บท
ตั้งค่า

4 - ไปให้พ้น!

ต้องใจตื่นเช้ามาด้วยความเจ็บปวดกลางร่าง ขยับตัวก็ต้องสูดปากเจ็บความเป็นสาวที่ถูกสอดเร่าบุกรุกตลอดทั้งคืน ใช่...เชฟคนนี้หื่นมาก กว่าเขาจะถอดถอนตัวออกจากเธอได้ก็ปาไปตีห้า และดีที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์จึงตื่นสายได้ พอตื่นเต็มตาเหลือบมองนาฬิกาที่โต๊ะข้างหัวเตียงแล้วมันเป็นเวลาสิบเอ็ดโมงตรงพอดีเป๊ะ เธอดันตัวเองลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับประตูห้องถูกผลักเปิดจากด้านนอกเข้ามา

แอ๊ด!

“ตื่นแล้วเหรอครับ พี่ทำมื้อเช้าไว้ให้ กินเลยไหม” น้ำเสียงทุ้มนุ่มนวลของเชฟหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมเดินเข้ามาหาเธอยังเตียง สีหน้าของเขานิ่งขรึมไร้ความรู้สึก ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา

“ออกไป!” นั่นคือคำเดียวที่เธอคิดได้ตอนนี้ มือเล็กชี้ไปทางประตูที่เขาเดินมาทันที แต่เขาก็ไม่ทำตามยังคงเดินมาหาที่เตียงแล้วเคลื่อนตัวขึ้นมาหาบนเตียง

เผียะ!

มือเล็กของต้องใจยกตวัดใส่หน้าคนมึนทันทีเมื่อเขาคลานมาถึงตัวเอง

“ออกไปไง! ฉันบอกให้แกออกไปไงไอ้เลว! ฮือๆๆ”

สุดเสียงก็ปล่อยเสียงโฮร้องออกมาพร้อมยกมือขึ้นกุมหน้าตัวเองไม่สนใจว่าตอนนี้ผ้าห่มที่ห่มคลุมร่างเปลือยจะหล่นร่วงไปกองที่เอว และร่างกายขาวผุดผ่องก็เต็มไปด้วยรอยขบเม้มและขูดไถของเคราของเขาจนน่าสะอิดสะเอียนในความรู้สึกของเธอ

ฮือๆๆ

อธิคุณยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับตัวหนีไปตามคำไล่ เขาเจ็บที่หน้า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เม้มปากแน่น เพราะเข้าใจดีว่าตอนนี้ต้องใจโกรธตัวเองอยู่ แต่เขาไม่มีทางยอมให้เกลียดแน่นอน มือใหญ่ตวัดโอบกอดหัวไหล่ที่สั่นเทาตามแรงสะอื้นไห้ของคนที่นั่งพิงหัวเตียงแล้วรั้งเข้ามาซบอกตัวเอง

“ชูว์...ไม่ร้องนะคนดีของพี่ ไม่ร้อง จะไล่พี่ไปไหนฮึ พี่เป็นผัวเรานะ” เขาตบหัวไหล่เปลือยเปล่า แม้ตอนนี้จะรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อได้เห็นกายเปลือยสาวอวบอึ๋มที่กำลังโอบกอดในตอนนี้ แต่ก็ต้องกัดเม้มปากหักห้ามความปรารถนาตัวเองไว้

“ปล่อยฉัน อย่ามาแตะต้องตัวฉัน อึก! ฮือ” เธอสั่งปนเสียงสะอื้นพร้อมดันตัวเองออกจากอกหนา แต่เขาก็กดหัวเธอลงมาซบอกเขาอีกครั้ง

“พี่รู้ว่าเรื่องเมื่อคืนพี่ผิด แต่ไหนๆ มันก็เกิดขึ้นแล้ว เราก็อยู่ด้วยกันเนี่ยแหละ”

“ปล่อยฉัน!” น้ำเสียงเล็กสั่งดังกว่าเดิมจนเขาต้องถอนหายใจแล้วยอมปล่อยเธอขยับตัวออกห่างและตบที่สองก็ฟาดซ้ำที่แก้มข้างเดิมทันที

เผียะ!

“ออกไปให้พ้น ออกไปจากห้องฉัน เก็บข้าวของแกออกไปซะ! อึก!” เธอยกมือปาดเช็ดน้ำตาออกจากแก้มตัวเองแล้วดึงรั้งผ้าห่มขึ้นมาห่มปิดบังร่างเปลือยตัวเองให้พ้นสายตาคมของอีกฝ่าย

เฮ้อ!

เขาถอนหายใจแรงออกมาระบายความโกรธที่โดนต้องใจตบหน้าสองครั้งซ้ำที่เดิม แต่ก็รู้ว่าเธอโกรธอยู่ที่ตัวเองข่มเหงเธอเมื่อคืน มือใหญ่ของเชฟหนุ่มที่เพิ่งจับมีดทำครัวมาก่อนหน้านี้ยกขึ้นลูบแก้มสากตัวเอง หากมีกระจกได้ส่องคงมีรอยนิ้วมือของเธอประทับบนแก้มแน่นอน

“เอาล่ะ พี่รู้ว่าน้องต้องโกรธพี่ตอนนี้ เดี๋ยวพี่ไปยกข้าวมาให้กินนะ พี่ทำข้าวผัดปูให้”

“ไม่กิน! เอาของที่แกทำไปทิ้งให้หมดและออกไปจากห้องฉันด้วย” เธอตอบกลับเมื่อสูดลมหายใจเขาปอดแรงๆ และน้ำตาแห้งเหือดไปแล้วก็ชี้มือไปทางประตูเหมือนเดิม

“ทำไมดื้อฮึ พูดไม่รู้เรื่องรึไง ไม่ไปไหนทั้งนั้น เราจะอยู่ด้วยกัน”

“ไม่! ฉันไม่ให้แกอยู่ในห้องฉันแล้ว”

“พี่จะอยู่แล้วจะทำไม และพี่จะย้ายมานอนในห้องนี้ด้วย” พูดจบเขาก็ลุกลงจากเตียงเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกไปจากห้องทันที

“ฉันเกลียดแกที่สุดไอ้เชฟเลว!” แล้วก็ได้แต่ทุบตีมือกับเตียงนอนระบายความโกรธ

ด้านอธิคุณเมื่อเดินออกมาจะนำข้าวผัดปูไปให้คนอวบในห้องก็ต้องหยุดเท้าหมุนตัวเดินไปยังห้องตัวเองเมื่อเสียงโทรศัพท์ที่ตั้งเสียงไว้ดังขึ้นจึงสาวเท้าเร็วๆ ไปคว้าหยิบมากดรับสาย

“ครับแม่รุณณี”

“คุณทำอะไรอยู่ลูก”

“เพิ่งทำกับข้าวเสร็จครับ แล้วแม่ล่ะครับ มีอะไรกับคุณรึเปล่า?” เขาถามเสียงนุ่ม

“เดี๋ยวนี้แม่ต้องมีธุระด้วยเหรอถึงโทรหาเราได้ฮึ ว่าแต่เป็นยังไงบ้างอยู่กับหนูต้องเป็นยังไงบ้าง อย่าทำให้น้องรำคาญล่ะ และเรื่องผู้หญิงก็อย่าพามาห้องเด็ดขาดเข้าใจไหม”

“ครับผม คุณไม่ทำแบบนั้นแน่นอนครับ”

“อือ...แล้วเนี่ยคอนโดเราน่ะ สามเดือนจริงๆ เหรอถึงจะตกแต่งเสร็จเปิดให้เข้าพักได้ ทำไมเราไม่ซื้อที่พร้อมเข้าอยู่นะ”

“ก็มันไม่ถูกใจ แม่ครับ ผมว่าจะซื้อรถ เวลาเดินทางไปทำงานจะได้สะดวก ผมรอแท็กซี่บางทีก็นาน กว่าจะได้ไปทำงานก็สาย แถมนั่งรถไฟฟ้าที่หน้าคอนโดไปทำงานบางครั้งก็ขัดข้อง คือเมืองไทยทำให้ผมแปลกใจหลายอย่างมากครับ”

“เดี๋ยวก็ชินลูกรัก แม่คิดถึงคุณนะลูก ส่วนรถเอาที่ลูกคิดเถอะคุณ”

“คุณก็คิดถึงแม่ครับ”

“ปากหวาน ไปอยู่ที่นั่นก็ทำตัวดีๆ ด้วยล่ะ ที่นั่นเขามีประเพณีวัฒนธรรมไม่เหมือนที่นี่นะลูก”

“ครับ คุณแม่”

“แล้วกับหนูต้องเป็นยังไงบ้างลูก แม่เกรงใจหนูต้องมากที่ให้ลูกไปอยู่ด้วย แต่แต่ง เพื่อนแม่บอกไม่ต้องเกรงใจ คนกันเอง แต่แม่ก็อดเกรงใจไม่ได้”

“ก็ดีนะครับ เราเป็นรูมเมทที่เข้ากันได้ดี” ในความหมายของเขาคือเรื่องบนเตียง แต่คนเป็นแม่เข้าใจไปอีกอย่าง

“ดีแล้วที่รักของแม่ งั้นแค่นี้นะลูกรัก”

“ครับ คุณรักแม่นะครับ”

“แม่ก็รักคุณครับ” ทันทีที่แม่พูดจบ เขาก็ตัดสายวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมแล้วเดินออกจากห้องมายังในครัวเพื่อตักข้าวผัดตกแต่งจานไปเสิร์ฟคนดื้อในห้องนอน

ต้องใจคิดว่าเขาจะไม่กลับเข้ามาอีกแล้ว เธอมองไปยังคนที่เปิดผลักประตูเข้ามาพร้อมในมือมีถาดอาหารและน้ำหนึ่งแก้วเดินมาทางตนเอง และให้ตายสิ เธอเกลียดหน้านิ่งๆ ของเขา และที่สุดคือกลิ่นหอมๆ ของข้าวที่เขาถือมามันคือข้าวผัดปูที่เขาบอก น่าอายที่สุดคือท้องเธอร้องออกมาก่อนจะปฏิเสธเขา

โครก! คราก!

หึหึ

อธิคุณยกยิ้มขำในลำคอเมื่อได้ยินเสียงท้องของสาวอวบคุณภาพของตน

“หิวแล้วใช่ไหม และอย่าบอกว่าไม่หิวล่ะ พี่ได้ยินเสียงท้องร้องแล้ว” เขาวางถาดอาหารที่ถือไว้ข้างโต๊ะหัวเตียงเธอ

เงียบ!

ไม่มีเสียงตอบโต้กลับมา แต่เขามองตามสายตาของต้องใจที่ตอนนี้มันจดจ่ออยู่กับถาดข้าวผัดปูที่ถือเข้ามา

“กินเถอะ พี่จะเอาผ้าไปส่งซัก เราเถอะ มีเสื้อผ้าจะฝากไหม?” เงียบเหมือนเดิม เหมือนเขาพูดคนเดียวเหมือนเดิม

อึก!

เสียงกลืนน้ำลายลงคอดังและทำให้เชฟหนุ่มต้องยิ้มพร้อมกับโน้มหน้าลงมาฉวยโอกาสหอมแก้มนวลไปหนึ่งครั้ง

“อือ...ชื่นใจ พี่ไปล่ะ” แล้วเขาก็รีบเดินออกจากห้องไปทันทีเมื่อต้องใจหยิบหมอนจะฟาดตีตน และเธอก็ปามันใส่หลังเขา

ตุ้บ!

“ไอ้เลว!”

เมื่อปาหมอนใส่หลังเขาและเขาเดินออกจากห้องไปพร้อมประตูห้องปิดแนบสนิท และนั่งมองประตูจนแน่ใจว่าอธิคุณจะไม่กลับเข้ามาอีกแล้วก็ขยับตัวไปใกล้ถาดข้าวทันที แต่ก็ต้องสูดปากเจ็บกลางหว่างขายามขยับเคลื่อนไหว ทำไมมันเจ็บแบบนี้ ไม่ใช่ว่ามันฉีกขาดแล้วนะ แล้วดึงลิ้นชักโต๊ะข้างหัวเตียงออกหยิบกระจกออกมาพร้อมเหลือบตามองประตูจนมั่นใจว่าเขาไม่กลับมาแล้วจึงดึงผ้าห่มออกแล้วยกข้างทั้งสองชันขึ้นแยกกว้างออกแล้วตั้งกระจกไว้กลางหว่างขาเพื่อดูน้องสาวตัวเอง อยากรู้ว่ามันเป็นรูโบ๋หรือฉีกขาดหรือเปล่า เพราะเขาใหญ่มาก

“อือ...ทำไมน่ากลัวแบบนี้”

เธอเบ้ปากเมื่อได้เห็นคราบเลือดแห้งกรังติดโคนขาตัวเอง แม้มันจะเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกว่ามันน่ากลัว และก็ใช้อีกมือที่ว่างไม่ได้จับกระจกแหวกโพรงหญ้าตัวเองดูว่ามันเป็นรูโบ๋ไหม ทำไมเขาเข้าไปได้ มันแนบสนิทไม่มีรู แล้วเขาเข้าไปได้ยังไง เธอเลิกคิ้วเป็นปมอย่างสงสัยกับตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้คนที่มั่นใจว่าจะไม่กลับมาอีกนั้นเปิดประตูห้องเธอและกำลังยืนมองดูการกระทำของเธออยู่

“ยู้ฮู! เป็นอะไรไหม ฉีกขาดรึเปล่าเธอ” ตะโกนถามน้องสาวตัวเองผ่านกระจก แม้เธอจะอายุเยอะเป็นถึงครู แต่เรื่องนี้เธอไร้เดียงสามาก และการกระทำของเธอมันช่างเด็กน้อยเหลือเกิน มันทำให้คนที่ยืนกอดอกตัวเองมองดูเธอหน้าประตูยิ้มเอ็นดูและก็เผลอหลุดขำออกมา

หึหึ

ว้าย!

เธอตกใจหุบขาที่แยกกว้างทันทีพร้อมคว้าดึงผ้าห่มมาห่มปิดร่างเปลือยตัวเอง

“ให้พี่ดูให้ไหมว่าฉีกขาดไหม และให้ถ่ายรูปให้ดูไหม”

“ยะ...อย่าเข้ามานะ ไหนว่าจะไปซักผ้าไง”

“ก็ว่าจะไปแล้ว แต่อยากเปิดมาดูหน่อยว่ากินข้าวที่ทำให้ไหม”

“ยุ่ง! ไปได้แล้ว และไปหาที่อยู่ใหม่ด้วย”

“ไล่ยังไงพี่ก็ไม่ไปหรอก มีแต่พี่จะย้ายมานอนกับเราเนี่ยแหละ แล้วเจอกันนะ ทานข้าวด้วยเดี๋ยวจะผอมได้” เขาพูดจบก็เดินจากไปพร้อมปิดประตูห้องอีกครั้ง และครั้งนี้เธอนั่งนิ่งมองประตูที่ปิดแน่นรอนานจนผ่านไปห้านาทีเห็นจะได้และแน่ใจว่าเขาไปแล้วก็เก็บกระจกไว้ในลิ้นชักเหมือนเดิม ไม่กล้าทำแบบเดิมด้วยกลัวว่าเขาจะเปิดเข้ามาอีก มือเล็กหยิบยกถาดจานข้าวผัดและน้ำหนึ่งแก้วมาวางไว้ที่ตักตัวเองแล้วตักทานทันที

“ให้ตายสิ ทำไมทำกับข้าวอร่อยแบบนี้ อืม...อ่า” ปากน้อยเคี้ยวตุ้ยๆ ข้าวผัดคำแล้วคำเล่า ผ่านไปไม่นานก็หมดจานพร้อมเสียงเรอของเธอดังขึ้น

เอิ้ก!

“อ่า...อิ่มจัง”

เมื่ออิ่มแล้วก็หยิบน้ำที่อยู่ในถาดขึ้นมากินแล้ววางไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นลงจากเตียง แม้จะเจ็บยามขยับตัวและเรียวขาเสียดสีกันแต่ก็พอทนได้ เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก เธอบอกตัวเอง เพราะเมื่อคืนโดนของใหญ่กว่านี้ยังผ่านมาได้ ก่อนจะเดินลงจากเตียงไปยังตู้เสื้อผ้าเปิดหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบอกอวบหยุ่นตัวเองแล้วเดินกลับมาหยิบถาดอาหารแล้วถือเดินออกไปข้างนอกเพื่อนำไปเก็บไว้ในครัว แม้จะเจ็บกลางหว่างขาตลอดที่ขยับตัวก้าวเดิน แต่เธอก็ทนได้ เพราะทุกอย่างต้องทำเวลา เมื่อนำถาดออกมาก็จัดการล้างจานและช้อนส้อมกับแก้วน้ำไว้พร้อมมองไปยังประตูห้องก็ยังคงเงียบ เขายังไม่กลับขึ้นมา จึงเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขนมเค้กที่ซื้อมาไว้กับนมจืดสองกล่อง และเดินไปหยิบกาน้ำร้อนกับมาม่าคัพที่ตู้เก็บของและขนมขบเคี้ยวด้วย แล้วจึงหอบของกินเต็มไม้เต็มมือเดินกลับเข้าไปในห้อง เมื่อเข้ามาก็กดล็อกประตูให้เรียบร้อยและเธอก็ได้ยินเสียงประตูใหญ่หน้าห้องปิด เขากลับมาแล้วและก็ยิ้มให้กับตัวเองที่ตัวเองทำเวลาทัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel