ลูกชายหล่อได้พ่อ 1
ลูกชายหล่อได้พ่อ
วันนี้มีงานปิดภาคเรียนของชั้นอนุบาลและประถมฯ เป็นงานสานสัมพันธ์ระหว่างนักเรียน ผู้ปกครอง และคุณครู ซึ่งในงานก็มีการแสดงของเด็กนักเรียนทุกชั้น
งานเริ่มตั้งแต่แปดโมงครึ่ง ตรงกับเวลาเข้าชั้นเรียนของเด็กๆ
ภายในงานมีออกร้านของกินกันค่อนข้างมาก โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครองและบรรดาครูในโรงเรียนที่มาตั้งร้านขายอาหารและของกินเล่น
หลังครูใหญ่ขึ้นเวทีทักทายผู้ปกครองในงาน การแสดงต่างๆ ของนักเรียนก็เริ่มขึ้น เริ่มตั้งแต่อนุบาลจนครบทุกห้อง บาลีก็รอชมเด็กประถมหนึ่งออกมาแสดงโชว์เต้นโคฟเวอร์
บรรดาผู้ปกครองของเด็กประถม รีบไปรอถ่ายรูปหน้าเวที บาลีก็ไม่พลาดเช่นกัน แต่เพราะคนมันเยอะก็มีเบียดๆ กันบ้าง กระทั่งโดนบางคนจงใจกระแทกศอกเข้าหาจนเจ็บสีข้าง พอหันขวับไปมอง ก็ไม่แปลกใจกับสายตาหาเรื่องของรตี
เพื่อนบ้าน ที่จากเพื่อนรักสมัยเด็ก กลายเป็นเพื่อนร้ายทันที เมื่อผู้ชายที่ตนเองหมายปองมาแจกขนมจีบบาลี
และบาลีก็โต้ตอบด้วยการร้ายกลับ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของเธอที่ไอ้เจ้าวัน มันมาตกหลุมรัก ใช่ว่าโปรยเสน่ห์หรือให้ความหวังก็ว่าไปอย่าง
เพราะฉะนั้นยัยรตี ไม่มีสิทธิ์มาจงเกลียดจงชังเธอ
ขนาดแต่งงานมีลูกด้วยกัน รตีก็ยังไม่เลิกจองเวรเธอ แถมมาก่อกวนลูกชายที่น่ารักของเธออีกต่างหาก
นอกจากมันจะไม่ใช่เพื่อนของเธออีกต่อไป มันยังเป็นคนอยู่อีกไหม ที่สอนให้ลูกชายตัวเองมาล้อเลียนลูกชายของเธอ
‘ว่าเด็กไม่มีพ่อ’
อยากเบิ๊กกะโหลกไอ้เด็กชายราม แต่ก็รู้ว่าเด็กเหมือนผ้าขาว แต่เพราะผู้ใหญ่ที่เป็นถึงแม่ กลับป้ายผ้าขาวนั้นให้เป็นสีเทาเสียเอง
บาลีจึงสงสารเด็กชายรามมากกว่าจะโกรธที่มีแม่อย่าง
รตี ถ้ารตีไม่ปรับปรุงตัว วันหนึ่งลูกชายของรตีคงเป็นนักเลงหัวไม้ในตำบลนี้ ไม่ต่างจากพ่อของมัน เพราะไอ้วันก็ใช่ย่อย
การแสดงของชั้นประถมหนึ่งเริ่มแล้ว บาลีจึงไม่สนใจรตีที่ยืนอยู่ข้างๆ คอยกระทุ้งศอกใส่เมื่อได้โอกาส อยากจะเตะก้านคอมาก แต่อดทนไว้ ไม่อยากพังงานลูกชาย บาลีจึงเขยิบตัวออกห่าง
ความขุ่นมัวในใจก็จางลงทันที เมื่อเห็นร่างป้อมกับหน้าหล่อๆ ยิ้มกว้างจนตาเป็นสระอิ ขยับโยกไปตามเสียงเพลงแบบเป๊ะทุกจังหวะ
“อู้ย น้องอิฐหล่อมาก แก้มยุ้ย แถมเต้นเก่ง” คุณแม่เด็กชั้นเดียวกันกับลูกชายบาลีเอ่ยชม
“ขอบคุณค่ะ น้องนีน่าก็สวย น่ารักมากค่ะ เต้นเก่งเหมือนกัน” บาลีเอ่ยชมจากใจ เพราะเด็กหญิงนีน่า ซึ่งเต้นคู่กับลูกชายเธอก็เป็นแบบที่บาลีชมจริงๆ
“น้องอิฐโตขึ้นหัวกระไดไม่แห้งแน่ๆ หล่อจริงๆ แถมตัวสูงกว่าเพื่อนในชั้นอีก” พิมพาผู้ปกครองน้องเตเต้ เพื่อนสนิทของน้องอิฐพูดขึ้น และอีกฝ่ายก็เป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่วัยเด็กของบาลีเช่นกัน
“น้องเตเต้ก็เท่สุดๆ เลยวันนี้” บาลีชมลูกชายเพื่อนกลับ เพราะเต้นได้พลิ้วมาก
“น้องอิฐโตขึ้นต้องเป็นดาราแน่ๆ หล่อตั้งแต่เด็กแบบนี้” ผู้ปกครองอีกคนชม
บาลีเอ่ยขอบคุณแล้วยิ้มแก้มปริกับคำชมนั้น ปรายตาไปยังรตี เห็นแต่หน้าบูดบึ้งและกรุ่นโกรธ ก็แหงสิ เด็กชายราม นอกจากไม่ได้รับคำชมจากเพื่อนผู้ปกครองแล้ว เจ้าเด็กนั่นยังเต้นผิดเต้นถูก แถมจังหวะหมุนตัวก็ยังล้มลงกับพื้นอีก สร้างความขบขันให้กับเพื่อนๆ ในโรงเรียนและผู้ปกครองบางคนก็หัวเราะเสียงดัง แต่บาลีมองเด็กชายรามอย่างเห็นใจ เพราะกลับบ้านไปอาจโดนแม่ตี ที่ทำขายหน้าในวันนี้
การแสดงจบด้วยท่าเท่ๆ สวยๆ ของเด็กชั้นประถมหนึ่ง มีการโพสต์ท่าให้บรรดาผู้ปกครองถ่ายรูป จากนั้นก็ลงมาหลังเวที โดยมีบรรดาผู้ปกครองไปรอรับ เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็มานั่งชมการแสดงของเพื่อนๆ พี่ๆ ชั้นต่อไป
กระทั่งพักเที่ยง ก็พากันเดินชมร้านที่ออกงานวันนี้ ทั้งอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ของเล่นละลานตาไปหมด
บาลีพาลูกกินข้าวมันไก่ของโปรด โดยมีพิมพากับน้องเตเต้มานั่งร่วมด้วย เป็นเพื่อนกันตั้งแต่รุ่นแม่ยันรุ่นลูก เพราะพิมพาเป็นเพื่อนวัยเด็กคนเดียวที่ไม่ได้สนใจซุบซิบนินทาเรื่องพ่อของลูกชายเธอ มีอยู่บ้างที่อีกฝ่ายถาม บาลีก็บอกแค่ว่า เลิกกันก่อนท้อง พิมพาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เหมือนรู้ว่าเธอไม่อยากพูดถึงพ่อของลูก
ต่างจากที่บาลีบอกครอบครัว เพราะหากบอกว่าเลิกกันไปแล้ว ป้ามอญและลุงปราบคงอยากไปรู้จักหรือให้อีกฝ่ายรับผิดชอบเรื่องลูก ซึ่งเรื่องมันคงจะบานปลายจนเธอโกหกต่อไปไม่ไหว
...............