บทที่ 6
บทที่ 5
วันสำคัญของชีวิต วันที่จะเปลี่ยนจากชีวิตของการเป็นสาวโสด เป็นหญิงสาวที่มีครอบครัวอย่างสมบูรณ์ วันที่จะเป็นการเริ่มต้นของชีวิตคู่ระหว่างหนุ่มสาวสองคนกำลังจะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งวันข้างหน้านี้ พันธิสาก็อยากเซอร์ไพรส์คู่หมั้นหนุ่ม ซึ่งจะเป็นการเซอร์ไพรส์ครั้งสุดท้ายสำหรับคำว่า ‘คู่หมั้น’ เพราะในวันถัดไปเธอกับนักรบจะแต่งงานกัน จะใช้คำว่าสามี ภรรยา แทนคำว่าคู่หมั้น...
ใบหน้าของว่าที่เจ้าสาวระบายด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ดวงตากลมโตเป็นประกายขณะหลุบมองอาหารที่ถืออยู่ในมือ
เย็นวันนี้เธอเข้าครัวทำอาหารโปรดที่คู่หมั้นหนุ่มชอบที่สุดมาเสิร์ฟพร้อมกับไวน์แดงรสนุ่ม มาเสิร์ฟให้กับเขาถึงคอนโด เธอจะเซอรไพรส์คู่หมั้นและจะรับประทานอาหารมื้อค่ำในฐานะคู่หมั้นเป็นวันสุดท้าย พรุ่งนี้เธอจะทำอาหารและรับประทานอาหารในทุกๆ มื้อกับนักรบในฐานะของสามีภรรยา
เมื่อต้องการมาเซอร์ไพรส์คู่หมั้นหนุ่ม จึงไม่มีการเคาะประตูห้องให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงการมาถึงของเธอ ถึงแม้นักรบจะล็อกห้อง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะเธอมีกุญแจห้องของเขาอีกหนึ่งชุด พอไขกุญแจได้แล้วก็ค่อยๆ เปิดประตูห้องอย่างแผ่วเบา เพราะเกรงว่าคู่หมั้นหนุ่มจะได้ยินเสียงการมาถึงของเธอและจะไม่เซอร์ไพรส์
“คุณรบต้องดีใจและเซอร์ไพรส์แน่ที่เราทำอาหารที่เขาชอบมาให้ทาน”
พันธิสาพึมพำพูดกับตัวเอง ใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข อีกทั้งอยากเห็นเหลือเกินว่าคู่หมั้นหนุ่มจะทำหน้าอย่างไรกับอาหารสุดพิเศษที่เธอนำมาเซอร์ไพรส์เขา
แต่...เท้าเล็กก้าวเดินได้แค่ไม่กี่ก้าวก็มีอันต้องชะงักกึกแทบก้าวเดินต่อไม่ได้ราวกับถูกตอกให้ติดยึดแน่นอยู่กับพื้นห้องก็ไม่ปาน เมื่อได้ยินเสียงครางกระเส่าดังมาจากห้องนอนของคู่หมั้นหนุ่ม
“โอ้ววว...เยส...เบบี้...อ้ารรร์...”
แน่นอนว่าเสียงครางดังลั่นราวกับกำลังทำกิจกรรมบนเตียงอยู่เป็นเสียงของคู่หมั้นของเธอ และเสียงไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้ ยังคงดังมาให้ร่างของพันธิสาตัวสั่นด้วยความโกรธรระคนตกใจเมื่อรู้ว่านักรบ คู่หมั้นของเธอหิ้วผู้หญิงมานอนก่อนจะแต่งงานกับเธอแค่เพียงคืนเดียวเท่านั้น
“อ้ารรรร์ ซี๊ดดด...โอ้ววว...เยส...เยส...”
พันธิสากัดเม้มริมฝีปากไว้แน่น แทบเป็นลมให้ได้กับการถูกคู่หมั้นทรยศ และด้วยอยากเห็นกับตาให้รู้ดำรู้แดงและจะได้ถอนหมั้นโดยไม่ต้องมีข้อกังขา เท้าเล็กที่แทบไม่มีแรงยืนก็ค่อยๆ พาผู้เป็นเจ้าของเดินตรงไปยังห้องนอนของนักรบ
และไม่ต้องเสียเวลาเปิดประตู เพราะประตูห้องนอนถูกเปิดทิ้งไว้อยู่แล้ว ซึ่งทำให้
พันธิสาเห็นภาพของคนสองคนที่เปลือยกายล่อนจ้อนกำลังนัวเนียพัวพันกันอย่างเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่บนเตียงกว้าง
แต่พอเห็นคู่ขาที่นักรบกำลังเล่นเซ็กด้วยอย่างเมามันส์อยู่กับใครบางคนที่เธอคาดไม่ถึงมาก่อน อาหารและไวน์แดงที่ถืออยู่ในมือก็ร่วงตกลงพื้น ดวงตากลมโตเบิกกว้างราวกับถูกผีหลอก ร่างบางสั่นสะเทิ้มจะเป็นลมให้ได้ และไม่รู้ตัวว่าหลุดเสียงเรียกคู่หมั้นกับคู่ขาของเขาออกมาได้อย่างไร
“คุณรบ มิสเตอร์ลูคัส! โอ้ววว ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย”
ใบหน้าของพันธิสาแดงเถือกด้วยเลือดขึ้นหน้า แต่คราวนี้ไม่ใช่เพราะความโกรธ แต่เป็นเพราะอาย...อับอายที่ต้องมาเห็นคู่หมั้นหนุ่มกำลังเล่นเซ็กอย่างเมามันส์กับมิสเตอร์ลูคัส คนที่นักรบอ้างว่าเป็นลูกค้าวีไอพีของเขา
เจ้าของชื่อทั้งสองคนเผยอาการตกใจให้เห็นแค่ชั่วขณะ ที่พันธิสามาเห็นกิจกรรมรักของพวกเขา ทั้งสองผละออกจากกันชั่วครู่ จากนั้นมิสเตอร์ลูคัสก็หยิบบุหรี่มาจุดสูบก่อนจะยื่นให้กับนักรบและตบท้ายด้วยการจูบปากของนักรบอย่างดูดดื่มโดยไม่สนใจสายตาของพันธิสาที่ยังยืนจ้องมองด้วยอาการสั่นสะเทิ้ม
“อธิบายให้คู่หมั้นคุณฟังซะ”
ออกคำสั่งแล้วมิสเตอร์ลูคัสก็เดินไปตรงมุมบาร์ รินบรั่นดีมากระดกเข้าปากโดยไม่คิดหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ทั้งๆ ที่มีบุคคลที่สามอยู่ในห้องด้วย
ทางด้านของนักรับ พอรับบุหรี่มาอัดเข้าปอดลึกๆ แล้วก็เผยสีหน้าหงุดหงิดใจให้เห็นที่ถูกขัดจังหวะทั้งๆ ที่กำลังจะขึ้นสวรรค์กับคู่ขาอยู่ร่อมร่อแล้ว
ก่อนที่นักรบจะอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น พันธิสาก็เป็นฝ่ายเอ่ยออกมาซะก่อน
“ไม่ต้องอธิบาย ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ใบเฟิร์นเชื่อตามคำเม้าส์ของชาวบ้านแล้วว่าคุณเป็นเกย์และกินผู้ชายบ่อยๆ ใบเฟิร์นไม่น่าโง่เลย น่าจะเชื่อตามที่ได้ยินตั้งแต่แรกแล้ว”
พันธิสาเอ่ยด้วยความเจ็บใจ จากนั้นก็ถอนแหวนเพชรออกก่อนจะขว้างลงบนเตียงกว้างที่ยับยู้ยี่เพราะเพิ่งถูกใช้เป็นเวทีรักระหว่างสองชายเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
“ใบเฟิร์นขอถอนหมั้น จะไม่มีงานแต่งงานระหว่างเราเกิดขึ้นทั้งนั้น”
นักรบไม่ได้แสดงอาการเสียใจหรือรู้สึกผิดแม้แต่นิดเดียวที่คู่หมั้นล่วงรู้ความจริงเกี่ยวกับตัวเขา ชายหนุ่มปรายตามองแหวนเพชรที่ถูกขว้างมาบนเตียงนอน ก่อนจะเอ่ยตอบให้พันธิสาเจ็บปวดใจมากกว่าเดิม
“ขอบคุณที่ถอนหมั้นให้ ผมไม่อยากบอกเลยว่ารอเวลานี้มานานแค่ไหน และถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป ช่วยล็อกประตูห้องตอนออกไปด้วย”
พันธิสาเจ็บปวดเกินกว่าจะทนเห็นหน้าอดีตคู่หมั้นได้ และเริ่มรู้สึกสะอิดสะเอียน เพราะขณะกำลังจะหมุนตัวเดินออกจากห้อง มิสเตอร์ลูคัสก็เดินกลับมาหานักรบพร้อมกับจูบปากกันอย่างดูดดื่มทำท่าจะต่อบทสวาทที่เหลือทั้งๆ ที่ยังมีเธอยืนอยู่ตรงหน้า
“บ้าที่สุด!”
พันธิสาสบถลั่น หมุนตัววิ่งออกจากห้องของนักรบอย่างรวดเร็ว ซึ่งคนที่เป็นเจ้าของห้องไม่ได้สนใจหญิงสาวแม้แต่นิดเดียว เขากำลังนัวเนียกับคู่ขาและต้องการต่อบทรักอันเร่าร้อนที่เหลือให้จบ ให้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดหลังจากที่ถูกขัดจังหวะเพราะอดีตคู่หมั้นสาว
พันธิสาก้าวขึ้นรถยนต์แล้วขับรถออกจากลานจอดรถพร้อมกับน้ำตานองหน้า หัวใจแตกสลายและช็อกกับสิ่งที่พบเจอเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
หากนักรบมีเซ็กกับผู้หญิงเธอคงตกใจน้อยกว่านี้ แต่นี่...นักรบมีคู่ขาเป็นผู้ชาย และดูท่าว่าเขากับมิสเตอร์ลูคัสเป็นคู่ขากันมานานหลายปีแล้ว เพียงแค่เธอเป็นคนโง่ที่ไม่รู้ก็เท่านั้นเอง
จากคอนโดของนักรบมาถึงผับของตัวเอง โดยปกติแล้วต้องใช้เวลาในการขับรถราวๆ หนึ่งชั่วโมง แต่ในครั้งนี้พันธิสาขับรถราวกับเหาะ ใช้เวลาแค่สามสิบนาทีก็แล่นรถมาจอดหน้าผับ ก่อนที่เจ้าของผับจะเดินเร็วๆ เข้าไปในผับพร้อมกับตะโกนบอกกับแฟร์รี่ เลขาฯ ส่วนตัวว่า
“ปิดผับ วันนี้งดรับลูกค้า”
จู่ๆ ได้รับคำสั่งแบบเร่งด่วนที่ไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าจากเจ้านายสาว ทำเอาแฟร์รี่ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง รีบเดินตามเจ้านายสาวพร้อมกับตั้งคำถามรัวเร็ว
“ทำไมถึงปิดผับคะคุณใบเฟิร์น ลูกค้าเริ่มทยอยมาเที่ยวแล้วนะคะ”
พันธิสาหมุนตัวหันมามองแฟร์รี่พร้อมกับน้ำตานองใบหน้า และให้เหตุผลเสียงปนสะอื้นกับลูกน้องว่า
“คุณนักรบเป็นเกย์ ใบเฟิร์นไปที่คอนโดของเขา และเขากำลังมี...มีเซ็กกับมิสเตอร์ลูคัส ใบเฟิร์นถอนหมั้นกับเขาแล้ว ไม่มีงานแต่งงาน ยกเลิก...ยกเลิกทั้งหมด ตอนนี้ใบเฟิร์นอยากเมา แฟร์รี่ไปเอาบรั่นดีมาให้ใบเฟิร์นเดี๋ยวนี้”
“โธ่...คุณใบเฟิร์น...”
แฟร์รี่ไม่ได้ทำตามคำสั่งของเจ้านายสาวที่เรียกร้องหาน้ำสีอำพันมาดื่มเพื่อดับทุกข์ เธอตรงเข้าสวมกอดร่างเล็กของเจ้านายสาวไว้พร้อมกับเอ่ยปลอบ ซึ่งอีกฝ่ายก็โผเข้าซบกับอกและร้องไห้โฮไม่ต่างจากเด็กตัวเล็ก
“ร้องไห้ให้พอนะคะคุณใบเฟิร์น หลังจากนั้นไม่ต้องร้องไห้อีกแล้ว น้ำตาของคุณใบเฟิร์นไม่ควรเสียให้กับผู้ชายที่หลอกคุณใบเฟิร์น จริงๆ แล้วพวกเรารู้ตั้งนานแล้วว่าคุณนักรบกับมิสเตอร์ลูคัสเป็นคู่ขากัน แต่ไม่มีใครกล้าบอกคุณ เพราะกลัวคุณใบเฟิร์นไม่เชื่อ แต่ก็ดีแล้วที่คุณใบเฟิร์นได้เห็นกับตาของตัวเอง และเห็นก่อนที่จะมีงานแต่งงานเกิดขึ้น หากแต่งงานไปแล้วมารู้ทีหลัง คุณใบเฟิร์นจะเสียใจมากกว่านี้อีกค่ะ”
“ใบเฟิร์นเกลียด! เกลียดผู้ชายทุกคน ต่อไปใบเฟิร์นจะไม่รักผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น เอาบรั่นดีมา ใบเฟิร์นอยากเมา จะได้ลืมภาพอุจาดตาที่เห็นเมื่อสักครู่”
พันธิสาร่ำไห้กับอกของแฟร์รี่ และยังคงร้องเรียกหาบรั่นดีจนแฟร์รี่ต้องส่งสัญญาให้พนักงานในร้านนำบรั่นดีมาให้เจ้านายสาว
“เดี๋ยวแฟร์รี่จะอยู่เป็นเพื่อนคุณใบเฟิร์นนะคะ และเราจะปิดผับตามคำสั่งของคุณใบเฟิร์น หากคุณใบเฟิร์นเมา แฟร์รี่และลูกน้องทุกคนจะดูแลคุณใบเฟิร์นเองค่ะ”
พันธิสาพยักหน้ารับทั้งน้ำตานองหน้า หลังจากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก นอกจากกระดกบรั่นดีเข้าปากราวกับดื่มน้ำเปล่าก็ไม่ปาน ท่ามกลางสายตาเป็นห่วงของแฟร์รี่และลูกน้องในผับ
และไม่ถึงสองชั่วโมง...พันธิสาก็เมาคอพับคออ่อนซึ่งแฟร์รี่กับลูกน้องก็ไม่ทิ้งเจ้านายสาว ทุกคนช่วยกันดูแลพาพันธิสาไปนอนพักผ่อนในห้องพักที่อยู่ด้านหลังผับ และเฝ้าดูแลพันธิสาจนกว่าหญิงสาวจะสร่างเมาในรุ่งเช้าของวันถัดมา