครับ พวกเราพึ่งจะอายุ 18 กันเองนะครับ ความพร้อมความรับผิดชอบยังไม่มีด้วยซ้ำ แล้วอีกอย่างผมก็เคยบอกแล้วยังไง ว่าไม่ได้รักนัชชา” พจีพัฒน์จึงหันมาต่อว่าแม่บ้าง ที่ทำอะไรลงไปโดยสิ้นคิดแบบนี้

“แล้วลูกจะยอมแต่งงานกับนังหริ่ง ตามคำสั่งของพ่ออย่างนั้นหรือ” นิษฐาจึงหันไปถามลูกชาย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel