ตอนที่ 3 จะมีหนูแค่คนเดียว
รถยนต์คันหรูจอดเทียบรถของเต้ยอย่างกระชั้นชิด ธนาเปิดประตูรถคันดังกล่าวและดึงคนตัวเล็กกำลังนั่งโยกร่อนสะโพกบนตักชายรุ่นไล่เลี่ยกัน
"เฮ้ย! คุณเป็นใคร" เต้ยเบิกตากว้างอย่างตะลึงลานเมื่อมีคนแปลกหน้ามาเปิดประตูในสถานการณ์ที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม
"กูเป็นพ่อน้ำหนึ่ง"
“พ่อ!!” เขาชำเหลืองมองอีกฝ่ายด้วยท่าทางเกรงกลัว เมื่อธนามีสีหน้าเอาเรื่องอย่างมากทั้งตัวใหญ่มากว่าเต้ยเป็นไหนๆ หากมีเรื่องกันในตอนนี้เขาอาจจะเสียเปรียบก็เป็นได้
"มึงกล้ามาก" กำกระชากคอเสื้อของคนเลวที่หวังจะปู้ยี่ปู้ยำลูกสาวลงมาจากรถ ง้างกำปั้นหนาชัดเข้ามุมปากของเต้ยไปสองสามครั้งโดยที่อีกฝ่ายไม่มีโอกาสวนตอบจนมุมปากนั้นอาบด้วยเลือดสีแดงสด
"ผะผมขอโทษ" กลิ่นอำมหิตผุดขึ้นอย่างน่ากลัว เต้ยรีบยกมือไหว้ครั้นไม่อาจสู้ก่อนจะได้จังหวะผลักธนาออกเต็มแรงจนคนอแก่กว่าหงายหลังลงกับพื้นแล้วรีบวิ่งขึ้นขับออกไปในที่สุด
ในส่วนของคนตัวเล็กที่ยังนั่งเปลือยกายทุรนทุรายกับอาการเร่าร้อน กัดปากแน่นลูบไล้ร่างกายตัวเอง เสื้อผ้าของน้ำหนึ่งที่ถอดออกมันดันติดไปกับรถของเต้ย ธนารีบถอดเสื้อยืดของตนสวมเข้าร่างแดงซ่านเพื่อไม่ให้คนตัวน้อยโป๊เปลือยมากจนเกินไป
"ไม่ใส่ หนึ่งร้อน" ทุรนทุรายจากอาการกระสันซ่านทั้งพยายามจะถอดมันออกอยู่เรื่อยเป็นผลให้ธนาต้องจับน้ำหนึ่งมัดแขนไขว้หลังด้วยเข็มขัดเส้นเดียวแล้วผลักให้นอนเบาะหลังของรถแล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
บ้าน
ธนารีบอุ้มลูกสาวลงจากรถเดินขึ้นบันไดในขณะที่น้ำหนึ่งก็ยังดิ้นในอ้อมของคนเป็นพ่อ เปิดประตูห้องนอนของลูกสาวแล้ว่างคนตัวเล็กลงเตียง คนอายุมากทำอะไรไม่ถูกเขาไม่เคยเห็นใครมีอาการแบบนี้ เนื้อตัวของน้ำหนึ่งแดงซ่านทั้งซึมด้วยเหงื่อเปียกชุ่มทั้งตัว ก่อนจะเปิดแอร์และลดอุณหภูมิให้ต่ำที่สุดเพื่อทุเลาอาการของลูกสาว
"อื้อ!! ร้อน หนูร้อน"
น้ำหนึ่งกระชากเสื้อยืดบนตัวจนขาดหวิ่น โยนมันลงพื้นอย่างไม่ไยดีในขณะที่ธนายังยืนมองลูกสาวออกอาการร้อนเร่าอย่างหนัก หมอนข้างใบใหญ่ถูกเรียวขาเล็กนั่งคร่อมจากนั้นสะโพกกลมส่ายร่อนน้อยๆไร้ยางอาย
"หนึ่ง มองป๊า!! มองหน้าป๊า"
ฝ่ามือหยาบแนบแก้มเล็กสองข้างเขย่าเบาๆ ร่างบางปานโดนผีเข้าตัวสั่นอย่างกับอากาศแต่ทว่าเจ้าตัวกับบอกร้อน ธนาถลกผ้าห่มห่อคนโป้เปลือยให้มิดชิด ยิ่งตอนนี้ลูกโตเป็นสาวอกองทรงเอวยิ่งโตตามอายุ ไม่น่าใช่เรื่องดีจะปล่อยให้ตนตรงหน้าล้อนจ้อนอยู่แบบนี้
"ร้อน หนูร้อนอะป๊า อื้อ~อ๊าส์"
“ใจเย็น”ลูบเส้นผมที่ปรกหลู่ปิดใบหน้าทั้งปาดเหงื่อให้ นอกจากน้ำหนึ่งที่ไม่มีสติสัมปชัญญะก็คงจะเป็นธนาที่พลันเตลิดไม่ต่างและลนลานไม่แพ้ลูกสาว
"ป๊าปล่อยหนู หนูร้อน" ร่างเล็กพยายาใมเท้าถีบผ้าห่มที่ถูกคลุมไปทั้งตัว ธนาคว้าลูกสาวกอดไว้แน่นเพื่อไม่ให้เธอดิ้นแต่ก็เหมือนว่าร่างน้อยๆจะแรงเยอะพอตัว
“หนูใจเย็นๆ หายใจเข้าลึกๆ”
"ป๊าหนูไม่ไหวแล้ว" ใบหน้าแดงก่ำหันมาหาคนอายุมากกว่า ทั้งน้ำเสียงอ้อยอิ่งของลูกสาวพลันทำให้สติของคนเป็นพ่อเป็นศูนย์ในทันที ใบหน้าทั้งสองห่างกันแค่คืบ ลมหายใจร้อนของลูกสาวตัวน้อยรดรินปลายจมูกของธนา มันทำให้เริ่มเคลิ้มไปกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไม่อาจห้าม แม้จะพยายามเตือนความวาบหวิวที่ผุดขึ้นกลางใจว่าคนตรงหน้าคือลูสาว ทว่าก็ไม่ใช่สายเลือดแท้ๆ
น้ำหนึ่งดันตัวเองขึ้นเป็นผลให้ผ้าห่มผืนหนาหลุดออกจากตัว ตอนนี้ร่างทั้งร่างขึ้นคร่อมนั่งบนตักปะป๊าของเธอที่เหลือเพียงกางเกงนอนตัวยาวเท่านั้น ส่วนท่อนบนเขาถอดออกให้ลูกสาวตัวน้อยสวมกันโป๊ตั้งแต่อยู่หน้าบาร์ไปแล้ว
ลูกสาวตัวน้อยนั่งทับตักแกร่งใช้แขนสองข้างโอบกอดต้นคอของผู้ชายที่คิดว่าเป็นพ่อโดยสายเลือดมาโดยตลอด หน้าอกหน้าใจทมันไม่ได้ใหญ่มากแต่เมื่อเทียบกับหุ่นบางร่างเล็กมันก็ช่างดูใหญ่เกินตัวมากพอสมควร บดบี้เข้ากับหน้าอกแกร่งจนเขารู้สึกได้ว่าหัวนมเล็กกำลังดันผิวเนื้อหน้าอกเค้าอยู่
"อื้อ!!" น้ำหนึ่งครางเครือแผ่วเบาทั้งอารมณ์อยากกระเส่าสั่นภายใต้อ้อมกอดของธนา ในขณะที่หัวใจดวงโตเต้นแรงตุบตับไม่ต่าง อาการแบบนี้มันเคยเกิดมาแล้วก็ตอนเจอมธุรสอดีตภรรที่เสียไปจากอุบัติเหตุเป็นผลให้เขาเลี้ยงดูน้ำหนึ่งมาตามลำพังนับสิปี ร่างเล็กยังโอบกอดลำคอแน่นและดูตอนนี้เหมือนเธอกำลังจะสงบลง ทว่าที่รับรู้ได้ต่อมาคือเย็นชุ่มเข้าที่ลาดไหล่หนา ร่างแน่งน้อยสั่งขึ้นเล็กน้อยทั้งมีเสียงสูดน้ำมูกดังขึ้นมาแผ่วเบา
"หนูไม่ใช่ลูกป๊า แล้วป๊าจะยังรักหนูเหมือนเดิมไหม" เป็นคำถามพลันทำให้ธนาใจหวิวอย่างมาก ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นไม่เคยมีความคิดจะมอบความรักให้น้ำหนึ่งน้อยลง
"ทำไมถามป๊าแบบนั้น" มือหยาบโอบเอวกิ่วกระชับแน่นพร้อมกับลูบผมสลวยของคนตัวเล็กเป็นการปลอบโยน น้ำหนึ่งคงช็อคไม่น้อยกับความจริงที่ได้ยินว่าแท้จริงเป็นเพียงลูกเลี้ยงของธนา ที่ผ่านมาชายหนุ่มเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ถะนุถนอมราวกับไข่ในหินไม่มีอะไรให้ระแคะระคายเลยสักนิดว่าเธอเป็นเพียงเด็กที่เก็บมาเลี้ยง
"หนูกลัวป๊าไม่รักหนูแล้ว อึก" สะอึกสะอื้นตัวสั่นระริกเมื่อความจริงปรากฏ เธอกลัวไปหมดทุกอย่างกลัวว่าความรักจากพ่อจะน้อยลงทั้งยังกลัวในสถานการณ์ที่รับรู้ว่าตัวเองเกิดมาเป็นเพียงเด็กกำพร้า
"ป๊ารักหนูนะคะ ไม่มีวันไหนที่จะไม่รัก ไม่ว่าหนูจะเป็นลูกของป๊าจริงๆหรือไม่ใช่ก็ตาม ป๊าก็ยังรักหนูเหมือนเดิมไม่เคยน้อยลง มันมีแต่มากขึ้นทุกวันด้วยซ้ำน้ำหนึ่ง"
มือหยาบลูบเช็ดน้ำตาให้ลูกสาวอย่างอ่อนโยน อยากจะหักห้ามอาการที่มันเป็นอยู่ตอนนี้แต่ก็อย่างว่าเมื่อไม่ใช่พ่อลูกกันโดยสายเลือดมันก็มักจะมีเส้นบางๆกั้นอยู่
"หนูรักป๊า รักมากด้วย" คนอายุน้อยโอบกอดธนาแน่นพร้อมซบหัวทุยลงบ่าหนาทั้งลมหายใจรดรินเข้าต้นคอของคนอายุมากกว่าพลางพร่ำบอกรักข้างหูเสียงหวานราวกับคู่รักสารภาพความในใจ
ความเป็นชายถูกทับด้วยบั้นท้ายกลม ยิ่งกายสัมผัสซึ่งกันและกันอย่างแนบชิดความแปลผันจากพ่อและลูกมันก็เริ่มเปลี่ยนไปกะทันหัน สองมือหนาโอบกอดเอวกิ่วกลับและพรมจูบแก้มซ้ายทีขวาอย่างเชื่องช้า บรรยากาศตกอยู่ในภวังค์บางอย่าง น้ำหนึ่งผงกศีรษะขึ้นมองหน้าของธนาด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป
"ป๊าห้ามมีใครได้ไหม หนูไม่อยากรู้สึกว่าเป็นส่วนเกิน" เสียงสั่นน้อยๆคล้ายขอร้องไม่ให้ธนามีใคร ยิ่งรู้ว่าเป็นลูกเลี้ยงก็กลัวว่าจะมีความแย่งความรักและความใส่ใจหนีจาก
"ค่ะ ป๊าไม่มีก็ได้ จะมีแค่หนูเดียวดีไหม"
"ป๊าสัญญาแล้วนะ ห้ามคืนคำ"
เป็นการให้คำมั่นสัญญากันทว่ามันกับเป็นสัญญาที่ไม่เหมือนพ่อกับลูกอีกต่อไป คนฟังฉีกยิ้มแก้มทั้งน้ำตาที่ยังไหลเปียกชุ่ม นัยน์ตาทั้งสองจับจ้องกันหวานฉ่ำราวกับมีหยดน้ำตาลไหลออกมา ดูหยาดเยิ้มเย้ายวนยุอารมณ์จนคนอายุมากควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป ความรู้สึกถ่ายทอดออกทางสายตาเกินกว่าพ่อกับลูก ธนาโน้มปากประกบจูบอย่างลืมตัว เขาสอดใส่ดูดดึงลิ้นเล็กจนเกิดเสียงน่าอายสลับใช้เรียวลิ้นตวัดหยอกล้อและเธอก็อ้ารับรสดูดดื่มจากปากปะป๊าของเธอ
น้ำหนึ่งตอบสนองธนาด้วยการหยอกล้อลิ้นกลับ แม้ไม่เคยเรื่องพวกนี้เลยแต่ด้วยอารมณ์ในตอนนี้กลับทำให้เธอทำได้โดยอัตโนมัติ เมื่อดูดดื่มแลกน้ำลายกันพอหอมปากหอคอ ธนาพรมจูบตามซอกคอขาวระหงของคนตัวเล็ก พลางบีบเคล้นยอดอกสวยตามสัญชาตญาณ ร่างเปลือยเปล่าสีน้ำนมปนกลิ่นกายเย้ายวนสร้างอณูแห่งความรักของอีกฝ่ายได้อย่างพุ่งพล่าน