บท
ตั้งค่า

[1/2]

[1/2]

ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะเจอสถานการณ์แบบนี้ครั้งแรกแต่นี่มันบ่อยครั้งอยู่เหมือนกัน ครั้งแรกหลังจากนาฟเรียนจบปี 4 ไปที่บ้านเขาก็รีบส่งเขาไปเรียนต่อโทที่บอสตันเลยทันที

ในระหว่างเรียนอยู่ที่นั่นช่วงแรกๆ หยกก็ยังคงทักไลน์มาถามไถ่เขาทุกวัน จนช่วงหลังนาฟเองก็หายไปแบบไม่มีการติดต่อกันอีกเลย จนเธอคิดจะตัดใจจากเขาแล้วแต่อยู่ 2 ปีต่อมาหลังจากเรียนจบโทแล้วเขาก็โผล่หน้ามาหาเธอที่นี่ แวะเวียนมาหาเธออยู่บ่อยครั้งหลังเลิกงานจากกรุงเทพฯขับรถไปกลับเป็นว่าเล่น

เข้าใจแหละว่ารวยแต่ไม่เหนื่อยบ้างหรอ อันที่จริงเขาก็ยังไม่ได้มีความรู้สึกว่าจะรักหรือชอบหยกเลย แต่ถ้าจะให้เขาเลิกคุยกับหล่อนแล้วไปซื้อกินวันๆ คงจะไม่ดีเท่าไหร่ มีให้กินได้ตลอดแบบเธอก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ เธอน่ะรู้ใจเขาทุกอย่างแล้ว ถึงจะยังไม่รักแต่ก็ยังรู้สึกว่าเธอเป็นคนพิเศษอยู่บ้าง

หลังจากทานอาหารมื้อกลางวันด้วยกันเสร็จสับแล้ว ปิ่นหยกก็เริ่มจัดการสัมภาระของคนตัวสูงออกจากกระเป๋าเดินทางเพื่อเข้าตู้ ส่วนเจ้าของกระเป๋าใบใหญ่นั้นก็นอนเขี่ยโทรศัพท์บนเตียงอย่างสบายใจ

และด้วยอาการเพลียจากการเดินทางมาทำให้ภัทรกาฬเริ่มมีสีหน้าง่วงตาเริ่มปรือแทบจะไม่ขึ้น จนกระทั่งสักพักหนังตาทั้งสองข้างปิดสนิทลง เสียงจังหวะหายใจเข้าออกสม่ำเสมอและเริ่มมีเสียงกรนตามมา

“เฮ้อ! ก็ยังเหมือนเดิมสินะ”

ปิ่นหยกที่นั่งพับเสื้อผ้าอยู่ข้างๆ เตียงเหล่มองมาตามเสียงจังหวะการกรนของคนตัวสูง นานเท่าไหร่แล้ว สองปีได้แล้วรึเปล่าหลังจากเขาบอกกับเธอว่าจะกลับไปต่อปริญญาเอกให้จบทั้งๆ

ที่ตอนนั้นเค้ากลับมาช่วยงานที่บริษัทของพ่อเขาได้แค่ปีเดียวก็ต้องกลับไปที่นั่นอีก จะมีสักโอกาสบ้างไหมที่เธอและเขาจะได้สานสัมพันธ์กันต่อให้ถึงฝั่งของคำว่าแฟนได้สักที

ทั้งที่ก็รู้ว่ามันค้างคาใจอยู่แบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วมันควรจะเกิดคำถามได้สักทีไหมว่าควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้ แต่ทำไม? ทำไมเธอถึงไม่กล้าตัดสินใจเคลียร์ให้จบสักที คนเราถ้าไม่มีอะไรคืบหน้าก็ควรพอสักทีหรือเปล่า แล้วเธอจะอยู่สถานะแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน

“ตื่นมาอีกทีก็คงจะเย็นเลยสินะ”

หญิงสาวร่างอรชรเดินทางเบามายังข้างๆ เตียงอีกฝั่งใกล้ตรงที่ชายหนุ่มกำลังหลับอยู่ ก่อนจะค่อยๆ หย่อนก้นงามงอนลงข้างๆ เตียงแล้วโน้มใบหน้าเข้าหาภัทรกาฬที่กำลังนอนกลับอยู่แบบไม่รู้สึกตัว

ปิ่นหยกเกลี่ยสายตามองไปรอบๆ ใบหน้าของผู้ชายที่ได้ครอบครองหัวใจเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยด้วยกัน จมูกโด่งปลายโค้งราวหยดน้ำรับกับริมฝีปากหยักหนาหนุ่มน่าจุมพิต คิ้วเรียวเข้มถูกจัดแต่งทรงตามฉบับผู้ชายสำอางส่วนขนตายังงอนหนาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

เธอเคยชมเขาว่าขนตาของเขานั้นงอนจนน่าอิจฉาราวกับผู้หญิง แต่ก็ไม่แปลกหรอกเพราะเขาเองก็เป็นทั้งลูกเสี้ยวไทยจีนญี่ปุ่นและอิตาลี พ่อของภัทรกาฬเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เจ้าใหญ่ในไทย เป็นลูกครึ่งไทยอิตาลีแต่มีเลือดผสมจีนเนื่องจากมีบรรพบุรุษเป็นคนจีนด้วยเหมือนกัน

ส่วนแม่ของเขาเป็นลูกครึ่งจีนญี่ปุ่นที่มาเติบโตในไทย แถมยังมีธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับเครื่องประดับและจิวเวอรี่ทั้งในและต่างประเทศ แต่ท่านได้เสียไปแล้วด้วยโรคมะเร็งร้ายตั้งแต่เขายังเด็กมากๆ จนตอนนี้กิจการทั้งหมดของแม่ก็ถูกขายมาจุนเจือธุรกิจของพ่อ ตั้งแต่ในช่วงวิกฤตโลกเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วจนหมดเกลี้ยง

รวมๆ แล้วหล่อนก็คิดว่าภัทรกาฬเป็นคนที่เพอร์เฟคและประสบความสำเร็จมากมายซะจนปิ่นหยกคิดว่าเธอจะดีพอสำหรับเขาได้หรือเปล่า คนที่จะได้จูงมือกันเดินเข้าหอด้วยกันจะเป็นเธอที่ยืนเคียงข้างเขาได้หรือเปล่า

แต่ในเมื่อสู้มาขนาดนี้แล้วหญิงสาวไม่เคยหวังเรื่องเงินทองหรือทรัพย์อะไรที่เขามีเลยด้วยซ้ำ รู้เพียงแต่ว่าชอบคนนี้ถูกใจคนนี้และฝังใจแต่กับคนนี้มาตั้งแต่แรกแล้วจะให้เปลี่ยนใจยังไงไหวเธอเองก็เป็นคนซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองมาตลอด

17.00 น.

“อ่ะ อื้มมม”

เสียงบิดขี้เกียจหลังตื่นนอนของคนด้านบนเตียงนุ่มขนาดหกฟุตก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ จนสะดุดตาเข้ากับสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่กำลังนอนหลับพริ้มอยู่ข้างเตียงด้วยท่านั่งหลับโผล่แค่ศีรษะเอนซบลงเข้ากับที่นอน ลมหายใจเข้าออกช้าเนิบเป็นจังหวะทำให้ภัทรกาฬรู้ทันทีว่าหญิงสาวนั้นได้หลับลึกไปแล้ว

“หึ คงจะเหนื่อยมากล่ะสิท่า”

มือหนาแต่ไม่ได้ดูหยาบกร้านตามแบบฉบับผู้ชายสำอางเลื่อนไปจับปอยผมที่กำลังบดบังใบหน้าสวยหวานออก ภัทรกาฬไล่สายตามองปิ่นหยกสักพักก่อนจะสะบัดความคิดในหัวตนเองออกและลุกขึ้นยืนเดินตรงไปห้องน้ำ

แต่แล้วก็หยุดฝีเท้าตัวเองลงพร้อมกับหันหน้าเดินตรงมายังเตียงนอนอีกครั้งแล้วอุ้มร่างบางที่หลับอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวขึ้นไปนอนที่เตียง จัดท่าจัดทางให้เสร็จสับจึงเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel