ตอนที่ 3
นางฟ้า ความสนใจทั้งหมดของนายพลเดชาจึงมุ่งตรงมาที่แป้งหอม… เพราะอยากได้หล่อน
“ไม่ครับ… ไม่ลืม… ผมไม่เคยลืมบุญคุณนาย”
บุญเลิศตอบ
“ดี… ดีที่ยังไม่ลืมว่ากูเคยมีบุญคุณกับมึง… งั้นถ้าอยากทดแทนบุญคุณ กูขอลูกสาวของมึงไปอยู่กับกูได้ไหม… กูกำลังต้องการสาวใช้”
“เอ่อ… นายหมายความว่ายังไงครับ”
สิ่งที่บุญเลิศนึกกลัวกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว
“อะไรวะ… ทำไมมึงต้องตกใจขนาดนั้น… ”
นายพลยกไปป์ยาเส้นขึ้นสูบ พ่นควันสีขาวพวยพุ่งไปในเวิ้งอากาศ
ก็จะไม่ให้บุญเลิศตกใจได้ยังไง เพราะว่าเขาเคยเป็นทหารรับใช้อยู่ที่บ้านของนายพลเดชาเมื่อยี่สิบปีก่อน จึงได้รู้ถึงความลับมืดดำที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังบ้านหลังใหญ่ราวกับคฤหาสน์ของนายพลผู้นี้
“คิดให้ดีนะ… ถ้าลูกสาวมึงได้ไปเป็นคนรับใช้ที่บ้านกู… กูสัญญาว่าจะยกหนี้สินทั้งหมดกว่าสองแสนให้มึง ถือว่าเราไม่เคยติดค้างกัน… แล้วกูจะให้เงินมึงอีกหนึ่งแสนเพื่อแลกกับการให้ลูกสาวไปอยู่บ้านกู”
ดวงตาของบุญเลิศวาววาบขึ้นทันที เมื่อได้ยินข้อเสนอล่อใจที่นายพลบอก
“แล้วตอนนี้ลูกชายกูก็ยังไม่มีเมีย… ถ้าลูกสาวมึงงานดีถูกใจลูกชายกู… ก็อาจได้เป็นสะใภ้นายพล ได้เป็นเมียลูกชายกูก็สุขสบายไปทั้งชาติ”
นายพลเอาคำว่า ‘สะใภ้’ มาโน้มน้าวใจบุญเลิศ ทว่าบุญเลิศก็คิดว่ามันน่าจะเป็นเพียงคำหลอกล่อให้ตนยกลูกสาวให้
ทำแบบนี้จะต่างอะไรกับการขายลูกสาว?
วาบหนึ่งในความคิด…
บุญเลิศฉุกคิดขึ้นด้วยความรู้สึกสะทกสะท้อนใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
แต่จะทำยังไงได้…
อย่างน้อยเงินอีกหนึ่งแสนที่นายพลบอกว่าจะให้นอกเหนือจากการยกหนี้สินทั้งหมดให้ ก็มากพอที่จะเอาไปใช้หนี้พนันที่เจ้าของบ่อนส่งลูกน้องมาตามทวงทุกเช้าเย็น ซ้ำยังจนขู่ว่าถ้าไม่ใช้หนี้จะอุ้มไปเผานั่งยาง
ทำให้บุญเลิศแทบไม่เป็นอันทำงาน ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ เจ้าหนี้ที่ตัวเองแอบก่อเอาไว้เพราะผีพนันเข้าสิง
“ตกลงครับนาย… ”
บุญเลิศแทบกลั้นใจตอบ…
จุกสึกจุกแน่นอยู่ในอก เมื่อรู้ว่าลูกสาวจะต้องตกไปเป็นคนรับใช้ในบ้านหลังใหญ่ของนายพลหื่นกาม
บุญเลิศนั่งคุยกับอดีตนายเก่าต่อมาอีกครู่สั้นๆ ก่อนจะเดินมาหาลูกสาวที่กำลังนั่งหั่นสายบัวอยู่ในครัว เตรียมทำกับข้าวมื้อเย็นให้ผู้เป็นพ่อ
“แป้ง… ”
เสียงเรียกที่ดังมาจากด้านหลัง ทำเอามือที่กำลังถือมีดหั่นสายบัวต้องชะงักค้าง เพราะรู้สึกได้ถึงความเคร่งเครียดในน้ำเสียงของผู้เป็นพ่อ
“คะ… ”
หญิงสาวหันมามอง สบตากับผู้เป็นพ่อที่สีหน้าและแววตาดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
“ไปเก็บเสื้อผ้า… ”
บุญเลิศสั่งเสียงเข้ม
“เก็บเสื้อผ้า… เอ่อ… ไปไหนคะ”
แป้งหอมตกใจ
“ไปเก็บเสื้อผ้า… วันนี้แกจะต้องไปกับนายพลเดชา… แกต้องไปอยู่บ้านนายพล”
“อะไรนะ… ”
สาวน้อยอุทาน
“อย่างที่พ่อบอก… แกอย่าถามอะไรมาก เอาเป็นว่าแกจะต้องไปอยู่บ้านนายพลเดชาหนึ่งปี… เพื่อแลกกับหนี้สินที่พ่อเคยกู้ยืมเขามาเมื่อหลายปีก่อน”
บุญเลิศสรุปสั้นๆ
เพราะคิดว่าอย่างน้อยการที่ลูกสาวของตนได้ไปอาศัยอยู่บ้านคนรวย อยู่ในที่ซึ่งเจริญกว่าบ้านนอกบ้านนา ก็หมายถึงโอกาสที่ดีในชีวิต
แม้อีกใจของบุญเลิศจะนึกหวั่นและเป็นห่วงลูกสาวที่จะต้องเข้าไปอยู่ในบ้านที่มี ‘ความลับ’ หลังนั้น ความลับบางอย่างที่บุญเลิศเคยเห็นมาในช่วงที่เคยเป็นทหารเกณฑ์รับใช้อยู่ในบ้านของนายพลเดชาเมื่อยี่สิบปีก่อน
แต่นั่นก็นานมากแล้ว…
บุญเลิศคิดในแง่ดีว่าเรื่องราวเก่าๆ ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อในอดีต… วันนี้ไม่น่าจะมีแล้ว
ในเวลาต่อมา
ขณะที่รถกำลังวิ่งเข้าสู่กรุงเทพฯ เสียงเรียกดังขึ้นที่โทรศัพท์มือถือของนายพลเดชา เขากดรับสายของลูกชาย วิดีโอคอลมาจากอังกฤษ
“ว่าไงไอ้ดล… แล้วนี่จะกลับวันไหน”
นายพลกรอกเสียงไปยังต้นสายที่โทรเข้ามา เรียกลูกชายที่ชื่อ ‘นพดล’ สั้นๆ ว่า ‘ดล’ จนติดปาก
“ผมกลับเดือนหน้าครับ… พ่อสบายดีนะครับ”