บทที่ 5 เธอเป็นแฟนผม
บทที่ 5 เธอเป็นแฟนผม
ชาวเผือกที่รอชมต่างหัวเราะลั่นล็อบบี้ กลุ่มเครือญาติตระกูลชิวก็ไม่รู้จะรับมืออย่างไร
บอดี้การ์ดชุดดำสี่นายกระโดดจากเฮลิคอปเตอร์อย่างว่องไว รีบพยุงคุณชายฟางลุกขึ้น “คุณชายฟาง ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ ?”
ฟางซื่อเหาอารมณ์เสียไม่หาย ทนความเจ็บปวด เอาแหวนออกมามอบให้กับชิวมู่เฉิง เขาอยากจะให้เสร็จพิธีแต่งงานโดยเร็วที่สุด จะได้รีบไปรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาล
จิตใจของชิวมู่เฉิงว้าวุ่นไม่หยุด เธอไม่อยากยอมรับคำขอแต่งงานของฟางซื่อเหาเลยจริง ๆ แต่เธอก็ไม่กล้าปฏิเสธ
ในเวลานี้เอง เนี่ยเฟิงไม่รู้โผล่มาจากไหน แล้วยัง ปัดแหวนที่อยู่ในมือฟางซื่อเหาลงบนพื้น
“นาย ? นายเป็นใคร ?” เนื่องจากฟางซื่อเหาไม่มีฟันหน้าแล้ว เลยพูดจาขัด ๆ
เนี่ยเฟิงสแยะยิ้มแล้วพูดว่า: “ฉันเป็นสามีของชิวมู่เฉิง ! เจ้าหนุ่มน้อยฉวยตอนที่ฉันไม่อยู่บ้าน กล้ามาขอเมียฉันแต่งงานเชียวหรือ ? หน้าตาเหมือนหมูปัญญาอ่อนอย่างนาย ก็คู่ควรเหรอ ?”
“อะไร ? นายเป็นสามีของชิวมู่เฉิง ? ชิวมู่เฉิง เรื่องนี้มันเป็นอย่างไร ?” ฟางซื่อเหาถมึงตามองมายังชิวมู่เฉิง
ชิวมู่เฉิงก็ตกตะลึงเช่นกัน ตามองมายังเนี่ยเฟิง แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเนี่ยเฟิงจะเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ว่า ชิวมู่เฉิงมีสายตาที่เฉียบแหลม ดูจากท่าทาง น้ำเสียงของเนี่ยเฟิงก็สามารถตัดสินได้ เธอดีใจปนประหลาดใจเดินเข้ามาใกล้เนี่ยเฟิง ถามด้วยเสียงเบา ๆ ว่า: “นายคือเสี่ยวเฟิง ?”
เนี่ยเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า: “พี่สาว ผมเอง ผมกลับมาแล้ว”
ดวงตาของชิวมู่งเฉิงเปียกชุ่มอีกครั้ง ใช้มือข้างหนึ่งกุมมือของเนี่ยเฟิงเอาไว้ “นายคือเสี่ยวเฟิงจริงด้วย นายยังมีชีวิตอยู่ เยี่ยมไปเลย เยี่ยมไปเลย พี่คิดนายอย่างทรมานใจ...”
เนี่ยเฟิงกุมมือที่ขาวดั่งหยกของชิวมู่เฉิงไว้ พูดด้วยสายตาลึกซึ้งว่า: "พี่สาว ผมยังมีชีวิตอยู่ ผมก็คิดถึงพี่เหมือนกัน...”
ชิวมู่เฉิงพยักหน้า
ฟางซื่อเหาเห็นเนี่ยเฟิงกับชิวมู่เฉิงกุมมือกันอย่างสนิทชิดเชื้อ โดยเฉพาะ ต่อหน้านักข่าวมากมายเช่นนั้น จนตัวเองไม่เหลือหน้าตา ดวงตาเขาลุกเป็นไฟ หันมามองคุณนายใหญ่ชิว “คุณนายใหญ่ชิว หมายความว่าอย่างไร ?”
คุณนายใหญ่ชิวอดกลั้นความโกรธเอาไว้ ถามชิวมู่เฉิงว่า: “มู่เฉิง วันนี้เป็นวันมงคลของเธอกับคุณชายฟาง เธอควรระวังฐานะของตัวเอง คนผู้นี้ ฉันไม่สนว่าเป็นใคร รีบไล่เขาออกไปเสีย”
ชิวมู่เฉิงพูดอย่างจริงจังว่า:“ท่านย่า! เขาเป็นเจ้าบ่าวของหนู ก่อนหนูจะเข้ามายังตระกูลชิว เราก็หมั้นหมายกันแล้ว เมื่อก่อน หนูนึกว่าเขาเสียชีวิตไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าวันนี้เขายังมีชีวิตมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ ฉะนั้น คำสัญญาก่อนหน้าหนูขอยกเลิกทั้งหมด !”
เนี่ยเฟิงหัวเราะหึ ๆ พูดว่า: “ใช่แล้ว สามีของเธอยังมีชีวิตอยู่ เธอจะแต่งงานกับคนอื่นไปเรื่อยได้อย่างไร ?”
“เธอ พวกเธอเหลวไหลกันใหญ่แล้ว ! ”คุณนายใหญ่ชิวโมโหจนกระแทกไม้เท้าที่อยู่ในมือไปหลายที
“มู่เฉิง ลูกหลานของฉันรถคว่ำเสียชีวิตกันหมด ในปีที่เธออายุ 14 ฉันรับเธอมาเลี้ยง ฉันเห็นเธอเป็นสายเลือดแท้ ๆ หลายปีมานี้ ส่งเธอเล่าเรียน สอนเธอทำธุรกิจ ฉันทุ่มเทกับเธอไปเท่าไหร่เธอก็รู้ดี ถ้าเธอปฏิเสธคุณชายฟาง จะเสียหายต่อตระกูลชิวเท่าไหร่ ? หรือว่า เธอจะใช้วิธีนี้มาตอบแทนพระคุณที่ฉันเลี้ยงดูเธอ ?”
ชิวมู่เฉิงกล่าวว่า: “ท่านย่า หนูซาบซึ้งในพระคุณที่ท่านเลี้ยงดูหนูมา ! แต่ว่า หนูได้ตอบแทนพระคุณตระกูลชิวไปนายแล้ว เมื่อสองปีก่อน ตระกูลชิวเกิดอะไรขึ้น ท่านกับหนูต่างรู้ดี โรงแรมอินเตอร์เนชั่นแนลแห่งนี้หนูลำบากประคับประคองขึ้นมา หนูทำเพื่อตระกูลชิวมากพอแล้ว หนูไม่ขออะไร ขอแค่ได้มีชีวิตที่ตัวเองอยากมี”
คุณนายใหญ่ตระกูลชิวโมโหจนหายใจหอบ: “มู่เฉิง เธอแน่มากนะ เพื่อเจ้าหนุ่มตัวแสบนี่ เธอถึงกับบาดหมางกับฉัน ? บอดี้การ์ด เอาเจ้าหนุ่มตัวแสบนี่ โยนลงไปข้างล่าง !”
พอคุณนายใหญ่ชิวออกคำสั่ง บอดี้การ์ดหนุ่มร่างกำยำสองสามคนก็เข้ามา เพื่อจะลงมือกับเนี่ยเฟิง
เนี่ยเฟิงกำลังจะสู้กลับ ชิวมู่เฉิงกลับก้าวมาข้างหน้าตัวเนี่ยเฟิงปกป้องเขาไว้ ชิวมู่เฉิงดุดันเสียงดังว่า: “พวกเธอใครกล้า ?”
แม้จะเป็นแค่สตรี แต่ชิวมู่เฉิงเรียนการต่อสู้ที่เหนือชั้นมากับคุณตา โดยเฉพาะ การไม่เอาความโกรธมาระเบิดในสนาม บอดี้การ์ดของโรงแรมอินเตอร์เนชั่นแนลเหล่านี้ ล้วนเป็นเธอเลือกมาเองทั้งนั้น ใครไม่รู้บ้างว่าประธานชิวร้ายกาจแค่ไหน ?
บอดี้การ์ดสองสามนายตกใจจนไม่กล้าลงมือ กลับหดตัวก้าวถอยหลังไป
คุณนายใหญ่ชิวเห็นสภาพการณ์ พูดด้วยความโมโหว่า: “มู่เฉิง เพื่อเขาแล้วเธอถึงกับหักหลังตระกูลชิวเลยเหรอ ?”
ชิวมู่เฉิงพูดด้วยสีหน้าเศร้าสลดว่า: “ท่านย่า อย่าบีบคั้นหนูเลย ถ้าให้หนูต้องเลือกจริง ๆ หนูยอมถูกขับออกจากตระกูลชิว แต่ว่า ใครกล้าแตะต้องเนี่ยเฟิงแม้แต่ขนเพียงเส้นเดียว หนูจะให้มันเลือดสาดกระจายแน่ !”