บท
ตั้งค่า

6 : พาน้องเที่ยว

เมื่อวานเธอใช้เวลาอยู่ในบ้านพักตากอากาศทั้งวันช่วยป้าจัดแจกันตกแต่งบ้านพัก และวันนี้มันก็น่าอยู่ขึ้นเยอะ เธอทำกับข้าวมื้อเช้าช่วยคุณป้าแล้วพูดคุยกันเรื่องออกไปเที่ยว แต่ท่านบอกว่าอยากนอนพักผ่อน อ่านนิยายเรื่องใหม่อยู่ที่บ้านมากกว่าออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก เธอจึงขอออกไปเดินเล่นรอบฟาร์มทิ้งท่านอยู่ในบ้านอ่านหนังสือเงียบๆ

“ตากันต์ วันนี้ให้ชอนหรือมาร์กพาน้องไปหัดขี่ม้าหน่อยนะ แม่อยากให้น้องลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำดู”

“เดี๋ยวนะครับ ลูกชายตัวเองก็ว่าง ทำไมไม่ให้กันต์พาน้องไปหัดขี่ม้า”

“แม่ไม่ไว้ใจกันต์”

“แล้วแม่ไว้ใจชอนกับมาร์กมากกว่าผมเหรอครับ” กันต์ลุกจากโซฟาตัวที่ตนนั่งมานั่งเบียดแม่ที่โซฟาตัวยาว

“ก็เราน่ะมันคิดไม่ซื่อ ชอนกับมาร์กน่ะเอ็นดูน้องแบบน้องสาว แต่เราน่ะจ้องแต่จะเขมือบน้อง รอฉวยโอกาสตลอด”

“แม่รู้จักผมดีขนาดนี้แล้วจะกลัวทำไมครับ ยังไงซะ ผมก็จะฉวยโอกาสกับหนูณิอยู่แล้ว ถึงไม่รอจังหวะโอกาส ผมก็ทำได้ถ้าผมอยากทำ แต่ผมกลัวน้องตกใจเลยพยายามใจเย็นหักห้ามความต้องการของตัวเอง”

“จ้า พ่อมาเฟีย”

“แล้วเนี่ยหนูณิไปไหนครับ ทำไมไม่เห็น หรืออยู่ในครัวครับ”

“น้องออกไปเดินเล่นรอบๆ ฟาร์มน่ะ เดี๋ยวก็กลับมา เพราะใกล้ได้เวลามื้อเช้าแล้ว”

“อ้อ...เรื่องไปหัดขี่ม้า ผมจะเป็นคนสอนเอง เพราะชอนกับมาร์กงานยุ่ง”

“ยังไงก็จะดื้อไปสอนเองใช่ไหมตากันต์”

“แน่นอนครับ อีกอย่างถ้าผมหักห้ามใจตัวเองไม่อยู่และทำอะไรเกินเลยไป แม่ไม่ต้องห่วง ผมรับผิดชอบอยู่แล้ว เพราะนั่นคือว่าที่ ‘เมีย’ ของผมเชียวนะ”

“อย่ามั่นใจหน่อยเลยว่าหนูณิจะเลือกลูก”

“ผมทำให้หนูณิของแม่เลือกไม่ได้เลยต่างหากล่ะครับ” เขาเอ่ยอย่างมีเลศนัย

“แม่จะคอยดูก็แล้วกันว่าน้องจะเลือกลูกไหม ชอนมีอะไรรึเปล่า” แล้วนางก็ถามคนที่เดินเข้ามาหน้าเครียด

ชอนเดินมาก้มหัวเคารพทั้งสองแล้วก็เอ่ยขึ้น

“นายครับ มีงานด่วน”

“อืม! ไปคุยกันที่ห้องฉัน ผมไปนะครับแม่”

แล้วกันต์ก็ลุกขึ้นเดินนำชอนไปยังห้องพักส่วนตัวของตนเอง สีหน้าของชอนเครียดขรึมบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นเรื่องสำคัญ

ปึก!

พอเข้ามาในห้อง กันต์ก็ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงของตนมองไปนอกหน้าต่างตรงหน้าตนเอง ส่วนชอนก็ยืนอยู่ด้านหลังพูดรายงาน

“คนของเราบอกว่าคนของไอ้โอดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวฟาร์มครับ”

“เป็นอย่างที่ฉันสังหรณ์ใจไม่มีผิด สั่งคนของเราให้จับตาดูพวกมันไว้ ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ ไอ้โอดินมันจะโผล่หัวออกมาจากกะลาที่มันซ่อนตัว แล้วมาร์กว่าไง”

“มาร์กกำลังพาคนไปจัดการพวกของไอ้โอดินครับ”

“อือ...จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย และอย่าทำให้ทุกคนในบ้านตกใจกลัว ทำทุกอย่างให้เป็นปกติ นายก็อยู่ดูแลแม่ฉัน อย่าให้ท่านเป็นอะไรเป็นอันขาด”

“ครับนาย”

“ส่วนมาร์กก็ดูแลจัดเก็บพวกกระจอกนั่นให้หมด อย่าให้พวกมันมีลมหายใจกลับมาแว้งกัดเรา”

“ครับนาย”

“แล้วคุณณิล่ะครับ”

“ฉันจะดูแลเอง นายดูแลแม่ฉันให้ดีก็พอ”

“ครับนาย” แล้วชอนก็ออกจากห้องของเจ้านายปล่อยให้เจ้านายอยู่คนเดียว

กันต์ได้ยินเสียงประตูห้องปิดสนิทก็เดินไปเปิดลิ้นชักโต๊ะข้างหัวเตียงของตนหยิบบุหรี่และไฟแช็กออกมาแล้วก็ต่อบุหรี่ไปยืนดูดบุหรี่ที่ระเบียงเพื่อให้ตัวเองผ่อนคลายอารมณ์ เขาดูดบุหรี่อยู่ชั้นสองของบ้านมองไปด้านล่างเห็นณิการ์เดินผ่านมาพอดีและเธอก็แหงนเงยขึ้นมาเห็นตอนที่เขาเอาบุหรี่เข้าปากพอดีก็รีบดึงออก

“ไปเดินเล่นมาเหรอหนูณิ”

“ค่ะ” สาวน้อยตอบสั้นๆ แล้วก็เดินไป ไม่สนใจเขาที่อยู่บนชั้นสอง

“หรือต้องเลิกดูดบุหรี่วะ!” เขาเห็นสีหน้าที่แสดงออกชัดเจนของณิการ์เมื่อกี้ว่าไม่ชอบเวลาตนดูดบุหรี่

กันต์ก้มมองบุหรี่ที่มีควันสีเทาลอยออกมาจากปลายบุหรี่แล้วก็ยกขึ้นมาดูดอัดควันเข้าปอดก่อนจะทิ้งมันลงพื้นระเบียงแล้วใช้เท้าใหญ่ของตนบดบี้ขยี้ให้ไฟที่บุหรี่มอดดับ

“คงต้องเลิกแกแล้วว่ะ! เด็กไม่ชอบ” เขาบอกลาบุหรี่ที่ตนมอดดับไฟแล้วเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกไปจากห้อง เมื่อเห็นว่าณิการ์กลับมาแล้ว แสดงว่าได้เวลาทานมื้อเช้าแล้ว

มื้อเช้าวันนี้เป็นเมนูง่ายๆ ข้าวต้มกุ้ง เหมาะสำหรับมื้อเช้าและบรรยากาศดีๆ ในเช้านี้ และเป็นฝีมือของณิการ์เสียส่วนใหญ่ นงลักษณ์ทำหน้าที่เป็นลูกมือเท่านั้น กันต์ชักชอบอาหารรสมือของณิการ์เสียแล้ว ติดใจจนคิดว่ากับข้าวที่ใครทำก็ไม่อร่อยเท่าน้องน้อยทำแล้ว แต่มีคนหนึ่งที่ทำอร่อยไม่แพ้กันคือแม่ของเขา

“หนูณิ วันนี้พี่จะพาไปหัดขี่ม้านะ” กันต์เอ่ยหลังจากทานข้าวและของหวานอิ่ม

ณิการ์หันไปมองคุณป้าเพื่อขอความเห็น

“ไปเถอะลูก ป้าอยากให้หนูหัดทำอะไรใหม่ๆ มั่ง” แม้ไม่อยากให้ลูกชายเป็นคนสอนณิการ์ขี่ม้า แต่ทำยังไงได้ ไอ้ตัวดีของนางดื้อรั้นจะเป็นคนสอนเอง

“ค่ะ แต่ณิขอไปตอนบ่ายนะคะ ตอนเช้าณิอยากออกไปเที่ยวคาเฟ่ใกล้ๆ แถวนี้ค่ะ พอดีว่าดูในกูเกิลมีคาเฟ่สวยๆ น่าไปถ่ายรูปมากค่ะ ณิขอให้พี่ชอนหรือพี่มาร์กพาณิไปได้ไหมคะคุณกันต์ แต่ถ้าไม่ได้ ณิไปขอให้ลุงชมพาไปได้ค่ะ”

ลุงชมที่เธอพูดถึงคือคนดูแลบ้านหลังนี้นั่นเอง และเมื่อเช้าเธอก็ได้พูดคุยกับท่านและท่านก็แนะนำที่เที่ยวใกล้ๆ บ้านพักให้หลายที่ด้วยทำให้เธออยากไป

“ชอนกับมาร์กไม่ว่าง น้าชมต้องทำงาน ส่วนพี่ว่าง พี่พาเราออกไปเที่ยวคาเฟ่ได้แล้วค่อยกลับมาฟาร์มตอนบ่ายไปหัดขี่ม้า” กันต์เอ่ยเสียงเข้มขรึม

“ณิไม่อยากรบกวนคุณกันต์ค่ะ”

“ไม่รบกวน พี่เต็มใจพาหนูณิไปเที่ยวคาเฟ่ อีกอย่างระหว่างเราไม่มีคำว่ารบกวนรู้ไหม ใช่ไหมครับแม่ เราก็ครอบครัวเดียวกันจะเกรงใจอะไรกัน”

“ให้พี่เขาพาไปเถอะหนูณิ” ลูกชายดื้อจะเป็นคนพาไปก็ต้องยอม ถึงห้ามขัดขวางยังไงมาเฟียตัวดีของนางก็หาวิธีเอาชนะได้อยู่ดี

“ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวณิขอไปแต่งตัวก่อนนะคะ” แล้วสาวน้อยก็ลุกจากเก้าอี้ออกไปจกาห้องทานข้าว

“เดี๋ยวกันต์เก็บโต๊ะทานข้าวเองครับ แม่ก็ไปพักผ่อนอ่านนิยายของแม่เถอะ”

“ดูแลน้องดีๆ ล่ะ ห้ามทำให้น้องกลัวเด็ดขาด”

“นอกจากแม่แล้วก็มีแค่ผมเนี่ยแหละที่ดูแลหนูณิได้ดี” กันต์พูดตอบท่าน

“ไม่ต้องล้างนะลูก แม่จะล้างเอง”

“กันต์ทำเองครับ แค่นี้เอง” เขาบอกท่าน

“ตามใจเถอะ” แล้วนางก็เดินจากไปปล่อยลูกชายจัดการเก็บโต๊ะทานข้าวอย่างที่พูด

แม้จะไม่ชินทาง แต่กูเกิลแมพก็ทำหน้าที่บอกทางได้ดี เป็นคาฟ่ที่สวยเหมาะกับคนตัวเล็กในชุดเดรสชีฟองลายดอกไม้สีหวานอย่างที่ชอบใส่ ผมยาวสวยของณิการ์พัดปลิวลู่ลมที่พัดต้องกระทบ และยามเคลื่อนไหวร่างน้อยก็อรชรอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอมเป็นที่สุด

“หนูณิอยากกินอะไร พี่ไปสั่งให้”

“ไม่เป็นไรค่ะ ณิไปสั่งเองได้ค่ะ”

“ไม่เป็นไร พี่ไปสั่งให้ หนูณินั่งรอตรงนี้แหละ”

“ขอโกโก้เย็นวิปครีมพิเศษนะคะ”

“รอแป๊บนะ เดี๋ยวพี่ไปสั่งให้แล้วจะมาถ่ายรูปให้” แล้วกันต์ก็เดินไปสั่งเครื่องดื่มให้แม่กวางน้อยของตนกับเครื่องดื่มของตนหน้าเคาน์เตอร์

“ขอบคุณนะคะ” เธอรู้สึกเขินเหมือนว่ามาเดตยังไงก็ไม่รู้ พอเขาไป เธอก็รีบพิมพ์ไลน์ส่งข้อความเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนเองตอนนี้จนใจเต้นแรงแทบจะทะลุออกมานอกอกเสื้อแล้วให้แหวนรู้

ด้านกันต์นั้นเขามองสำรวจบรรยากาศรอบคาเฟ่แล้วก็มองเห็นคนแปลกหน้า คาดว่าจะเป็นคนของโอดินที่ตามตนมา แต่แค่นี้ไม่คณามือเขาหรอก เขามีปืนสั้นพกติดตัวมาด้วย และที่เลือกไม่ให้คนของตนติดตามมาด้วยเพราะต้องการความเป็นส่วนตัวกับน้องน้อย พอมองไปรอบๆ แล้วก็มาหยุดสายตาที่แผ่นหลังเล็กของน้องน้อยที่น่าทะนุถนอม เขาหยุดสายตาไว้ตรงแผ่นหลังของณิการ์แล้วก็ยิ้มออกมา ภายใต้แว่นกันแดดสีดำ ตาของเขากำลังเป็นประกายแพรวพราว แล้วก็ต้องดึงสติกลับมาเมื่อพนักงานบอกว่ากาแฟของตนและโกโก้เย็นพิเศษวิปครีมของณิการ์เสร็จแล้ว คาเฟ่นี้เงียบสงบ ลูกค้าไม่เยอะจึงได้เครื่องดื่มไว

“ขอบคุณครับ” พนักงานตกใจตั้งแต่เขาเดินมาสั่งเครื่องดื่มด้วยแล้ว ก็เล่นพูดไทยชัดแจ๋ว ไม่คิดว่าฝรั่งผิวสีจะพูดไทยได้ชัดขนาดนี้

“ผมเป็นลูกครึ่งไทยครับ” เขาบอกไขข้อสงสัยให้พนักงานที่มีสีหน้าตกใจตั้งแต่เขาพูดไทยตอนสั่งเครื่องดื่มแล้ว

“อ้อ...ครับ” พนักงานยิ้มแก้เขิน

กันต์ยกยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินถือเครื่องดื่มไปหาน้องน้อยที่นั่งรอตนเองอยู่

“ได้แล้วครับหนูณิ” เขาวางแก้วของเธอให้เธอ

“ขอบคุณนะคะ”

“มีขนมหวานด้วยนะ อยากกินไหม พี่ไปสั่งให้”

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่โกโก้พิเศษวิปครีมก็พอแล้วค่ะ”

“ถ่ายรูปไหม พี่ถ่ายให้”

“ณิเกรงใจค่ะ ณิถ่ายเองดีกว่า”

“เกรงใจอีกแล้ว เราครอบครัวเดียวกันนะหนูณิ เกรงใจอะไรกัน”

“คือ...”

“มาพี่ถ่ายให้ และถ่ายคู่กันด้วยนะ ครั้งแรกเรามาเที่ยวด้วยกันสองคน” เขาบอกคนตัวเล็กแล้วใช้โทรศัพท์ของตัวเองถ่ายรูป

ณิการ์ตั้งตัวไม่ทันเมื่ออยู่ๆ เขาก็หยิบโทรศัพท์มารัวถ่ายรูปของเธอ จะให้โพสท่าก็ไม่รู้จะโพสท่าไหน เพราะเขินอายคนถ่ายให้

ไม่ว่าจะมุมเผลอ มุมตั้งใจ ในสายตาของกันต์แล้วณิการ์สวยน่ารักสดใสเสมอ เขาจับจูงมือน้อยพาเดินไปถ่ายรูปให้ทั่วมุมร้าน แม้ว่าคนตัวเล็กจะเขินอายตน แต่เขาก็ไม่สนใจ เพราะเขาอยากมีช่วงเวลาดีๆ กับสาวน้อยของเขา

อุ๊ย!

ณิการ์ตกใจเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกกอดจากด้านหลัง กันต์กอดคอเธอเกยหน้ากับไหล่เล็กแล้วอีกมือก็จับโทรศัพท์ยกสูงจะถ่ายรูป

“รูปคู่ของเราไง ยิ้มนะ” เขาบอกน้องน้อยให้ยิ้ม ก่อนจะกดถ่ายและจังหวะนั้นเอง เขาก็หันมาจุ๊บแก้มนวล

“คุณกันต์!”

“ก็หนูณิน่ารักจนพี่อยากหอมแก้ม”

“อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ” เธอดิ้นขัดขืนและก็ได้รับอิสระ

“ไปคาเฟ่อื่นกันเถอะ”

“ณิเหนื่อยแล้วค่ะ อยากกลับ” แล้วเธอก็เดินก้มหน้าออกไปจากร้าน

“เขินและโกรธได้น่ารักแบบนี้ ไม่ให้พี่หลงได้ไงหนูณิ” เขาพึมพำกับตัวเองแล้วเดินไล่หลังคนเดินก้มหน้าแดงระเรื่อออกไปจากร้าน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel