บทที่ 5
"พ่อเลี้ยงครับ"
"มีอะไร" คนที่ถามก็คือเวทมนต์ที่เดินนำหน้าพ่อเลี้ยงลงมาจากชั้นบน
"พวกมันให้คนมาดูที่บ่อนครับ" ถึงแม้ว่าคนที่เข้ามาตามสืบจะไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นใคร แต่ทำไมลูกน้องของภูตะวันจะไม่รู้
"มันสงสัยไหม"
"ผมอยากให้พ่อเลี้ยงระวังตัว ให้มากหน่อยครับ" เรื่องสงสัยมันต้องสงสัยอยู่แล้วเพราะเข้ามาดูในบ่อนแล้วไม่เห็นลูกชาย
"พวกมึงกลับไปก่อน" ตั้งแต่ลงมาจากดอยวันนั้นภูตะวันก็ยังไม่ได้ขึ้นไป และเรื่องบ้านบนดอยก็ยังไม่มีใครรู้ แถมบ้านหลังนั้นอยู่นอกเขตอำนาจของกำนันสิงห์ด้วย
"ผมว่าเราเพิ่มกำลังดูแลดีกว่าไหมครับ" หลังจากลูกน้องที่มารายงานออกไปแล้ว เวทมนต์ก็ถามผู้เป็นนายดู เพราะตอนนี้มีแค่เขาและซอโซ่แค่สองคนที่คอยดูแลคุ้มกันอยู่
"มึงก็จัดมาแล้วกัน"
"แล้วนี่พ่อเลี้ยงจะไปไหนครับ" พูดยังไม่จบคำพ่อเลี้ยงก็เดินออกไปเลย
"กูก็มีอะไรให้ทำเยอะแยะ"
"ผมว่ารอก่อนดีกว่าไหมครับ ผมเพิ่งส่งข้อความให้จัดคนมาคุ้มครองพ่อเลี้ยงเพิ่ม"
"ยังไม่มีอะไรหรอกน่าทำเป็นกลัวไปได้"
ซอโซ่ที่ทำหน้าที่ขับรถพอเห็นเจ้านายขึ้นรถมาก็สตาร์ทเครื่อง
"มึงดูกระจกดีๆ ด้วยนะ"
"มีอะไรครับพี่เวท"
"กลัวไอ้กำนันนั่นมันจะเล่นไม่ซื่ออีก"
"ผมว่าไม่ทันแล้วมั้ง" ซอโซ่มองกระจกหลังในขณะที่ขับรถก็เห็นว่ามีรถอีกคันวิ่งตามมาติดๆ
"พ่อเลี้ยงก้มลงหน่อยครับ"
"มีอะไรวะ" ภูตะวันหันมองไปดูด้านหลัง เป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกปืนถูกยิงมา
ตุ๊บ! โชคดีที่รถคันนี้เป็นรถกันกระสุน เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องคราวก่อนเวทมนต์ก็สั่งเปลี่ยนรถคันใหม่
>>{"ตอนนี้พวกมึงอยู่ไหน กลับมาช่วยกูก่อน"} เวทมนต์โทรตามลูกน้องที่มาส่งข่าวเมื่อสักครู่ และก็บอกให้ลูกน้องโทรเร่งไอ้พวกนั้นมา เพราะตอนนี้เจอดีเข้าแล้ว
ซอโซ่หักพวงมาลัยเข้าซอยเล็กๆ เพื่อที่จะไปทะลุอีกซอยหนึ่ง แต่พวกมันก็ยังคงตามมา
ตุ๊บ ตุ๊บ เสียงกระสุนจากปืนเก็บเสียงกระทบกระจกกันกระสุน
"มันเล่นขนาดนี้เลยเหรอ" และเหตุการณ์ในครั้งนี้มันยิ่งเพิ่มความแค้นให้กับภูตะวันหลายเท่านัก ครั้งก่อนที่ถูกเล่นงานมันยังลอบกัดตอนกลางคืน แต่ครั้งนี้มันเล่นกลางวันแสกๆ แถมยังอยู่ในที่ชุมชนด้วย ที่ภูตะวันไม่ให้ลูกน้องยิงสวนกลับเพราะกลัวว่าจะถูกบ้านเรือนประชาชน ก็เลยต้องขับรถล่อให้มันตามมาก่อน
แต่พอขับพ้นเขตชุมชนออกมา ก็มีรถอีกคันจอดขวางหน้าอยู่
"เอาไงต่อดีพี่" ซอโซ่จำเป็นต้องหยุดรถก่อน เพราะรถคันที่จอดขวางอยู่ต้องเป็นคนของพวกมันแน่
"มึงพาพ่อเลี้ยงหลบไปทางนั้นก่อน" เวทมนต์ส่งปืนอีกกระบอกให้กับซอโซ่
"พี่นั่นแหละพาพ่อเลี้ยงไป..ทางนี้ผมจะสกัดพวกมันไว้เอง"
"มึงต้องระวังตัวดีๆ นะ เดี๋ยวคนของเราก็จะตามมาแล้ว"
"พี่รีบพาพ่อเลี้ยงไปเถอะน่า!"
ปั้ง! เสียงกระสุนจากปืนของซอโซ่ที่ยิงไปสกัดไว้ เพราะทางนี้ไม่ได้ใช้ปืนเก็บเสียง
"พ่อเลี้ยงตามผมมาสิครับ" เวทมนต์หันกลับไป ยังเห็นพ่อเลี้ยงใช้ปืนเล็งไปทางพวกนั้นอยู่
"ถ้าจะไปเราต้องไปด้วยกัน" เพราะภูตะวันรู้ดีถ้าทิ้งซอโซ่ไว้ที่นี่คนเดียวต้องถูกพวกมันเก็บแน่
ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!
"พ่อเลี้ยงครับ"
"มีอะไร" คนที่ถามก็คือเวทมนต์ที่เดินนำหน้าพ่อเลี้ยงลงมาจากชั้นบน
"พวกมันให้คนมาดูที่บ่อนครับ" ถึงแม้ว่าคนที่เข้ามาตามสืบจะไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นใคร แต่ทำไมลูกน้องของภูตะวันจะไม่รู้
"มันสงสัยไหม"
"ผมอยากให้พ่อเลี้ยงระวังตัว ให้มากหน่อยครับ" เรื่องสงสัยมันต้องสงสัยอยู่แล้วเพราะเข้ามาดูในบ่อนแล้วไม่เห็นลูกชาย
"พวกมึงกลับไปก่อน" ตั้งแต่ลงมาจากดอยวันนั้นภูตะวันก็ยังไม่ได้ขึ้นไป และเรื่องบ้านบนดอยก็ยังไม่มีใครรู้ แถมบ้านหลังนั้นอยู่นอกเขตอำนาจของกำนันสิงห์ด้วย
"ผมว่าเราเพิ่มกำลังดูแลดีกว่าไหมครับ" หลังจากลูกน้องที่มารายงานออกไปแล้ว เวทมนต์ก็ถามผู้เป็นนายดู เพราะตอนนี้มีแค่เขาและซอโซ่แค่สองคนที่คอยดูแลคุ้มกันอยู่
"มึงก็จัดมาแล้วกัน"
"แล้วนี่พ่อเลี้ยงจะไปไหนครับ" พูดยังไม่จบคำพ่อเลี้ยงก็เดินออกไปเลย
"กูก็มีอะไรให้ทำเยอะแยะ"
"ผมว่ารอก่อนดีกว่าไหมครับ ผมเพิ่งส่งข้อความให้จัดคนมาคุ้มครองพ่อเลี้ยงเพิ่ม"
"ยังไม่มีอะไรหรอกน่าทำเป็นกลัวไปได้"
ซอโซ่ที่ทำหน้าที่ขับรถพอเห็นเจ้านายขึ้นรถมาก็สตาร์ทเครื่อง
"มึงดูกระจกดีๆ ด้วยนะ"
"มีอะไรครับพี่เวท"
"กลัวไอ้กำนันนั่นมันจะเล่นไม่ซื่ออีก"
"ผมว่าไม่ทันแล้วมั้ง" ซอโซ่มองกระจกหลังในขณะที่ขับรถก็เห็นว่ามีรถอีกคันวิ่งตามมาติดๆ
"พ่อเลี้ยงก้มลงหน่อยครับ"
"มีอะไรวะ" ภูตะวันหันมองไปดูด้านหลัง เป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกปืนถูกยิงมา
ตุ๊บ! โชคดีที่รถคันนี้เป็นรถกันกระสุน เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องคราวก่อนเวทมนต์ก็สั่งเปลี่ยนรถคันใหม่
>>{"ตอนนี้พวกมึงอยู่ไหน กลับมาช่วยกูก่อน"} เวทมนต์โทรตามลูกน้องที่มาส่งข่าวเมื่อสักครู่ และก็บอกให้ลูกน้องโทรเร่งไอ้พวกนั้นมา เพราะตอนนี้เจอดีเข้าแล้ว
ซอโซ่หักพวงมาลัยเข้าซอยเล็กๆ เพื่อที่จะไปทะลุอีกซอยหนึ่ง แต่พวกมันก็ยังคงตามมา
ตุ๊บ ตุ๊บ เสียงกระสุนจากปืนเก็บเสียงกระทบกระจกกันกระสุน
"มันเล่นขนาดนี้เลยเหรอ" และเหตุการณ์ในครั้งนี้มันยิ่งเพิ่มความแค้นให้กับภูตะวันหลายเท่านัก ครั้งก่อนที่ถูกเล่นงานมันยังลอบกัดตอนกลางคืน แต่ครั้งนี้มันเล่นกลางวันแสกๆ แถมยังอยู่ในที่ชุมชนด้วย ที่ภูตะวันไม่ให้ลูกน้องยิงสวนกลับเพราะกลัวว่าจะถูกบ้านเรือนประชาชน ก็เลยต้องขับรถล่อให้มันตามมาก่อน
แต่พอขับพ้นเขตชุมชนออกมา ก็มีรถอีกคันจอดขวางหน้าอยู่
"เอาไงต่อดีพี่" ซอโซ่จำเป็นต้องหยุดรถก่อน เพราะรถคันที่จอดขวางอยู่ต้องเป็นคนของพวกมันแน่
"มึงพาพ่อเลี้ยงหลบไปทางนั้นก่อน" เวทมนต์ส่งปืนอีกกระบอกให้กับซอโซ่
"พี่นั่นแหละพาพ่อเลี้ยงไป..ทางนี้ผมจะสกัดพวกมันไว้เอง"
"มึงต้องระวังตัวดีๆ นะ เดี๋ยวคนของเราก็จะตามมาแล้ว"
"พี่รีบพาพ่อเลี้ยงไปเถอะน่า!"
ปั้ง! เสียงกระสุนจากปืนของซอโซ่ที่ยิงไปสกัดไว้ เพราะทางนี้ไม่ได้ใช้ปืนเก็บเสียง
"พ่อเลี้ยงตามผมมาสิครับ" เวทมนต์หันกลับไป ยังเห็นพ่อเลี้ยงใช้ปืนเล็งไปทางพวกนั้นอยู่
"ถ้าจะไปเราต้องไปด้วยกัน" เพราะภูตะวันรู้ดีถ้าทิ้งซอโซ่ไว้ที่นี่คนเดียวต้องถูกพวกมันเก็บแน่
ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!