บทย่อ
ข้าจะลงนรกได้ยังไงกัน ในเมื่อมีพี่สาวคนสวยพาขึ้นสวรรค์อยู่ทุกวัน
1.เชื่อมันในความรัก
เลดี้ทีเซียสมีนามว่าเฟรญ่า น้องสาวเพียงผู้เดียวของดยุคมาทอส ทีเซียส กิจการกว่าครึ่งในจักรวรรดิคือกิจการของตระกูลทีเซียส หากจะถามถึงความร่ำรวยแน่นอนว่าทีเซียสนั้นแทบจะร่ำรวยมากเสียยิ่งกว่าองค์จักรพรรดิ
และตลาดสมรสในปีนั้น เหล่าบุรุษต่างจับจ้องมองมาที่สตรีเพียงผู้เดียวนั่นคือเลดี้ทีเซียสผู้มีเรือนผมสีเงินที่แสนจะโดดเด่น ใบหน้าของเฟรญ่านั้นถือเป็นสตรีผู้งดงามตามแบบฉบับของตระกูลทีเซียสที่ได้ชื่อว่างดงามหมดจดดุจพระเจ้าทรงปั้น
ทว่าในวัยเด็กเฟรญ่าประสบอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทาง ทำให้ขาข้างซ้ายของเธอเดินเหินไม่สะดวกเท่าไหร่ เธอจะต้องใช้ไม้เท้าในการช่วยพยุง บาดแผลในวัยเด็กถึงแม้ว่าจะสาหัส แต่เพราะว่าเธอมีพี่ชายและพี่สะใภ้ที่ดีมาก ทำให้เฟรญ่าไม่ได้สนใจเรื่องที่ตัวเองนั้นเหมือนสินค้าที่มีตำหนิ
“เจ้าไม่รู้หรอกว่าข้าอับอายมากแค่ไหนเมื่อตระกูลจามินของเรามีงานเลี้ยง แล้วแกรนด์ดัชเชสเดินลงมาด้วยขาที่พิการเช่นนี้น่ะ..”
เฟรญ่าคิดว่าความรักของเธอมันจะเหมือนกับในนิยายที่เคยได้อ่าน ความรักที่สวยเหมือนกับของพี่ชายและท่านพี่เจนนีส
แกรนด์ดยุคจามินคือเครือญาติที่แสนเก่าแก่ของราชวงศ์ และท่านแอชตันคือคู่ครองที่เหมาะสม เขามีใบหน้าที่หล่อเหลาชวนฝัน อีกทั้งเขาไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจกับขาที่เดินไม่ค่อยคล่องของเธอ เราคบหากันเป็นระยะเวลาสามปีก่อนที่เฟรญ่าจะตัดสินใจแต่งงานกับเขา
เธอแต่งงานเข้ามาในตระกูลจามิน พร้อมกับสินสอดมหาศาลที่ท่านพี่มาทอสส่งมอบให้ ในช่วงแรกทั้งท่านแม่และน้องสาวของสามีดีกับเธอมากทีเดียว จนถึงช่วงที่แกรนด์ดยุคจะต้องเดินทางออกไปปราบพวกปีศาจเป็นระยะเวลากว่าสองปี
หลังจากนั้นบ้านหลังนี้ก็เหมือนกับนรกในสายตาของเฟรญ่า เธอคิดว่าตัวเองนั้นจิตใจเข้มแข็งมากทีเดียว แต่ทว่าความเข้มแข็งของเธอมันจางหายไปเมื่อถูกทั้งแม่สามีและน้องสาวของเขาก่นด่าและทำร้ายร่างกายของเธอในทุกวัน
“งานเลี้ยงวันพรุ่งนี้พี่ไม่ต้องไปร่วมงานหรอกนะคะ ข้าไม่อยากเดินเข้าไปในงานพร้อมกันกับพี่..ในเมื่อพี่เดินไม่สะดวกก็ไม่ควรจะเข้าร่วมงานนี่ ข้าอายเป็นนะ อีกทั้งท่านแม่เองก็คงจะคิดเหมือนกัน”
เพราะมาอยู่ต่างเมืองนั่นทำให้เฟรญ่าขาดการติดต่อกับพี่ชาย เธอพยายามจะส่งจดหมายไปหาท่านพี่แต่ทว่าก็ไม่เคยได้รับจดหมายตอบกลับมาเลย อีกทั้งในยามนี้เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่ในคฤหาสน์หลักด้วยซ้ำ
“ขาเจ้าเป็นเช่นนั้น เจ้าน่าจะขึ้นบันไดไม่สะดวกนี่ เพราะอย่างนั้นเจ้าย้ายไปอยู่ที่เรือนคนใช้เถอะ ที่นั่นน่าจะสะดวกสำหรับคนพิการเช่นเจ้ามากกว่าที่คฤหาสน์แห่งนี้”
เฟรญ่ากลืนความเจ็บปวดลงคอพร้อมยินยอมไปพักที่เรือนคนใช้ เธอยังคงเชื่อมั่นในความรักและคิดว่าทุกอย่างมันอาจจะดีขึ้นเมื่อสามีของเธอกลับมาจากสนามรบ
ในวันที่แอชตันกลับมา เขากลับมาที่นี่พร้อมกับสตรีผู้หนึ่งที่กำลังตั้งครรภ์..
“เจ้าต้องเข้าใจข้านะเฟรญ่า ข้าห่างเจ้าไปขนาดนั้นในความต้องการของบุรุษมันก็จะต้องมีที่ระบายกันบ้างและดาเนียนางไม่ผิดสักหน่อย..”
หากว่าสตรีผู้นั้นไม่ผิด..แล้วในคฤหาสน์หลังนี้ใครกันล่ะที่ผิด เธออย่างนั้นหรือที่ผิด เธอผิดที่เข้ามาอยู่ที่นี่เพื่อให้พวกเขาหลอกใช้ตั้งแต่ต้นอย่างนั้นหรือ?
เมื่อคิดได้ดังนั้นเฟรญ่าจึงตั้งใจว่าจะหย่า แต่หากนางเดินเข้าไปหาเขาเพื่อขอหย่าแน่นอนว่าแอชตันไม่น่าจะยินยอมเพราะเงินที่ท่านพี่ของเธอส่งมาที่นี่ในแต่ละเดือนไม่น่าจะน้อยนิด เพราะอย่างนั้นเฟรญ่าจึงตั้งใจว่าจะหนีไป!
เธอขายเครื่องประดับชิ้นสุดท้ายพร้อมกับหลบหนีออกไปจากที่นี่ แต่ด้วยขาที่ก้าวเดินไม่ค่อยถนัดของเธอมันทำให้การหลบหนีนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก เธอจ่ายเงินให้กับทหารเพื่อให้เขายินยอมเปิดประตูของคฤหาสน์ให้เธอออกไป ในวินาทีที่เฟรญ่าสัมผัสได้ถึงอิสระ
แอชตันก็ตามเธอมาในทันที เขาลากเธอไปยังด้านหลังของคฤหาสน์ที่เป็นป่าทึบก่อนจะใช้ขอนไม้ทุบบริเวณขาข้างซ้ายของเธออย่างแรง
“อะ..แอชตัน ได้โปรด!! ท่านเกลียดชังอะไรข้าหนักหนา..”
“ข้าไม่ได้เกลียดเจ้าเลยเฟรญ่า แต่ข้าจำเป็นที่จะต้องมีเงินเยอะๆ เพราะว่าลูกของข้ากำลังจะคลอดออกมา! และถ้าหากว่าข้าบอกว่านั่นคือลูกของเจ้า..ท่านดยุคคงจะมอบเงินมหาศาลให้กับจามิน ข้าไม่มีทางเลือกเฟรญ่า! ข้ารักดาเนีย นางคือสตรีที่ข้ารักและข้าจะต้องมีทีเซียส..ข้าสูญเสียบ่อเงินบ่อทองของข้าไปไม่ได้หรอกนะ..หากว่าข้า..ทะ..ทุบขาของเจ้าอีกข้างให้มันแหละละเอียด คราวนี้เจ้าก็คงจะหลบหนีไปไม่ได้แล้วสินะ เจ้าเคยรักข้านี่ ทำเพื่อข้าอีกสักครั้งไม่ได้อย่างนั้นหรือ!!”
....นี่มันอะไรกัน? ครั้งหนึ่งเธอเคยรักชายผู้นี้อย่างสุดหัวใจเพราะความเป็นสุภาพบุรุษของเขา ครั้งหนึ่งเธอเคยเชื่อมั่นว่านี่แหละคือคนที่เธอจะใช้ชีวิตอยู่กับเขาจนกว่าจะหมดสิ้นลมหายใจ
แต่ในยามนี้ชายผู้นั้นกลับเป็นคนเลือดเย็นที่กำลังพยายามจะสังหารเธอ..
“อ๊าก..แอชตัน ข้าเจ็บ!!”
ข้อเท้าข้างขวาของเฟรญ่าแหลกละเอียดในทันทีที่แอชตันใช้ไม้กระหน่ำทุบลงไป
เฟรญ่าถูกขังอยู่ในห้องมืดๆ ในทุกเดือนจะมีพ่อบ้านมาหาเธอเพื่อที่เขาจะใช้นิ้วของเธอในการพิมพ์ลงไปบนใบรับเงิน เธอมองไม่เห็นแสงสว่างเลย รอบกายมันมืดไปหมดและ..เมื่อไหร่ความตายจะเดินทางมาหาเธอสักที
“เจ้าไม่กินงั้นเหรอ?”
เสียงนั้นเอ่ยขึ้นมาในความมืดของคุกใต้ดิน
“.....”
“หากเจ้าไม่ตอบข้าจะกินแล้วนะ”
เฟรญ่าหลับตาลงเธอนอนบนกองฟางด้วยใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตา
“นี่..ข้าอยู่ที่นี่มาหลายเดือนแล้ว และข้ากำลังจะหาทางหลบหนีล่ะ เจ้าอยากไปด้วยกันกับข้าไหม”
เสียงนั้นเอ่ยขึ้นมาในความมืดมิด เขาพูดความว่าหลบหนีออกมางั้นเหรอ? แต่เธอไม่มีขานี่ จะวิ่งหนีไปได้ยังไงกัน
“ท่าน..จะแหกคุกออกไปงั้นเหรอคะ”
“ใช่ เจ้าอยากไปด้วยกันไหม ไปจากที่นี่”
เฟรญ่าพ่นลมหายใจออกมายาวเหยียด
“หากว่าท่านสามารถทำลายกรงขังพวกนี้ได้ ท่านช่วยทิ้งดาบเอาไว้ให้ข้าสักเล่มก็พอ ข้าในยามนี้ต้องการมากกว่าการหลบหนี และสิ่งที่ข้าต้องการไม่มีใครให้ข้าได้นอกจากข้าจะส่งมอบสิ่งนั้นให้ตัวเอง”
อีกฝั่งของห้องเงียบไปสักพัก
“เอาเช่นนั้นก็ได้ ข้าจะทิ้งดาบของข้าเอาไว้”
หลังจากนั้นการแหกคุกก็เริ่มต้นขึ้น เฟรญ่ามองไม่เห็นอะไรเลย เธอได้เย็นเสียงดาบกระทบกันพร้อมกับกลิ่นคาวของเลือดที่คละคลุ้งขึ้นมา มือของเธอลูบไล้ไปมาบนดาบและเฟรญ่าพบว่ามันสลักชื่อเอาไว้
มาร์เซล.. นั่นคงจะเป็นชื่อของเขาอย่างนั้นสินะ
เฟรญ่ายกยิ้มขึ้นมามันเป็นรอยยิ้มที่มีความสุขมากที่สุดในช่วงเจ็ดปีเธอเป็นแกรนด์ดัชเชสเลย เธอต้องตาย เพราะหากว่าพวกเขาไม่มีลายนิ้วมือของเธอเพื่อประทับลงไปบนใบรับเงิน ปรสิตพวกนั้นก็จะไม่ได้รับเงินจากท่านพี่อีก!!
ความเคียดแค้นในใจของเฟรญ่าทำให้ความหวาดกลัวต่อความตายมันจางหายไปจนหมด หากเธอได้มีโอกาสอีกครั้ง..คราวนี้เธอจะไม่เป็นเฟรญ่าคนเดิมที่บูชาความรักอีกแล้ว!!