บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 ห้องเช่าน้อย ๆ

ห้องเช่าน้อยๆ ปากซอยมีร้านเซเว่น

 

“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง...ขับรถกลับดีๆนะคะ” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณทันที ที่รถขับมาถึงยังหน้าที่พักของเธอ แล้วก็เปิดประตูลงจากรถทันที

 

“เดี๋ยวสิ!...” ร่างสูงรีบเปิดประตูรถออกมาเอ่ยเรียกไว้เสียก่อน

 

“...” หญิงสาวไม่เอ่ยถามอะไรกลับไป เพราะพอจะรู้เหตุผลของเขาดี

 

“พี่หิวน้ำ...” สองเสียงพูดขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกันทันที

 

“เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจยาวเหยียดของหญิงสาวพ่นออกมาอย่างเบื่อหน่ายกับคนหน้ามึนที่เอาแต่ใจตัวเอง

 

หญิงสาวไม่รู้จะทำเช่นไรกับคนหน้ามึนแบบนี้ดี เธอกับเขาพึ่งจะรู้จักกันเพียงไม่กี่วันมานี้เอง แต่ชายหนุ่มกลับทำตัวเหมือนสนิทกับเธอ ราวกับว่ารู้จักกันมานานแสนนาน

 

ใบหน้ายิ้มระรื่นอย่างมีความสุข ที่ได้เข้ามาภายในห้องเช่าน้อยๆของหญิงสาว ร่างสูงถอดรองเท้าออก แล้วเดินไปหยิบน้ำมานั่งลงเปิดฝาดื่มทันที อย่างกับว่าเป็นเจ้าของห้องเสียเอง

 

หญิงสาวเอาแต่ส่ายหน้าเบาๆ ให้กับคนที่เอาแต่ใจ แล้วเดินเอาของเธอไปเก็บพร้อมกับกำลังจะหยิบกล่องอุปกรณ์ทำแผลมา

 

แต่ทว่า

 

“ว้าย...พี่เพชร จะทำอะไร...” ร่างบางร้องออกมาทันที เพราะตกใจไม่น้อย เมื่อโดนร่างสูงรวบตัวมานั่งลงบนตัวแกร่ง แล้วยกตัวหญิงสาวนั่งลงบนที่นอนข้างๆ

 

มือหนาจับขาทั้งสองข้างของหญิงสาวขึ้นมาพาดบนตักของเขาแทน แล้วเอื้อมมือไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลที่หญิงสาววางไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือ ใกล้กันพอดี

 

“เดี๋ยวพี่ช่วยทำแผลให้น่ะ” ร่างสูงเอ่ยบอก พร้อมกับสายตาจ้องมองมาที่หัวเข่าของหญิงสาวที่มีผ้าปิดแผลไว้ทั้งสองข้าง

 

“แต่น้อง...” หญิงสาวทำท่าทีจะปฏิเสธ และมือที่พยายามดึงกระโปรงลงมาให้ปกคลุมเข่าเธอไว้ เพราะตอนนี้กระโปรงเลิกขึ้นสูง จนเห็นเรียวขาขาวเนียนนั้นหมดแล้ว

 

“กล้าทำแผลเองอยู่เหรอ...” ร่างสูงถามหญิงสาวที่นั่งมุดหน้าหนี ไม่กล้าสู้หน้าของเขา

 

“...” ปรียาภัทรไม่เอ่ยตอบ แต่ก็ไม่กล้าหันมามองแผลที่เข่าของเธอ

 

“นั่งอยู่เฉยๆ” เสียงนุ่มเอ่ยบอก พร้อมกับจับขาของเธอเอาไว้มั่น

 

พงศกรบรรจงแกะผ้าออกจากเข่าของหญิงสาวอย่างเบามือที่สุด เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่คนอย่างเขามาทำอะไรแบบนี้

 

“ซีด...เบาๆสิ” ร่างบางร้องซีดออกมา เมื่อผ้าถูกเปิดออก

 

“หึ ถ้ากลัวก็หลับตาลงสิ จะมองทำไม...” ร่างสูงเค้นหัวเราะออกมาในลำคอ พร้อมกับบอกหญิงสาวออกไป

 

“พี่ทำเป็นแน่นะ” หญิงสาวเลิกคิ้วขึ้นมาถามคนร่างสูงอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจ ที่ตอนนี้รับหน้าที่เป็นหมอจำเป็นอยู่

 

“ไม่เป็น” เสียงเรียบนิ่งตอบออกมาจากปากของร่างสูง

 

“อ้าว”

 

“หลับตา...” พงศกรเอ่ยสั่งหญิงสาวอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มถามมาก

 

“...” หญิงสาวเม้นริมฝีปากไว้แน่น ไม่เอ่ยอะไรออกมา

 

เมื่อไม่เห็นว่าหญิงสาวจะพูดอะไรออกมา ร่างสูงจึงจับมือของหญิงสาวมาวางลงที่บ่าแกร่งของเขาแทน

 

“แสบก็หยิกพี่ได้เลย หรือกอดพี่ก็ได้น่ะ พี่อนุญาต...” ร่างสูงเอ่ยแซวออกมา พร้อมกับพูดติดตลก เพื่อให้หญิงสาวคลายความกังวล

 

“พี่...โอ้ยซีด...แกล้งน้องเหรอ” ร่างบางซีดปากออกมาเสียงดัง เมื่อรู้สึกแสบที่แผล ทันทีที่ร่างสูงจุ่มลงที่แผลนั้น

 

“...อดทนหน่อยสิ แสบแค่แป๊บเดียว แผลแห้งขึ้นเยอะเลย” เสียงเข้มเอ่ยบอก โดยที่ไม่ได้มองหน้าหญิงสาวเลย เพราะสายตาโฟกัสแผลที่เข่าของหญิงสาว

 

หญิงสาวปิดตาไว้สนิท แถมเบือนหน้าหันไปทางอื่น เพราะไม่กล้ามองที่แผลของตัวเอง จนกระทั่งร่างสูงทำแผลให้ เปิดผ้าไว้จนแล้วเสร็จ หญิงสาวก็คงยังหลับตาอยู่

 

ร่างสูงที่มองดูใบหน้าของหญิงสาว ครั้งแรกที่ได้ใกล้ชิดกับเธอถึงขนาดนี้ ใบหน้ารูปทรงไข่แถมแก้มป่องนี้ ช่างน่าสนใจเสียเหลือเกิน เธอไม่ได้แต่งเติมเครื่องสำอางอะไรมาก แต่กลับดึงดูดเขามากอยู่ไม่น้อย

 

มือหนายกขึ้นมาเชยคางมน ให้หันมาประจันหน้ากัน แล้วชิงจูบทันที โดยที่หญิงสาวไม่ทันจะเริ่มตาเลย ปากหยักขบเม้มกัดที่ริมฝีปากล่างอวบอิ่มอย่างหมันเขี้ยวเพื่อให้หญิงสาวเผยอปากออก แล้วสอดลิ้นร้อนแทรกเข้าไปสำรวจชิมความหวานในโพลงปากอย่างเมามัน

 

ความรู้สึกวูบหวามที่เกิดขึ้น ทำเอาหญิงสาวที่ต่อต้านในตอนแรกเพราะตกใจ แต่ตอนนี้กลับเอียงใบหน้ารับจูบหวานล้ำจากร่างสูงโดยไม่รู้ตัว

 

ร่างสูงดันหญิงสาวลงนอนราบไปกับที่นอน จากจูบที่ดูดดื่มหวานล้ำ เริ่มแปลเปลี่ยนเป็นดุดันขึ้น ร่างสูงใช้ลิ้นร้อนตักตวงความหวานไม่หยุด มือปลาหมึกเลื่อยขึ้นมากอบกุมที่เต้าอวบแล้วสัมผัสมันผ่านเนื้อผ้านั้นอย่างห้ามไม่ได้

 

“อื้อ...”

 

ปรียาภัทรรีบดันอกแกร่งออกห่างจากเธอ เมื่อเริ่มขาดอากาศหายใจ เพราะนานหลายนาทีที่รนิมฝีปากอวบอิ่มโดนรุกล้ำ จนแดงระรื่นบวมเจ่อ หญิงสาวมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณา

 

“พี่เพชร” เสียงสั่นคลอนเรียกชื่อร่างสูง

 

“โกรธพี่หรือเปล่า”

 

“น้อง...”

 

ร่างสูงจำใจลุกขึ้น และช่วยพยุงหญิงสาวลุกขึ้นมานั่ง พร้อมกับช่วยจัดเสื้อผ้าหญิงสาวให้เข้าที่เข้าทาง แล้วจ้องมองหญิงสาวที่ตอนนี้ปากแดงบวมเจ่อ

 

“โกรธพี่เหรอ” เสียงนุ่มถามพร้อมกับมือยกขึ้นลูบที่ปากอวบอิ่มของเธอ

 

“...” หญิงสาวไม่ตอบ แต่กลับส่ายหน้าเบาๆ เธอจะกล้าโกรธเขาได้อย่างไร ในเมื่อเธอก็เผลอไผลปล่อยใจไปตามการชักจูงของเขาด้วย

 

มือหนายกขึ้นวางลงมราศีรษะของเธอ พร้อมกับโยกไปมาเบาๆ อย่างเอ็นดู พร้อมกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มผุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

 

อีกด้าน

บ้านเรืองพาณิชยากุล

“กลับมากันแล้วหรือลูก...” พัฒน์พงษ์ ผู้อาวุโสของบ้านถามลูกขึ้นมาเมื่อเห็นวาลูกชายคนเล็กพาหญิงสาว คือ พรีดา ภรรยาที่เขาให้จดทะเบียนสมรสกันนั้นเอง ที่วันนี้พากันกลับมาบ้าน

 

“ตัวแสบละครับ” พจีพัฒน์ ลูกชายคนเล็กของบ้านในวัย 20 ปี ที่กลับมาบ้านทุกหยุดเสาร์อาทิตย์ เพราะยังศึกษาอยู่ ถามพ่อออกไป เมื่อไม่เห็นลูกชายของเขาวิ่งออกมารับเหมือนทุกทีที่กลับมาบ้าน

 

“เล่นอยู่สวนหลังบ้านกับป้าพิมพ์โน้น...” พัฒน์พงษ์เอ่ยตอบลูกชายออกไป

 

“ไม่มารับพ่อกับแม่เลยน่ะ ชักจะน้อยใจแล้วล่ะสิ แล้วพวกพี่ๆล่ะครับ” พจีพัฒน์เอ่ยขึ้นมาอย่างน้อยใจ แล้วถามพ่อถึงพี่ๆของเขา เพราะดูเหมือนว่ากลับมาบ้านครั้งนี้หลังจากที่ทุ่มให้กับการเรียนอย่างหนัก เพราะต้องการจบภายในสามปี แต่ตอนนี้บ้านดูเงียบมาก

 

“ยัยแพทอยู่บนห้อง ส่วนพี่ชายแกก็น่าจะค้างคอนโดฯตามเคย” พัฒน์พงษ์ตอบลูกชายออกไปตามตรง

 

“พี่เพชรซื้อคอนโดฯ” พจีพัฒน์เลิกคิ้วขึ้นถามพ่อ

 

“อื้ม...สักพักแล้ว แต่พ่อก็ไม่รู้หรอกว่าที่ไหน” พัฒน์พงษ์พยักหน้าเป็นคำตอบให้กับลูกชาย เพื่อยืนยันว่าเป็นความจริง

 

“...” พจีพัฒน์ไม่พูดอะไร แต่กลับมีสายตาเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างมีความคิดอะไรบางอย่างผุดขึ้นมา

 

 

 

 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel