EP.1 ค่ำคืนโรแมนติก
บรื้น ~
"กรี๊ดดดดด" หญิงสาวที่เพิ่งจะฟื้นคืนสติจากฤทธิ์ของยาสลบกรีดร้องลั่นรถขึ้นทันทีเมื่อพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายมากที่สุดในชีวิต กับเกมการแข่งรถสุดโหดในสนามแข่งรถที่เลื่องชื่อ
"หุบปาก!" ชายหนุ่มเลือดร้อนตะโกนกลับมา แววตาคมกริบยังคงมองตรงไปยังถนนคดโค้งเบื้องหน้า ฝ่ามือหนาบีบจับพวงมาลัยรถเอาไว้แน่น
"มึงทำเพื่อนกูงั้นเหรอ?" เสียงพูดอันเยือกเย็นดังขึ้น แววตาเขาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นเมื่อเห็นว่ารถคันสีดำอีกคันถูกชนจนกระเด็นออกไปเกือบจะตกขอบสนาม
"ทำบ้าอะไรของนาย?" ร่างบางเอ่ยขึ้นอย่างตกใจกลัว พร้อมกับเบิกตาโตมองไปยังผู้ชายที่นั่งข้าง ๆ อย่างเสียววาบ
"พาเธอไปตายด้วยกันไง" เขาพูดพร้อมกับเหยียดยิ้มชั่วร้ายออกมา
"ไม่นะ ไอ้บ้าเอ๊ย!" หญิงสาวส่ายหน้าอย่างลนลานและรีบพนมมือขึ้นไหว้ขอพรจากทุกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มี เพื่อให้เธอรอดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปได้ เพราะมันไม่มีทางเลือกอื่นใดแล้วจริง ๆ ในวินาทีชีวิตแบบนี้
"ตายพร้อมกันโรแมนติกดีออก ว่าไหม?" ฟาเรนเอ่ยขึ้นและตั้งสมาธิเพื่อคาดคะเนระยะบนท้องถนนอยู่สักพัก ก่อนจะแสยะยิ้มชั่วร้ายออกมาเล็กน้อย
"นายอย่าทำอะไรบ้า ๆ นะฟาเรน ~ ~" แต่ยังไม่ทันที่ร่างบางจะเตรียมใจ ฝีเท้าหนักแน่นของชายร่างสูงก็เหยียบคันเร่งมิดไมล์สุดแรง ก่อนที่ฝ่ามือด้านซ้ายจะกระชากเกียร์แทบจะหลุดออกพร้อมกับกระทืบเท้าซ้ำ เหยียบลงที่คันเร่งจนรถสุดหรูพุ่งทะยานไปตรงเบื้องหน้า
บรื้นนนน ครื้นนนนนนนนนน
แต่จู่ ๆ คนบ้าระห่ำอย่างเขาก็หักรถของตัวเองพร้อมกับเบรกเพื่อเหวี่ยงรถไปชนกับคู่แข่งที่ขับแซงกันไปมา
เอี๊ยด!!!!!
"กรี๊ดดดดดดดดดด" น้ำขิงกรี๊ดออกมาสุดพลังเสียงที่เธอมีด้วยความตกใจกลัวแบบสุดขีด
โครม!!!
ฟาเรนหักพวงมาลัย หันเอาฝั่งของตัวเองกระแทกชนกับรถคู่แข่งแบบไม่กลัวความตายเลยแม้สักนิด
เขามีความมั่นใจและรู้ดีว่ารถของเขาแกร่งและแข็งแรงทนทานมากกว่าอีกฝ่าย
แต่เหมือนว่าสาวสวยที่นั่งมาด้วยกับเขาจะตกใจกลัวจนหมดสติไปแล้ว
ท่อนแขนแกร่งพาดลงบนหน้าอกของเธอเหมือนล็อกตัวเธอเอาไว้แน่น ขณะที่รถกำลังเหวี่ยงอย่างแรงและกระแทกเข้ากับรถอีกคันที่วิ่งขนาบข้างแข่งกันมาตลอดทั้งเส้นทาง
แม้ว่าจะชนอย่างเต็มแรง แต่ทั้งเข็มขัดนิรภัย และท่อนแขนของฟาเรนกันเอาไว้ ทำให้ตัวของน้ำขิงไม่ได้กระแทกกับอะไรจนบาดเจ็บมากนัก
บรื้นนนนน!!
รถคันสีดำที่ถูกชนกระเด็นออกไปนอกสนามหันกลับมาตั้งลำรถบนเส้นทางเดิมอีกครั้ง ก่อนจะเหยียบคันเร่งจนท่อไอเสียคำรามลั่นออกมาและพุ่งแซงรถสองคันที่ชนกันขวางทางเข้าเส้นชัยอยู่อีกแค่ไม่กี่เมตร
และด้วยความเร็วที่แทบจะนับวินาทีไม่ทันของรถวินด์เซอร์ ทำให้เขากลายเป็นผู้ชนะในเกมการแข่งขันที่ป่าเถื่อนนี้ได้ในที่สุด
"หึ ~" ใบหน้าหล่อร้ายแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ ที่เห็นรถของเพื่อนรักตัวเองพุ่งตรงมุ่งหน้าไปทางเส้นชัยอย่างที่ไม่มีรถคันใดตามได้ทัน แม้ว่ารถตัวเองจะพังยับ แต่อย่างน้อยสิ่งที่เขาคาดคิดเอาไว้มันก็เป็นไปตามแผน
ท่อนแขนของฟาเรนยังคงแนบลงกับหน้าอกของหญิงสาวที่หมดสติอยู่ที่นั่งข้างคนขับ ด้วยหลังท่อนแขนที่ได้เสียดสีกับหน้าอกของหญิงสาว ทำให้หางตาเจ้าเล่ห์มองไปยังร่องอกของคนข้าง ๆ อย่างพิจารณาขนาดของเต้าขาว ๆ อวบ ๆ ของเจ้าตัวอย่างถือวิสาสะในตอนที่เธอหมดสติไปอีกครั้ง
"B ไม่ก็ C แน่ ๆ"
"เธอก็ซ่อนรูปเหมือนกันนะ"
เขาเอ่ยออกมาพร้อมกับกลืนน้ำลายลงลำคอ และยังคงแนบท่อนแขนลงไปบนหน้าอกขาวอวบที่ถูกเข็มขัดนิรภัยคาดรัดแน่นอยู่ตรงกลาง ซึ่งมันยิ่งทำให้เห็นได้อย่างเด่นชัด
"หน้าตาสวยปนเซ็กซี่ แต่น่าเสียดาย"
"ที่ปากดีไปหน่อย!" เขาพูด และมองไปที่ริมฝีปากเรียวบางนั้นพร้อมกับว่าให้ร่างบอบบางที่หมดสติอยู่
"น้ำ ~ ขิง ~" จอมโหดเอ่ยชื่อของเธอพร้อมกับหัวเราะในลำคอเบา ๆ
และเพียงไม่นาน ทีมกู้ภัยและพยาบาลภาคสนามก็วิ่งตรงกันเข้ามาหาทั้งเขา น้ำขิงและคู่กรณีที่ชนประสานงากันเสียงดังสนั่น
รถของทั้งคู่อยู่ในสภาพที่พังชนิดที่ขับต่อไม่ได้เลย แต่ยังถือว่าโชคดีที่คู่กรณีเหยียบเบรกเอาไว้ได้ทัน เลยทำให้แรงชนมันเบากว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้
ตัวฟาเรนเองมีบาดแผลฟกช้ำ แต่คนอย่างฟาเรน เขามักโหยหาเรื่องเจ็บตัวเป็นประจำอยู่แล้ว จึงไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านใด ๆ กับอุบัติเหตุที่เกิดจากความตั้งใจในครั้งนี้ของเขา
พอหลาย ๆ คนวิ่งเข้ามาถึงรถ ฟาเรนก็จัดการปลดเข็มขัดของคนข้าง ๆ ออกทันที
"พายัยนี่ออกไปปฐมพยาบาลก่อน!" เขาเอ่ยกับพยาบาลภาคสนามที่วิ่งเข้ามาหาเขาก่อนคนแรก
"แต่คุณฟาเรนดูเจ็บมากกว่านะคะ" พยาบาลสาววิ่งเข้ามาหาเขาสลับกับวิ่งไปหาผู้หญิงอีกคนที่นอนสลบอยู่ในรถฝั่งที่ไม่มีร่องรอยการชน หรือบาดเจ็บอะไรมากนัก
"ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย" เขาตอบไปเสียงเรียบนิ่ง แม้ว่าเลือดจะอาบหน้าแล้วก็ตาม แต่คนอย่างฟาเรนก็ทำแค่ใช้มือปาดทิ้งไปอย่างไม่ใส่ใจอะไร
ซึ่งทำให้ทุกคนก็ทำตามคำสั่งของเขาทันที ฟาเรนชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าบุรุษพยาบาลผู้ชายอุ้มตัวของสาวสวยที่นั่งเบาะข้าง ๆ เขาออกไปวางลงบนเปลปฐมพยาบาลภาคสนาม แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ
แม้ว่ามันจะจุก ๆ แต่ร่างสูงก็ถีบประตูรถที่ยับเยินฝั่งตัวเองและก้าวเท้าออกมาจากรถ เลือดไหลอาบใบหน้าด้านซ้ายของเขา เพราะหัวแตกตอนที่กระแทกเข้ากับกระจกรถ แขนซ้ายช้ำเป็นรอยแดงไปทั้งแขน เนื่องจากถูกอัดกระแทกอย่างแรง
"ไอ้วินด์เอามึงตายแน่ ดูจากใบหน้าที่มันขับรถเข้าเส้นชัยเมื่อกี้นี้"
คลินต์ที่เดินมาข้าง ๆ พูดขึ้นขณะที่เราเดินไปยังจุดรับรางวัล
"ก็ถ้าไม่จับเมียมันมา มันจะยอมมาแข่งรถให้เหรอไง!" ใบหน้าหล่อที่เต็มไปด้วยคราบเลือดเอ่ยตอบไปอย่างเคือง ๆ
"พวกมึงก็น่าจะรู้ กูขอเงินพ่อมาลงกับสนามแข่งรถนี้ไปเท่าไหร่ และกูพลาดไม่ได้!" ฟาเรนพูดออกมาและกำหมัดแน่น
เขามองไปยังเพื่อนรักของตัวเองด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา
ทั้งคลินต์และไทม์ก็ทำได้แค่หันมองหน้ากันนิ่ง ๆ อย่างไม่กล้าพูดอะไรต่อ
@เส้นชัย
"กูไม่รู้ต้องหอนอีกกี่ครั้งเลยให้คู่ของไอ้วินด์"
คลินต์พูดขึ้น และมองตรงไปยังเพื่อนสนิทอีกคนของเขากับแฟนเก่ารอบที่ร้อยล้านของมัน ที่กำลังยืนกอดกันกลมอยู่เบื้องหน้า
พวกมันทำเหมือนกับว่าโลกใบนี้มีแค่พวกมันสองคน
วินด์เซอร์ทั้งกอดทั้งปลอบขวัญ ยัยไอรีน (แฟนเก่า) อย่างไม่สนใจสายตาคู่อื่น ๆ ที่มองไปทางมันเลยแม้แต่นิดเดียว
"มึงก็รู้ สองคนนี้ไม่มีวันตัดกันขาดหรอก" ไทม์โซนที่ยืนอยู่ก่อนหน้าก็เอ่ยขึ้นและมองทั้งคู่นิ่ง ๆ
"เรียกว่าโง่ซ้ำโง่ซากน่าจะเหมาะกว่า"
"เป็นควายไม่เลิกสักที!" ฟาเรนมองตรงไปที่คู่รักตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่
"ไว้มึงมีเมียเมื่อไหร่กูจะคอยดูว่ามึงจะโง่กว่าไอ้วินด์มันไหม?"
ไทม์โซนหันมาแขวะใส่เพื่อนรักหล่อเท่แสนปากดีของเขาทันที
ในความคิดส่วนตัวแบดบอยสุดโหดคนนี้ เขามองว่าวินด์เซอร์กำลังถูกสาวสวยอย่างไอรีนหลอกจูงจมูกเดินไม่ต่างจากควายตัวหนึ่ง
เพราะไอรีนควบคุมชีวิตของเพื่อนรักเขาทุกอย่าง เธอควบคุมวินด์เซอร์ไปหมดทุกเรื่อง และดูเหมือนเพื่อนรักของเขาก็ยอมตกอยู่ใต้อำนาจของผู้หญิงคนนี้
นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาพาลไม่ชอบไอรีนไปด้วย แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
และด้วยความที่วินด์เซอร์เองก็คือหนึ่งในเพื่อนรัก ในบางครั้งที่ไอรีนมีปัญหา หรือมีเรื่องกับคนอื่น ๆ ฟาเรนก็จำใจยื่นมือเข้าไปช่วย
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ชอบเธอสักเท่าไหร่ก็ตาม เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าเพื่อนรักใคร เขาก็ทำได้แค่ยอมรับอยู่ดี
"กูไม่โง่ยอมเป็นทาสของผู้หญิงหน้าไหนทั้งนั้น" ใบหน้าหล่อร้ายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
เพราะสำหรับคนอย่างฟาเรน มีแต่ผู้หญิงสวย ๆ พุ่งเข้าหาและพร้อมจะยอมตกเป็นของเขาอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
เขาไม่เคยต้องยอมให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น
ด้านวินด์เซอร์ เขากำลังกอดปลอบใจคนรักของตัวเอง เนื่องจากถูกฟาเรนกับคลินต์ไปจับมาเป็นตัวประกัน ล่อให้ตัวเขายอมกลับมาแข่งรถในค่ำคืนนี้
และขณะที่เขาเดินประคองแฟน (เก่า) เพื่อพาเดินกลับไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล ทั้งฟาเรนกับคลินต์ก็เดินเข้าไปหาพวกเขาทันที แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากพูดอะไร
"ถ้าเหี้ยขนาดที่จับไอรีนมาเป็นตัวประกันได้" วินด์เซอร์ที่เดินมาประจันหน้ากับคลินต์และฟาเรน ก็เอ่ยขึ้นทันทีที่อยู่ใกล้กันในระยะประชิดตัว
"กูก็ไม่ขอคบเพื่อนเหี้ย ๆ แบบพวกมึงต่อแล้วเหมือนกัน!" วินด์เซอร์พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่จริงจัง และกวาดสายตามองเพื่อนรักของเขาทั้งสองคน
ไทม์โซนเหมือนจะรอดจากสายตาพิฆาตนี้ เพราะมันไม่รู้เรื่อง
ส่วนคนที่วางแผนอย่างฟาเรนก็ถูกพูดกระแทกใส่หน้าแบบเต็ม ๆ
ทุกคนเงียบอย่างรู้ดีว่าตอนนี้วินด์เซอร์กำลังโกรธหนักมาก ๆ คนอย่างวินด์เซอร์เป็นคนพูดน้อยแต่มันต่อยหนัก
"นี่มึง!" แต่แล้วคนที่ใจร้อนอย่างฟาเรนก็อดไม่ได้ที่จะพุ่งเข้าหาวินด์เซอร์หลังจากที่เขาพูดจบ
ทั้งไทม์และคลินต์ก็พร้อมใจกันรั้งแขนของเขาเอาไว้แน่น ขณะที่วินด์เซอร์พาตัวไอรีนขึ้นรถของมันและขับออกไปจากสนามกว้างแห่งนี้ทันที
"ไอ้เหี้ยเอ๊ย!" ฟาเรนสบถออกมาลั่น พร้อมกับสะบัดแขนของคลินต์กับไทม์ออกอย่างแรง
"แค่มึงอกหัก มึงยังจะทิ้งทุกอย่างที่สร้างมาด้วยกันกับกูไปได้เลย" เขาตะโกนไล่หลังรถของวินด์ที่ขับออกไปไกลพอสมควรแล้ว
"แล้วคนแบบมึงกูยังเรียกว่าเพื่อนได้อยู่เหรอวะ!"
"ถ้าไม่เอาไอรีนมาเป็นตัวประกัน คนเหี้ยอย่างมึงจะยอมมาแข่งรถไหม?"
ฟาเรนตะโกนไล่หลังรถสีดำคันหรูของวินด์เซอร์ไป โดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงของเขาหรือไม่ แต่เขาต้องการพูดไปเพื่อระบายความโกรธภายในใจเพียงเท่านั้น
"เฮ้ย มึงใจเย็นก่อนดิ" ผู้ชายหน้าหวานอย่างไทม์โซนเดินเข้ามาแตะไหล่เพื่อนตัวเองเบา ๆ
"เย็นเหี้ยอะไร?" ฟาเรนหันกลับมาขึ้นเสียงใส่ไทม์อีกครั้ง
"ไอ้วินด์มันก็มีเหตุผลของมันนะเว้ย" หนุ่มหน้าหวานยังคงพูดอย่างใจเย็น ขณะที่อีกฝ่ายกำลังร้อนเป็นไฟ
"เพื่อนแท้มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้านสิวะ" คลินต์เดินมาคล้องคอของฟาเรนด้วยอีกคน
"ตอนนี้มันมีความสุขก็ปล่อยมันไป"
"ไว้มันมีทุกข์เมื่อไหร่ เราก็พร้อมจะอยู่ข้าง ๆ มัน"
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟาเรนปัดแขนของเพื่อนรักทั้งสองคนออกจากไหล่กว้าง ๆ ของเขา
"กูไม่ได้โลกสวยเหมือนพวกมึง!" เขาพูดกระแทกเสียงใส่เพื่อนทั้งสองคน พร้อมกับหยิบซองบุหรี่และไฟแช็กมาจุดสูบ เพื่อระบายความเครียดและอารมณ์ที่เดือดดาลของตัวเองในตอนนี้
เขาลนไฟเข้าที่ปลายบุหรี่และสูบนิโคตินเข้าไปพร้อมกับปล่อยควันออกมาทางจมูกอย่างรู้สึกผ่อนคลายและเย็นวาบขึ้นไปถึงยังขมับ
เมื่อสารนิโคตินเข้มข้นถูกสูบเข้าไปทางปากและปล่อยควันออกมาผ่านทางจมูก ก็ช่วยให้คนหัวร้อนอย่างฟาเรนเย็นขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อย เขายื่นซองบุหรี่ส่งไปทางคลินต์ต่อ
"แล้วเพื่อนไอรีนที่มึงจับตัวมาล่ะ?" คลินต์รับบุหรี่มาพร้อมกับเอ่ยถามถึงน้ำขิง เพื่อจงใจเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
เพราะรู้ดีว่าฟาเรนยังคงโกรธเคืองกับประโยคที่วินด์เซอร์พูดทิ้งท้ายเอาไว้ และก็ตอนที่พวกเขาไปจับตัวไอรีน เธออยู่กับเพื่อนสนิทอีกคน ฟาเรนเลยจำเป็นต้องโปะยาสลบแล้วลากมาด้วย
"กูก็กำลังจะไปชำระหนี้แค้นกับยัยนั่นอยู่เหมือนกัน" ฟาเรนกำหมัดแน่น พ่นควันบุหรี่ออกมาจากเรียวปาก พร้อมกับแสยะยิ้มเล็กน้อย
คลินต์คาบบุหรี่อยู่ที่ปากและมองสำรวจบาดแผลตามตัวของฟาเรนไปด้วย
"คนที่เตะผ่าหมากมึง จนเกือบจะใช้งานไม่ได้น่ะเหรอ?" ไทม์โซนเอ่ยถามขึ้นแบบไม่ทันได้คิดอะไร
"ไอ้ไทม์ เดี๋ยวนี้มึงปากดีกับกูซะเหลือเกินนะ สงสัยมึงคงอยากโดนกระทืบตรงนี้ใช่ไหม?" ฟาเรนหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อนตัวเองอย่างหัวร้อนตามสไตล์นั่นแหละ
"กูว่าก่อนมึงจะกระทืบใคร" คลินต์พูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับมองใบหน้าของฟาเรนด้วยสายตาเอือมระอา
"มึงไปทำแผลก่อนเถอะ เลือดไหลไม่หยุดเลย" คลินต์จิ้มไปที่บาดแผลตรงศีรษะอย่างจงใจแกล้งฟาเรน
ฟุ่บ! ร่างสูงปัดมือของอีกฝ่ายทิ้งและขึ้นเสียงกลับไป
"ไอ้เพื่อนเวรเอ๊ย!" ฟาเรนรีบยกมือป้องแผลตัวเองทันที
"ทำแผลเสร็จแล้วไปเจอกันผับเดิมนะ พวกกูจะไปจองโต๊ะก่อน"
คลินต์พูดขึ้นพร้อมกับโยนบุหรี่ลงกับพื้นและขยี้ซ้ำจนไฟดับไป
"เออ!" ฟาเรนเอ่ยตอบไป พร้อมกับโยนบุหรี่ทิ้งลงพื้น และเดินข้ามสนามตรงไปยังเต็นท์ปฐมพยาบาลทันที
@เต็นท์ปฐมพยาบาล
"ผู้หญิงที่นั่งรถมากับฉัน...อยู่ไหน?" ฟาเรนขมวดคิ้วเอ่ยถามบุรุษพยาบาลเสียงแข็ง ๆ พร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบ ๆ