ตอนที่ 6 ความสุขของชายสูงวัย
ความสุขของชายสูงวัย
“...กว่าจะมาได้สักทีน่ะ” เสียงเข้มของชายสูงวัยที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ดังขึ้นมา พร้อมกับหันหลังให้แก่คนทั้งคู่ที่เดินเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังอันใหญ่โต ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าชายชุดดำนับร้อยคนยืนเรียงรายตั้งแต่ประตูทางเข้า จนมาถึงภายในบริเวณบ้าน เพราะพนามีอายุที่เยอะมากแล้วบวกร่างกายที่ชราขึ้นพอสมควรตามอายุ และไม่สามารถที่จะเดินได้ด้วยตัวเองนานๆ จึงจำเป็นต้องนั่งวีลแชร์ การใช้ชีวิตที่ลำบาก จึงต้องมีบุคคลที่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิต
“คุณปู่สวัสดีครับ” ธนายกมือขึ้นทักทายชายชราที่ยังคงหันหลังให้ แล้วนั่งลงยังโซฟาตัวยาวที่ห้องรับแขก และดึงร่างบางของเดียน่าให้นั่งลงมาข้างๆ เมื่อหญิงสาวยังคงมีความหวาดกลัววิตก โดยไม่ค่อยสนใจชายสูงวัยที่หันหลังให้นัก
“อื้ม...แล้วแม่หนูคนนี้เป็นใครกัน เมียใหม่แกหรอกหรือ” เสียงเข้มถามขึ้นมาอย่างสงสัยทันที เมื่อเห็นเดียน่าเป็นครั้งแรก และรู้สึกแปลกใจที่ธนาพาหญิงสาวมาด้วย
“สะ...สวัสดีค่ะ” เดียน่าเอ่ยเสียงตะกุกตะกักขึ้นมาทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ และก้มหน้าลงอย่างกลัวๆ เพราะไม่กล้าสู้สายตาคมของพนา
“คือ...คุณปู่ครับ” ธนากำลังจะเอ่ยปากขึ้นมาอธิบาย
“ฉันเข้าใจ...ว่าแต่สาวน้อยคนนี้ชื่ออะไร” พนารีบขัดขึ้นมาเสียก่อน ที่ธนาจะได้อธิบายบอก แล้วหันไปถามทางเดียน่า
“เดียน่า...ลูกสาวพี่แดนยังไงล่ะครับคุณปู่ นี้คุณปู่จำเดียร์ไม่ได้เหรอ” เป็นธนาเอง ที่เอ่ยตอบคำถามแทนหญิงสาวออกมา
“ห๊ะ...ลูกไอ้เขตแดนเองหรอกหรือ โตเป็นสาวขนาดนี้เชียว ใครจะไปจำได้ว่ะ เคยเห็นแต่ตอนยังแบเบาะ พอมาเห็นอีกทีก็โตเป็นสาวแล้ว” พนาทำท่าทางตกใจเพียงเล็กน้อย เมื่อได้รู้คำตอบว่าหญิงสาวที่มาด้วยกับธนานั้นคือใคร เพราะเขาเคยเห็นแต่ตอนที่แขตแดนพามาพบตอนยังเป็นทารกอยู่นั้นเอง และจากนั้นมาเขตแดนก็ไม่เคยพาเดียน่ามาที่นี่อีกเลย
“...” เดียน่าได้แต่นั่งนิ่งๆอยู่ข้างธนา ไม่เอ่ยตอบอะไรใดๆออกมาทั้งสิ้น
“แล้วลูกชายแกละ” พนาจึงถามธนาขึ้นอีก เมื่อไม่เห็นธนาพาลูกชายของเขามาด้วย
“รายนั้นโตแล้วพูดยากครับ ผมไม่อยากบังคับลูก” ธนาตอบออกไปตามความจริง เพราะว่าชีโน่ก็โตพอที่จะรับรู้อะไรทุกอย่างแล้ว จึงไม่อยากบังคับ
“แต่กับหนูเดียร์ ทำไมถึงยอมมากับแกได้ล่ะ” แล้วพนาก็หันไปถามทางธนาอีกครั้ง พร้อมกับสายตาที่มองเดียน่าสลับไปมา
“ก็คุณปู่บอกเองครับนี้ว่าอยากเจอหน้าเหลนๆ ผมก็พามา ปู่จำไม่ได้แล้วหรือครับ” ธนาพูดขึ้นมาทันที แต่พอพึ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ก็สายเกินไปเสียแล้ว เขาน่าจะคิดได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าปู่ของเขาแก่มากแล้วน่าจะจำคำพูดของตัวเองไม่ได้แล้ว
“ฉันแค่แปลกใจ ว่าทำไม่หนูเดียร์ถึงกล้ามากับแก แกบังคับหรือธนา” พนาพูดขึ้นมา พร้อมกับจ้องไปทางหญิงสาวอย่างพิจารณาดู
“ทำไมผมต้องบังคับด้วยล่ะครับ ผมเป็นผู้ปกครองน่ะ เธอก็ต้องฟังผมสิ” ธนาเอ่ยออกมาอย่างภาคภูมิใจในตัวเอง ที่การอุปถัมภ์เดียน่าครั้งนี้เธออยู่ในขอบเขตที่ดีตลอด
“หึ...แค่ผู้ปกครองจริงหรือ” พนาเค้นหัวเราะเยาะใส่ธนาทันที
“ครับ...ปีหน้าก็บรรลุนิติภาวะ ไม่ต้องคอยตามติด ตามคอยดูแลแล้วครับ” ธนาเอ่ยบอก
“นี้แกหมายถึงจะไล่หนูเดียร์ออกไปอยู่ข้างนอกหรือ” พยาเลิกคิ้วขึ้นถามทันที เพราะเข้าใจความหมายที่ธนาพูดแบบนั้น
“ไม่ใช่แบบนั้นครับ ก็ยังอยู่ที่บ้านหลังเดิมด้วยกันนี้แหล่ะครับ เพียงแต่จะไม่ค่อยได้ดูแลเหมือนเดิม” ธนารีบหาคำแก้ตัวขึ้นมาทันที
“ในเมื่อมาแล้ว ก็ค้างที่นี่กันสักคืนสิ ฉันอยากมีเพื่อนคุย” พนาเปลี่ยนเรื่องคุยทันที พร้อมกับเอ่ยชวนคนทั้งคู่ให้อยู่ค้างคืน
“เอ่อ...คงจะค้างไม่ได้หรอกครับปู่ ชีโน่อยู่บ้านคนเดียว” ธนาเอ่ยบอก เมื่อเห็นว่าเดียน่าสะกิดเขาเหมือนส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง ธนาเอ่ยต้องรีบปฏิเสธ และเอาลูกชายมาอ้างขึ้นทันที
“ถ้าอย่างนั้น ก็อยู่ทานข้าวเย็นแล้วค่อยกลับ หนูเดียร์จะรังเกียจไหมที่ต้องทานข้าวกับคนแก่ๆแบบฉัน” พนารีบหาคำพูดเอ่ยเชิงเชื่อชวน แล้วหันไปถามทางเดียน่า
“เดียร์ไม่รังเกียจหรอกค่ะ รู้สึกยินดีเสียอีก” เดียน่าเอ่ยตอบออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
“คิก...ไม่ต้องกลัวฉันหรอกหนู” พนาหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับเอ่ยขึ้นมา เพื่อให้หญิงสาวเบาใจ เมื่อเห็นท่าทางกลัวๆเขาของเดียน่า
“ปู่ท่านใจดี แค่หน้าตาอาจจะดูโหดไปหน่อย ก็เพราะการปกครองขององค์กรนับร้อยชีวิตของท่านก็แค่นั้นเอง” ธนาเอ่ยกระซิบเบาๆ บอกเดียน่า เพื่อให้ได้ยินกันสองคนเท่านั้น
“จริงเหรอค่ะ” เดียน่าถามขึ้น
“อื้ม” ธนาพยักหน้ารับอีกที เพื่อเป็นการยืนยันคำตอบ
“แกนินทาอะไรฉันไอ้ธนา” พนาที่ได้ยินคนทั้งคู่กระซิบกัน จึงสาดคำพูดขึ้นมาทันที
“เปล่าครับปู่” ธนารีบปฏิเสธทันควัน
ทั้งสามนั่งคุยกันอยู่ที่ห้องรับแขกกันอยู่สักพักใหญ่ๆ จนเดียน่าเริ่มหายอาการเกร็งจากตอนแรก เริ่มกล้าที่จะสนทนากับชายสูงวัยมากขึ้นกว่าเดิม
“มีอะไร” ธนาถามเวลาเสียงเข้มขึ้น เมื่อเห็นว่าลูกน้องคนสนิทยืนเก้อๆกังๆ เหมือนมีอะไรบางอย่างที่อยากจะบอก แต่ไม่กล้า
“คือ...” เวลาได้แต่อ้ำอึ้ง พร้อมกับมองเดียน่าและชายสูงวัยสลับไปมา
“พูดมาเถอะ...ปู่ท่านรับรู้ทุกเรื่องอยู่แล้ว ส่วนเดียน่าก็โตพอที่จะรับรู้อะไรมากพอสมควรแล้ว คงไม่มีอะไรต้องปิดอีกต่อไป” ธนาเอ่ยบอกเวลา เมื่อเห็นว่ายืนอ้ำอึ้งไม่กล้าพูดออกมา
“นายน้อย มีเรื่องนิดหน่อยครับ ตอนนี้ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลในเครือแล้ว” เวลาเอ่ยบอกออกมา พร้อมกับคนทั้งสามที่นั่งฟังอยู่
“ว่าแต่คุณโน่เป็นอะไรมากไหมค่ะ” เป็นเดียน่าที่ปริปากถามเวลาขึ้นมาก่อน
“พี่ก็ไม่ทราบรายละเอียดสักเท่าไหร่หรอกครับน้องเดียร์” เวลาเอ่ยตอบเดียน่ากลับไปตามตรง
“ถ้าอย่างนั้นพวกแกก็พากันกลับไปเถอะ ไว้วันหลังค่อยมาเยี่ยมฉันอีกทีก็ได้” พนาพูดขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าลูกชายของธนาเกิดปัญหา
“ครับคุณปู่ ผมลาน่ะครับ ไว้โอกาสหน้า จะหาเวลามาเยี่ยมปู่ใหม่น่ะครับ” ธนาจึงรีบลุกขึ้นลาผู้อาวุโสนั้นทันที
“เดียร์กลับแล้วน่ะค่ะ คุณทวดดูแลตัวเองด้วยน่ะค่ะ สวัสดีค่ะ” เดียน่าจึงเอ่ยเสริมมาตามหลัง
“...” พนาได้แต่พยักหน้ารับให้กับธนาและเดียน่า