พ่อคุณขนุนหนัง

กรี๊ด!

ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องพักของตนเองก็ร้องกรี๊ดตกใจยกมือทาบอกทันทีเมื่อเห็นผู้ชายเดินไปมาในห้องของตนเอง แถมยังเปลือยเปล่าด้วย บนตัวเขามีเพียงผ้ากันเปื้อนผืนเดียว

“น้องต้องใช่ไหมครับ?” น้ำเสียงทุ้มสุภาพเอ่ยทักสาวผู้มาใหม่ทันที โดยไม่สนใจว่าตอนนี้ตัวเองจะเปลือยเปล่ามีเพียงผ้ากันเปื้อนผืนเดียวเท่านั้นที่ปกปิดร่างกายอันแข็งแรงของตัวเองไว้

“ใช่! แล้วคุณเป็นใคร มาอยู่ในคอนโดฉันได้ยังไง” เธอเบือนหน้าหนีมองไปทางอื่นเมื่อชายแปลกหน้าเดินเข้ามาหาตัวเอง

“น้าแต่งยังไม่โทรบอกเหรอว่าพี่จะมาอยู่ด้วยสามเดือน” เขาบอกเธอพร้อมกับยื่นมือผ่านไหล่เธอเฉียดแก้มนวลไปจับขอบประตูแล้วดึงรั้งปิด

ปึก!

“แม่ให้คุณมาอยู่ที่นี่เนี่ยนะ แล้วคุณมีกุญแจได้ยังไง” เธอถามเขาและรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อต้องมายืนใกล้ชิดกับผู้ชายแปลกหน้าคนนี้และพูดต่อ

“กรุณาไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยด้วยค่ะ”

“น้าแต่งให้มาครับ และขอโทษด้วย พอดีพี่ชินน่ะ เวลาอยู่ห้องมักไม่ใส่เสื้อผ้า อีกอย่างน้าแต่งบอกว่าน้องต้องจะกลับก็ห้าโมงเย็น ไม่คิดว่าจะกลับมาไวแบบนี้” ก็นี่มันเพิ่งจะบ่ายโมง

“ค่ะ พอดีว่ากลับมาเอาของ กรุณาไปแต่งตัวให้เรียบร้อยด้วยค่ะ” เธอบอกเขาอีกครั้ง

“ครับ” แล้วเขาก็หมุนตัวเดินจากไป และสาวโสดอย่างหล่อนแทบอยากร้องกรี๊ดเมื่อเห็นก้นปอดที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของเขา มือเล็กยกขึ้นปิดตา แต่ก็เปิดทางมองลอดตามซอกนิ้วดูก้นของเขา

“คุณพระ! แม่ให้ใครก็ไม่รู้มาอยู่กับลูกสาวแม่ แม่แต่งทำแบบนี้ได้ยังไง แล้วทำไมไม่บอกกันก่อน”

เธอพึมพำกับตัวเองพร้อมยกมือทาบอกแล้วเปิดกระเป๋าสะพายล้วงหาโทรศัพท์เพื่อติดต่อหาผู้เป็นแม่ เพื่อจะถามว่ามันอะไรกัน ทำไมเขามาอยู่คอนโดเธอได้ และเขาเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงรู้จักเธอเรียกเธอสนิทแบบนั้นด้วย

“แม่แต่งหมายความว่ายังไงคะ แม่ให้ผู้ชายแปลกหน้าเข้ามาอยู่ในคอนโดลูกได้ยังไง และให้กุญแจเขาทำไมคะแม่แต่ง” ทันทีที่ปลายสายกดรับสายก็รัวถามทันที

“อุ๊ยตาย! แม่ลืมโทรบอกต้องเหรอเนี่ย”

“ค่ะ แม่ไม่ได้บอกต้องเลยว่าจะมีผู้ชายมาอยู่กับต้อง แม่แต่งทำแบบนี้ได้ยังไงคะ ลูกแม่เป็นผู้หญิงนะคะ มันไม่งามที่จะต้องอยู่กับผู้ชาย”

“ลูกแม่จ๊ะ ฟังแม่นะลูก คอนโดลูกก็มีสองห้อง แบ่งพี่คุณเขาสักห้องนะลูก พอดีคอนโดพี่เขายังตกแต่งไม่เรียบร้อยน่ะ”

“แล้วทำไมไม่ให้เขาไปเช่าที่อื่นอยู่คะ”

“น้ำใจน่ะต้องมีไหมลูก ป้ารุณณีโทรมาคุยกับแม่ว่าลูกชายจะกลับมาอยู่ไทย แต่คอนโดตกแต่งยังไม่เสร็จ แม่เลยเสนอคอนโดลูกไปและแม่ก็ว่าดีออก ประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย คอนโดลูกก็มีตั้งสองห้องจะหวงอะไรฮึ แถมพี่เขาก็โตที่อังกฤษ ไม่มีเพื่อนที่ไทยด้วย ลูกก็ช่วยดูแลพี่เขาด้วยก็แล้วกันนะคนดีของแม่”

“แต่ต้องไม่อยากอยู่กับคนแปลกหน้า อีกอย่างแม่รู้ไหมเมื่อกี้ลูกเจออะไร เปิดห้องเข้ามา อี๋...ไม่อยากจะพูดระคายตายังไม่หาย” พูดแล้วก็นึกถึงภาพเปลือยก่อนหน้านี้ทันที

“ระคงระคายตาอะไรฮึลูก” นางถามกลับมาด้วยไม่เข้าใจคำพูดของลูกสาว

“ถ้าแม่แต่งเจอ แม่แต่งคงตกตะลึงงันแบบลูกแน่นอนค่ะ เนี่ยเขามาอาศัยอยู่ ทำไมเขาทำตัวเหมือนอยู่ห้องตัวเอง เดี๋ยวลูกจะคุยกับเขาเอง แม่นะแม่ ไม่รู้เสนออะไรไป ประหยัดน่ะประหยัด แต่คนไม่เคยรู้จักกันให้มาอยู่ด้วยกันได้ยังไง แล้วแถมตั้งสามเดือนด้วย ถ้าเขาเป็นผู้หญิงลูกจะไม่ว่าเลย แต่เนี่ยผู้ชายทั้งแท่ง” พูดแล้วก็หน้าแดง ดีนะที่ผ้ากันเปื้อนปกปิดส่วนเป็นเพศชายของเขาไว้ ไม่งั้นคงได้ร้องลั่นคอนโดแน่นอน แต่ก้นน่ะ ก้นเขามันทั้งขาวทั้งแน่นเหมือนนายแบบ

‘คุณพระ!’ ต้องใจได้แต่กรีดร้องพึมพำในใจพร้อมกับทุบอกตัวเองไปด้วย และพอมองไปเห็นว่าเขาแต่งตัวเรียบร้อยไม่อวดก้น อวดร่างกายแล้วก็รีบพูดกับแม่ในสายทันที

“แม่แต่งแค่นี้ก่อนนะคะ ลูกคุยกับเขาก่อน”

“จ้าลูก ยังไงก็ดูแลพี่เขาด้วยนะ พี่เขาไม่มีเพื่อนที่ไหน พี่เขาโตที่เมืองนอก อีกอย่างที่มาไทยเพราะว่าโรงแรมที่ไทยไปซื้อตัวให้มาเป็นเชฟประจำ แถมไม่เคยมาเมืองไทยมาก่อนด้วยและ...” นางยังพูดไม่ทันจบ ลูกสาวก็พูดแทรกขึ้นมาทันทีว่า...

“พอแล้วค่ะแม่ ลูกจะคุยกับเขาเอง” แล้วเธอก็ตัดสายแม่ทันทีพร้อมกับเชิดหน้าคอตั้งปรายตามองคนที่เดินมานั่งลงโซฟาตัวตรงข้ามตนเอง ครูสาวผู้เคร่งครัดในระเบียบก็ยกขาขึ้นไขว่ห้างอย่างไว้มาด

“คุยกับน้าแต่งเหรอน้องต้อง”

แม้จะเพิ่งรู้จักกัน และได้ฟังเรื่องราวของหญิงสาวจากแม่ของเธอ เขาก็คิดว่าตัวเองสนิทไปกับเธอแล้ว และเขาก็มองสำรวจเธอตั้งแต่หัวจดเท้า เธอเป็นผู้หญิงที่แสนธรรมดา ไม่จัดจ้าน คือจืดชืดมาก มองยังไงก็ไม่มีส่วนไหนกระตุ้นอารมณ์ เพราะที่ผ่านมาเขาเจอแต่ผู้หญิงสวยยั่วยวน และที่ยอมมาพักที่นี่ตามที่แม่ของเขาบอก เพราะว่าได้เห็นรูปของหล่อนจากรูปที่แม่ให้ดูแล้วจึงตกลง เพราะอยู่ด้วยกันไปสิบปี เขาก็ไม่มีอารมณ์กับคนแบบหล่อนหรอก

“ค่ะ คุณ...”

“เรียกพี่ว่าพี่คุณก็ได้ครับ” เขาบอกเธอ

“อือ...คุณคุณ” เธอไม่อยากสนิทด้วยหรอกนะ คนชอบโชว์พรรค์นี้

“น้าแต่งว่ายังไงมั่งครับ”

“แม่แต่งบอกว่าให้คุณคุณมาอยู่ด้วยสามเดือนระหว่างรอคอนโดตกแต่งเสร็จ แต่ฉันว่าคุณน่าจะไปเช่าห้องอยู่ข้างนอกดีไหมคะ เราไม่ควรอยู่ด้วยกัน ฉันไม่อยากให้คนเข้าใจผิดถึงแม้จะอยู่คนละห้องก็จริง แต่มันไม่เหมาะสมที่ชายหญิงไม่ใช่แฟนกันจะอยู่ด้วยกัน”

“ถ้าน้องต้องไม่สะดวก งั้นพี่ขนของออกไปก็ได้ครับ” น้ำเสียงทุ้มทรงเสน่ห์เอ่ยขึ้นพร้อมลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตรของเขา

“ก็อยากให้ไปอยู่หรอกค่ะ แต่แม่ของฉันคงมาฉีกอกฉันแน่ที่ไล่คุณคุณออกจากห้อง” สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่อาจไล่เขาไปได้เมื่อนึกถึงคำพูดของแม่ เขาไม่เคยมาเมืองไทย เขาไม่มีเพื่อนคนไทย ไม่มีใคร ไม่มีครอบครัวที่นี่ อีกอย่างหล่อนก็ไม่ได้ใจจืดใจดำขนาดนั้นที่จะไล่คนอย่างเขาออกไปแบบนี้

“อือ...สรุปพี่อยู่ที่นี่ได้?”

“ค่ะ อยู่ได้ แต่จะอยู่ด้วยกันเราต้องมีกฎค่ะ ข้อแรกเลยห้ามเปลือยแบบเมื่อกี้อีก คุณคุณไม่ได้อยู่ห้องนี้คนเดียว แต่คุณอยู่กับฉันที่เป็นผู้หญิง มันไม่เหมาะสม ที่เมืองนอกอาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่ที่นี่ไทยแลนด์โอนลี่ค่ะ ห้ามแต่งแบบนี้อีก ถ้าจะถอดคือถอดในห้องส่วนตัวของตัวเองไม่ใช่ถอดเดินไปเดินมาในห้องและมีผ้ากันเปื้อนผืนเดียวติดตัว เนี่ยเมื่อกี้ยังตกใจไม่หาย เกิดมาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ และไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับภาพอุจาดตาแบบนั้นด้วยค่ะ”

เธอบอกเขาแล้วกลืนน้ำลายลงคอแรงๆ แล้วทุบอกตัวเองไปด้วยเมื่อใจสาวเรียบร้อยเต้นแรงผิดจังหวะเมื่อนึกถึงเรือนร่างชายหนุ่มก่อนหน้านี้

“ครับ” เขานั่งลงเหมือนเดิมและก็นึกตลกผู้หญิงคนนี้ นี่หล่อนกล้าว่าหุ่นเขามันอุจาดตาเหรอ ถึงจะโตที่เมืองนอก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เข้าใจคำไทยและความหมาย เพราะแม่ของเขาสอนมาดีพอควร

“และห้ามพาคนนอกมาที่ห้อง ถ้าจะพามาต้องแจ้งเจ้าของห้องก่อนค่ะ ส่วนความสะอาดอยากให้ช่วยกันรักษา ถ้าใช้ครัวก็ควรเก็บล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย และอย่างอื่นคิดได้จะบอกค่ะ อ้อ...และห้องน้ำ เราต้องใช้ด้วยกัน หวังว่าคุณจะรักษาความสะอาดนะคะ”

“ครับ พี่จะรักษาความสะอาด”

“ค่ะ ขอบคุณนะคะ ถ้างั้นขอตัวนะคะ พอดีมีสอนอยู่ค่ะ”

“ครับ เจอกันตอนเย็น”

“ค่ะ”

“มื้อเย็นจะมากินข้าวด้วยกันไหม พี่จะได้ทำเผื่อต้อง”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจะทานมาจากข้างนอก ส่วนคุณทานได้เลยไม่ต้องรอ ในตู้เย็นมีของสดมีทุกอย่าง หรืออยากได้อะไรก็ออกไปซื้อได้ค่ะ ข้างล่างคอนโดเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต”

“ครับ ว่าแต่ขอเบอร์ไว้ได้ไหม เพราะยังไงเราก็ต้องอยู่ด้วยกันสามเดือน”

“ค่ะ บอกเบอร์คุณคุณมา เดี๋ยวฉันจะโทรหาแล้วคุณก็เมมเบอร์ฉันไว้ค่ะ”

“090-XXXXXXX ครับ” แล้วเสียงโทรศัพท์ที่วางในห้องนอนของเขาก็ดังขึ้นแล้วก็เงียบไป

“ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องโทรหาฉันนะคะ ขอตัวไปหยิบของก่อนค่ะ”

“ครับ” แล้วเขาก็นั่งมองคนเย่อหยิ่งเดินจากไป

เธอชื่อต้องใจ เดือนดารา หรือต้อง วัย 27 ปี เป็นครูสอนภาษาไทย นี่คือข้อมูลที่เขารู้จากแม่ของเขา ส่วนเขามีชื่อเสียงเรียงนามว่าอธิคุณ ปกป้องฟ้า หรือคุณ วัย 35 ปี เป็นเชฟหนุ่มชื่อดังที่โรงแรมระดับเจ็ดดาวของเมืองไทยไปซื้อตัวมาทำงาน ตอนแรกเขาไม่อยากมา แต่เมื่อเห็นผลตอบแทนก็รีบตอบตกลง เขาเป็นลูกชายคนเดียวของรุณณี คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ย้ายไปทำงานที่อังกฤษ และเขาเองก็โตมาในสังคมของเมืองอังกฤษ แม่ของเขาเปิดร้านอาหารไทยที่อังกฤษ กิจการไปได้ดี แม้จะโตที่นั่นใช่ว่าจะไม่คิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนของแม่ และคิดว่าสักวันจะพาแม่ย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย และนี่คือเหตุผลอีกอย่างที่ทำให้ตัดสินใจมาทำงานที่เมืองไทย ส่วนคอนโดที่ซื้อไว้ก็ยังตกแต่งไม่เสร็จ เพราะเพิ่งติดต่อซื้อก่อนจะเดินทางมาหนึ่งอาทิตย์ ฉะนั้นเขาจึงได้มาอาศัยกับหญิงสาวแปลกหน้า เขาเองก็ใช่อยากอยู่ แต่แม่ของเขาบอกว่ามาอยู่กับต้องใจจะได้ให้เธอช่วยเหลือระหว่างอยู่เมืองไทย และเขาคิดว่าเขาใช้เวลาปรับตัวไม่นานก็คงจะคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมที่อยู่ แต่ให้ตายเถอะ มาแค่วันแรกก็ร้อนตับแตกจนต้องเดินแก้ผ้านั่นแหละ เขามันคนขี้ร้อน เคยได้ยินแต่ว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ใครจะคิดว่าร้อนบรรลัยขนาดนี้ ปกติอยู่อังกฤษเขามักเดินเปลือยในห้องประจำ ถ้ากลับมาจากทำงานก็จะถอดเสื้อผ้าทันที เหมือนกับที่เธอเห็น เพราะคิดว่าเธอจะไม่กลับมาเร็วแบบนี้ แต่มันก็อย่างที่เห็น การเจอกันครั้งแรกเขาก็แก้ผ้าอวดหุ่นแซ่บให้หล่อนเห็น แต่ที่น่าอายคือเธอบอกว่าหุ่นเขามันอุจาดตา รู้สึกเขินเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น เพราะส่วนมากผู้หญิงที่เห็นเขาเปลื้องผ้ามักจะวิ่งเข้าหาและชื่นชมหุ่นเขา แต่ต้องใจกลับไม่เป็นแบบนั้น

“ฉันไปก่อนนะคะ” เมื่อหยิบของที่ต้องการแล้วก็เดินออกมาบอกเขา และเขาก็พยักหน้ารับรู้แล้วเธอก็เดินจากไปทันที

“เฉิ่ม เชย ไร้รสนิยม จืดชืด”

เมื่อคนตัวเล็กเดินออกไปพ้นห้อง เขาก็พึมพำกับตัวเองทันที ก็หล่อนไม่มีส่วนไหนที่จะดึงดูดได้เลย มันคือคำนิยามทุกอย่างของต้องใจที่เขาคิดได้ตั้งแต่แรกที่เจอหล่อน เขาลุกขึ้นเต็มความสูงเดินไปเปิดประตูส่องดูหน้าห้องว่าเธอไปรึยัง เมื่อมองส่องหน้าห้องไม่เห็นเธอแล้วก็ปิดห้องล็อกประตูแล้วเดินไปในห้องส่วนตัวที่เมื่อก่อนเป็นห้องของแม่ของหญิงสาวยามมาพักกับเธอที่กรุงเทพฯ แม่ของเธอเป็นคนลพบุรี แม่ของเขาเองก็เช่นกัน ท่านทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียน จนพ่อของเขาเสียและแม่ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อังกฤษกับพ่อเลี้ยง เปิดร้านอาหาร แต่ก็อยู่ด้วยกันไม่นาน พ่อเลี้ยงก็มาเกิดอุบัติเหตุรถยนต์จากไป ซึ่งตอนนั้นเขาก็เพิ่งอายุแค่แปดขวบ

“ร้อนเป็นบ้า!” พอเข้ามาในห้องก็จัดการถอดเสื้อผ้าโยนไปยังเตียงแล้วเดินไปอาบน้ำดับร้อนทันที ไม่ไหว เขาจะต้องปรับตัวกี่วันกี่เดือนถึงจะคุ้นชินกับอากาศของเมืองไทยที่ร้อนระอุราวกับทะเลทรายสะฮาราก็มิปาน