บทย่อ
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
ตอนที่ 1
พ่อผัวม้าเรียกพี่
นวนิยายสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น
ผู้เขียน
กาสะลอง
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ
หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ
เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล
และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา
อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
……….
นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารอะไรนักหนา
ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์
ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง
ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง
*เราเตือนท่านแล้ว
พ่อผัว
ม้าเรียกพี่
พุทธศักราช 2563 โคราช วังน้ำเขียว
“มึงหยุดอยู่ตรงนั้นแหละไอ้ธัชน์… อย่าคิดจะเดินเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว”
ทันทีที่ประตูบ้านถูกผลักเข้ามา ‘อาชา’ วัยห้าสิบปีเจ้าของฟาร์มที่กำลังยกปืนลูกซองประทับบ่า เล็งไปยังร่างของ ‘ธัชน์’ ชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าปีที่ต้องแบกหน้ากลับมาบ้านเพราะไปไม่รอด หลังจากตัดสินใจออกจากบ้านไปเมื่อห้าปีก่อนเพราะมีสาเหตุมาจากความไม่ลงรอยในครอบครัวและนิสัยหยิ่งทะนงอวดดีของธัชน์
“ว้าย… ”
‘นามิ’ สาวน้อยลูกครึ่งญี่ปุ่นภรรยาของธัชน์ที่เดินทางมาด้วยกัน ร้องอุทานด้วยความตกใจ เมื่อเห็นปลายกระบอกปืนสีดำมันวาวชี้ตรงมายังร่างของสามี
ด้วยความกลัว นามิรีบก้มลงลนลาน กรานกราบแทบเท้าแล้วกอดขาของอาชาเอาไว้แน่น
“คุณพ่อคะ… อภัยให้พี่ธัชน์เถอะนะคะ… ที่พี่ธัชน์กลับมานี่ก็เพราะตั้งใจจะมากราบขอขมาคุณพ่อในเรื่องที่ผ่านๆ มา”
นามิรีบกล่าวแทนสามีที่ได้แต่ยืนตะลึงงัน ขาสั่นพลั่บๆ ฉี่แทบราดออกมา อ้าปากค้างไม่กล้าก้าวผ่านประตูเข้ามา ด้วยรู้ว่าอาชาเป็นคนจริง
“ได้โปรดเถอะค่ะคุณพ่อ… วางปืนลงเถอะนะคะ… ”
นามิกอดขาของอาชาแน่น ทำให้เต้านมคัพอีอวบใหญ่จนล้นออกมาจากเสื้อกล้ามคอกว้าง เบียดกับต้นขาของอาชาจนเขาเองก็ตกใจ
“หนู… ”
อาชาเหลือบตาลงมองเนื้อหนั่นสองเต้าของสาวน้อยที่เห็นแล้วใจระทวย
“งือออ… ได้โปรดวางปืนลงเถอะนะคะคุณพ่อ”
นามิวิงวอนเสียงสั่นเครือ หล่อนร้องไห้ สองมือยังกอดขาของอาชาแน่น
ในที่สุดเต้านมขนาดมหึมาของสาวน้อยที่เบียดกับต้นขากำยำ ก็ทำเอาเจ้าของบ้านใจอ่อน แต่ทว่า ‘ท่อน’ บางอย่างในเป้ากางเกงกลับคัดแข็งขึ้นมาเป็นลำยาวจนหญิงสาวสังเกตได้
“คุณพระ… ”
นามิเผลออุทานออกมาด้วยความตะลึง
อาชาสูดหายใจแรงลึก…
พยายามระงับความโกรธระคนอยู่ในอารมณ์ทางเพศ ปลายกระบอกปืนค่อยๆ ลดลงพร้อมกับอารมณ์เกรี้ยวกราดที่คลายลงได้อย่างเหลือเชื่อ เพราะความน่ารักและเย้ายวนใจของสาวน้อยที่มีนามว่านามิคนนี้
“ผมขอโทษครับพ่อ… สำหรับเรื่องที่ผ่านๆ มาให้อภัยผมนะครับ”
ธัชน์ก้มลงกราบแทบเท้าบิดา อาการหยิ่งยโสโอหังและอวดดีที่หายไปจากท่าทีของธัชน์ ทำให้อาชาใจอ่อน เพราะเอาเข้าจริงๆ อาชาไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ แต่ก็ยังไม่หายโกรธเสียทีเดียว
“ถ้าพ่อหายโกรธแล้วงั้นคืนนี้ผมขอนอนค้างคืนที่นี่นะครับ… ”
ธัชน์ได้ทีก็รีบขอ
“ยังโว้ย… กูยังไม่หายโกรธ… ”
อาชากราดเสียงใส่ลูกชาย… แววตามีประกายดุผุดวาบขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองไปยังเรือนร่างสุดเซ็กซี่สะดุดตาของสะใภ้สาวแสนสวยที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“เออ… มึงจะนอนค้างก็ได้… แต่ต้องนอนที่กระท่อมโน่น ถ้าอยากจะนอนก็นอนข้างนอกนะ… กูยังไม่ให้นอนในบ้าน”
อาชาชี้มือไปยังกระท่อมหลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่หลังบ้าน เสียงเข้มๆ เมื่อครู่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่ออาชาเหลือบไปเห็นแววตาวิงวอนของหญิงสาวที่มากับธัชน์ ก็หล่อนสวยหยาดบาดใจเหลือเกิน
“อะไรนะ… นี่ใจคอพ่อจะให้ผมนอนข้างนอกจริงๆ หรือ… ”
ธัชน์ได้ยินก็ชักสีหน้า ทว่าไม่ทันได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น นามิก็แทรกขึ้นว่า
“ได้ค่ะคุณพ่อ… พี่ธัชน์กับหนูนอนที่กระท่อมก็ได้… ไม่เป็นไรค่ะ”
นามิรีบกล่าวรับคำแทนสามีของหล่อน เพราะเห็นว่าตอนนี้ก็มืดค่ำแล้ว
“นามิ… ”
ทัชน์สะกิดแขนหญิงสาว
“คะ… ”
นามิมองหน้าสามี
“เราจะเปลี่ยนใจขับรถกลับไปนอนที่โรงแรมในเมืองก็ได้นะ… ถ้าไม่สะดวกที่จะนอนที่นี่”
ทัชน์กล่าวเบาๆ กับเมียรัก
“ไม่ค่ะ… นามิจะนอนค้างที่นี่ค่ะ พี่ธัชน์ต้องใจเย็นๆ นะคะ… อย่าลืมสิคะ… ว่าจุดประสงค์ของการกลับมาในครั้งนี้คืออะไร?”
นามิกล่าวเตือนสติสามี
“ใช่… พี่ขอโทษที่ใจร้อนไปนิด… ”
ธัชน์ฉุกคิดขึ้นได้ หันมากล่าวกับภรรยา… จริง
อย่างที่นามิเตือน เมื่อนึกถึงทรัพย์สมบัติมากมายที่อยู่ในการครอบครองของ ‘อาชา’