บท
ตั้งค่า

ตอนที่2 กลุ่มเพื่อน

ชายหนุ่มอ้าปากค้าง สองมือที่ถือโทรศัพท์อยู่ถึงขั้นอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรง พลันให้มันตกลงบนหน้าตัก เขาแทบไม่เชื่อสายตา ว่าผู้หญิงคนนั้นจะมายืนอยู่ต่อหน้า เป็นไปได้ไหมว่าฝันกลางวัน...หรือเป็นลมแดด...หรือไม่ก็แค่ผู้หญิงที่หน้าคล้ายกัน

สิ่งที่เขาทำต่อคือการขยี้ตาตัวเอง หลับตาปี๋แล้วมองเธอซ้ำอีกครั้ง

“นายเป็นอะไรหรือเปล่า”

หญิงสาวมาใหม่เลิกคิ้วสูงยืนจ้องหน้าปาร์ตี้ อมยิ้มนิด ๆ ทั้งคู่สบตากัน

ใช่...ลักยิ้มนั่นไม่ผิดแน่ เธอคือคนคนเดียวกับในตลาด

หัวใจชายหนุ่มเต้นระรัวขึ้นมาทันที ถึงเธอจะไม่แต่งหน้า ใส่แค่เสื้อนักศึกษาพอดีตัว กระโปรงพลีทปิดถึงหัวเข่า ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว เธอก็ยังดูน่ารัก และเด่นกว่านักศึกษาคนอื่น

เหลือเชื่อที่ได้เจอเธออีก...

“ผมเคยเจอคุณรู้เปล่า” จั๊มพ์เอ่ยแทรก ทั้งสามสาวต่างหันไปมองเขาเป็นตาเดียว รวมถึงปาร์ตี้ด้วยเช่นกัน

“มุกจีบสาวเชยไปเปล่าจั๊มพ์” ลูก้าถามต่อ พลันให้สองสาวกลั้วหัวเราะกันออกมา

“จีบอะไรก็แค่พูดความจริง”

มีแต่ปาร์ตี้ที่จำเธอได้ ว่าแล้วก็หันกลับไปมองเธออีกครั้ง เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าตัวหันมาสบตากันพอดี นัยน์ตาคู่สวยสะท้อนกับแสงแดดขับให้สีน้ำตาลดูเด่นขึ้น มันช่างดึงดูดให้ปาร์ตี้ไม่อาจละสายตาจากเธอได้

“ว่าแต่พวกนายชื่ออะไรกันเหรอ ฉันชื่อสมายด์นะ”

สมายด์...ชื่อเพราะ...สมกับรอยยิ้มของเธอ

“ฉันแพรว นี่ลูก้า จั๊มพ์ และตี้” ผู้หญิงตัวเล็กที่สุดแนะนำให้คนมาใหม่ เธอส่งยิ้มให้ทุกคนแล้วมาหยุดที่ปาร์ตี้

“ชื่อตี้...หมายถึงปาร์ตี้หรือเปล่า ผู้ชายอะไรชื่ออย่างกับผู้หญิง” เจ้าตัวเอ่ยพร้อมกับกลั้วหัวเราะ จั๊มพ์หันมามองปาร์ตี้ทันที เพราะคิดว่าเพื่อนต้องโกรธที่โดนล้อ ก็ตอนมัธยมต้นปาร์ตี้เล่นต่อยปากเพื่อนคนที่ล้อซะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เจ้าตัวโดนพักการเรียนไปเป็นเดือน และคราวนี้เขาก็คงลุกไปต่อยปากคนล้อเช่นเคย ต่อให้เป็นผู้หญิงก็เถอะนะ

สิ่งที่จั๊มพ์คิดกลับไม่ใช่...ก็ปาร์ตี้ไม่มีสีหน้าว่าโกรธเลยสักนิด หนำซ้ำยังเอาแต่จ้องคนพูดไม่วางตา แววตาของเพื่อนมันส่อว่ามีอะไรพิเศษแน่ ๆ จั๊มพ์ถึงกับยิ้มกรุ้มกริ่ม

คบกันมาตั้งนานจะไม่รู้ได้ไงว่าเพื่อนคิดอะไร...

เขาไม่ได้พูดให้เพื่อนขายหน้า แสร้งทำเป็นถามโน้นถามนี่กับสาวมาใหม่

ส่วนปาร์ตี้จากที่เมื่อครู่เอาแต่เล่นเกม ตอนนี้กลายเป็นว่าตั้งใจฟังคำตอบของหญิงสาวที่แอบปลื้ม ทุกคำถามล้วนแต่เป็นสิ่งที่เขาอยากรู้ทั้งนั้น ส่วนเธอก็ช่างพูดช่างคุยด้วย ถามแค่ประโยคเดียวแต่ตอบมาเป็นสิบ

น่ารักดี...

ปาร์ตี้แทบจะรู้ทุกเรื่องว่าก่อนหน้านี้เธอจบจากที่ไหนมา สอบเอ็นทรานซ์ได้ที่นี่คนเดียว ไม่มีเพื่อนมาเรียนด้วย รวมไปถึงอาชีพขายเสื้อผ้าที่เธอต้องกลับไปขายทุกวันตามตลาดนัด ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็ไปขายที่ตลาดน้ำที่เขาไปเจอเมื่ออาทิตย์ก่อน เธออาศัยอยู่กับแม่สองคน ฐานะทางบ้านค่อนข้างจะลำบาก และมามหา’ลัยโดยการนั่งรถเมล์

“ว่าแต่สมายด์มีแฟนยัง” จั๊มพ์ถามต่อ ทั้งวงเงียบกริบ มีแวบหนึ่งที่คนถูกถามหันมาสบตากับปาร์ตี้ แล้วหันไปถามคำถามจั๊มพ์

“มีแล้วสิ สวยอย่างฉันจะไปเหลือเหรอ” เธอพูดแกมจริงแกมเล่น พร้อมสะบัดผมทำท่าทางมั่นใจ ปาร์ตี้รู้อยู่แล้วว่านั่นเป็นความจริง ผิดกับจั๊มพ์ที่พอรู้ปุ๊บก็ทำหน้าผิดหวังหันมามองปาร์ตี้คอแทบเคล็ด

สองสาวเลยถามเรื่องสมายด์ต่อ ไม่เว้นช่องว่างให้ปาร์ตี้ได้คุยกับสมายด์สักคำ จนถึงเวลาที่เรียกให้ไปตั้งแถวหน้าลานกว้าง ฟังคำกล่าวของอธิบการบดี ที่มีแต่เรื่องไร้สาระทั้งนั้น ที่เขาพูดทั้งหมดก็แค่กฎระเบียบที่อยู่ในหนังสือปฐมนิเทศนั่นแหละ ทำเอาสีหน้าแต่ละคนเอือมระอา ไหนจะต้องมายืนตากแดด ไหนจะต้องมาฟังเรื่องไร้สาะ ดีขนาดไหนแล้วที่ไม่เป็นลมเป็นแล้งไป

หลังจากที่ผู้บริหารเอ่ยจบ ก็ถึงคราที่รุ่นพี่แต่ละคณะรับช่วงต่อ พวกเขาสั่งรุ่นน้องให้พากันเดินแยกย้ายมายังตึกหน้าคณะ แล้วมาอธิบายถึงการรับน้องรวม ซึ่งปีนี้เป็นหน้าที่ของภาคเครื่องกลเป็นคนรับผิดชอบ พวกเขาสั่งให้แต่ละสาขาส่งตัวแทนดาวและเดือนมา เพื่อแข่งประกวดเป็นดาวและเดือนคณะ และแจ้งเรื่องจัดกิจกรรมรับน้อง เวลาที่รุ่นพี่เรียกไม่ว่าตอนไหนหรือเวลาอะไร ทุกคนจะต้องมาเข้าร่วมกิจกรรม ไม่งั้นทางรุ่นพี่จะทำโทษ ทั้งหมดเป็นวัฒนธรรมที่สืบต่อมารุ่นต่อรุ่น พวกรุ่นพี่เองผ่านมาแล้วทั้งนั้น

ถึงเวลาที่แต่ละสาขาแยกย้ายเข้าคลาสเรียนกัน แต่ไม่ใช่กับเอกคอมพิวเตอร์ เพราะทุกคนถูกรุ่นพี่เรียกให้ไปยังหน้าห้องปฏิบัติการ ถูกบังคับให้นั่งลงบนหินอ่อนร้อน ๆ ที่เพิ่งโดนแดดยามเช้าเผา จะขัดขืนก็ไม่ได้เพราะรุ่นพี่ผู้ชายหน้าเหี้ยมยืนคุมแถวอยู่ด้านหน้า

ปาร์ตี้ก็เพิ่งจะรู้นี่แหละว่าเพื่อนร่วมคลาสล้วนแต่เป็นผู้ชาย มีราว ๆ เกือบยี่สิบคน และมีผู้หญิงอีกแปดคน

พวกเขาห้าคนนั่งกันอยู่แถวหลังสุด ทำตัวปกติเพื่อไม่ให้ถูกรุ่นพี่เพ่งเล็ง ทว่า...สายตารุ่นพี่ผู้ชายเอาแต่จ้องสมายด์กันเป็นตาเดียว เข้าใจว่าเธอสวย...น่ารัก เด่นที่สุดในรุ่น แต่ก็ควรเก็บอาการหน่อย เพราะสายตาแบบนั้นมันแสดงออกว่าอยากได้...บางคนถึงกับทำตาหวานเยิ้มส่อความหื่น แต่สมายด์ทำหน้าเรียบเฉยมาก ๆ ไม่สนใจและไม่แคร์สายตาพวกนั้นด้วยซ้ำ สมเป็นแม่ค้าเธอไม่มีความเคอะเขินเลยสักนิด

“น้องคนนั้นน่ะออกมาแนะนำตัวสิ”

รุ่นพี่คนหนึ่งยืนอยู่หน้าแถวชี้ไปที่สมายด์ ทุกคนที่นั่งอยู่ต่างหันหลังมามองคนถูกชี้ มีเหรอที่สมายด์จะไม่กล้า ลุกขึ้นปัดกระโปรงตัวเองก่อน จะเป็นฝ่ายเดินไปหารุ่นพี่คนที่เรียก เธอกลายเป็นเป้าสายตาอยู่ตรงหน้าแถว

“น้องบอกสิว่าชื่ออะไร”

“สมายด์ค่ะ” เธอเอ่ยเสียงปกติหันไปมองคนถาม

“ไม่ได้ยิน! พูดให้มันดังหน่อยไม่ได้เหรอ” แต่ผู้ชายคนนั้นกับตวาดใส่หน้าเธอ ทำเอาคนชอบยิ้มหุบปากหน้าซีดไปเลย

“ถามว่าชื่ออะไร หันไปพูดกับเพื่อน ๆ ดิ” รุ่นพี่อีกคนพูดแทรก ยิ่งเห็นเธอตัวสั่นเป็นนกน้อย ไอ้พวกนั้นก็ยิ่งได้ใจใหญ่ รุ่นพี่คนอื่นก็ต่างพากันยกยิ้มพอใจ ส่วนรุ่นน้องที่นั่งกันอยู่ต่างพากันเงียบ ไม่มีใครสักคนที่จะแหงนไปสู้หน้ารุ่นพี่

แต่ไม่ใช่กับปาร์ตี้...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel