EP 11 : ออกคำสั่งเด็ดขาด
พิษรักมาเฟีย : ตอนที่ 11
@โรงแรมหรู
ฉันเดินวนไปวนมาอยู่หน้าโรงแรมตั้งแต่เลิกงาน ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะไปเรียน เพราะในสมองมันคิดแต่เรื่องของพ่อและเรื่องที่ฉันต้องมายืนอยู่ตรงนี้ หลังจากที่ฉันเข้าไปคุยกับเขาในห้องทำงานนั้นก็ไม่มีอะไรไปมากกว่าที่เขายื่นกระดาษแผ่นนี้มาให้ และช่วงบ่ายเขาก็ไม่อยู่บริษัท ออกไปพร้อมกับลูกน้องคนสนิท ทั้งที่ตารางของเขาไม่มีนัดเจอกับใคร
ถ้าเรื่องนี้คนอื่นรู้เข้าคงคิดว่าฉันใจง่าย แค่ผู้ชายยื่นที่อยู่มาให้ก็วิ่งแจ้นมาหารู้ทั้งรู้ว่าจะโดนอะไร แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้จะพึ่งใคร ไม่มีใครยอมยื่นเงินแสนให้ฉันยืมแน่นอน
"มันไม่มีอะไรแย่กว่านี้แล้วล่ะ มาหาเขาถึงที่ก็ไม่ต่างจากขายตัวสินะ" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนจะเดินเข้าโรงแรมหรู แค่เพียงเข้ามาก็เห็นชายฉกรรจ์สวมชุดสูทสีดำยืนตามจุดต่างๆ ราวกับโรงแรมนี้เขาเป็นเจ้าของคนเดียว แต่ละคนไม่ได้ห้ามฉันเข้ามาในโรงแรมนี้เลย ทำเหมือนฉันเป็นอากาศ
หญิงสาวร่างเล็กที่อยู่ในชุดนักศึกษากำลังรู้สึกหวาดผวากับสิ่งที่กำลังจะเจอ บรรยากาศโดยรอบเงียบสนิทจนทำให้รู้สึกวังเวงทั้งๆที่ไฟเปิดสวาทจ้าไปทั่วทั้งโรงแรม
"นายใหญ่รออยู่ข้างบน"
แค่เพียงฉันเดินมาที่หน้าลิฟต์ก็เจอกับลูกน้องของเขาที่ยืนรอและคอยกดลิฟต์ให้ ภายในลิฟต์เงียบสงัดจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง ฉันประสานมือกันไว้แน่นด้วยความกลัว
ติ๊ง...
ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อมาถึงชั้นเป้าหมาย บนนี้เงียบอย่างกับป่าช้าหนักกว่าข้างล่างซะอีก ถึงจะมีประตูห้องมากมายแต่กลับไม่มีใครเปิดประตูออกมาเลย ไม่รู้ว่าด้านในมีคนอยู่ไหม ฉันหยิบกระดาษที่เขาเขียนเลขที่ห้องไว้ขึ้นมาดู และไล่มองตัวเลขที่หน้าประตูมาเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่งที่อยู่สุดทางเดิน
"9 7 1" เป็นเลขเดียวกับที่อยู่ในกระดาษแผ่นนี้ ฉันยืนอยู่หน้าประตูอยู่สักพัก อยากจะก้าวถอยหลังออกไปแต่มันสายเกินไปแล้ว
แกร่ก
มือบางเอื้อมเปิดประตูช้าๆ แค่เพียงแง้มประตูออกไอความเย็นก็แผ่มาปะทะร่างกายจนขนลุกซู่ ไฟในห้องถูกเปิดสว่างจ้าบ่งบอกว่ามีคนอยู่ด้านใน
ปัง!
เสียงประตูปิดลงทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำ ฉันเดินไปตามทางเล็กๆก่อนจะมาหยุดชะงักอยู่บริเวณห้องรับแขก เมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงเปลือยกายท่อนบนนั่งมองฉันอยู่ ท่อนบนที่เปลือยเปล่าโอบล้อมไปด้วยมัดกล้ามที่บ่งบอกว่าผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก มือหนาถือแก้วเหล้าสีอำพัน
"ตรงเวลาดีนิ" ชาร์ลพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเมื่อเห็นคนตัวเล็กยืนอยู่ไม่ไกลเธอมาตามเวลาที่เขานัดไว้ สีหน้าและแววตาของเธอกำลังหวาดผวาอย่างเห็นได้ชัด
"ฉะ ฉันไม่ทำเรื่องนั้นได้ไหมคะ"
"มันน่าตลกที่เธอเดินเข้ามาในห้องนี้ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าต้องโดนอะไร แต่กลับมาขอร้องไม่ให้ฉันทำ"
"ฉันไม่เอาเงินล่วงหน้าแล้วก็ได้ ฉันจะทำงานให้ครบเดือนแล้วรอเงินเดือนออก" สีหน้าและแววตาของเขาตอนนี้ทำให้ฉันรู้สึกกลัวกว่าทุกครั้ง ถึงคนตรงหน้าจะไม่แสดงความรู้สึกอะไร แต่รังสีอำมหิตบางอย่างในตัวเขาที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนกลับได้เห็นมันวันนี้ ท่าทางและบุคลิกของคนตรงหน้ามันบ่งบอกว่าเขาไม่ใช่แค่นักธุรกิจธรรมดา และสิ่งที่ทำให้ฉันมั่นใจคือปืนกระบอกสีดำเงาวับวางคู่กับมีดพกสั้นสีเงินสะท้อนกับแสงไฟวาววับ ปลายมีดแหลมคมนั้นถ้าสัมผัสลงบนผิวหนังเลือดคงไหลออกมาอย่างง่ายดาย
"เธอคิดว่าฉันจ้างเธอหลักแสนเพราะอะไรล่ะ ต่อให้เธอรอเงินเดือนออก สุดท้ายตัวเธอก็ต้องให้ฉันอยู่ดี" ชาร์ลพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก เขาวางแก้วเหล้าในมือลงและหยิบมีดพกสั้นสีเงินเงาวับขึ้นมาควงเล่น
"เธอมาไกลเกินกว่าจะย้อนกลับไปแล้วอลินดา เพราะถ้าเธอก้าวขาถอยหลังแม้แต่ก้าวเดียว....เธอจะได้รับของขวัญสุดพิเศษจากฉัน"
พรึบ ฟุ่บ
"กรี๊ดดดด..." ฉันกรีดร้องลั่นและรีบนั่งลงกับพื้นด้วยความกลัวทันที ภาพสุดท้ายที่เห็นคือเขาเขวี้ยงมีดสีเงินเงาวับเล่มนั้นพุ่งเข้ามาหาตัวฉันทันทีหลังจากพูดจบ ความรู้สึกเหมือนมีดเล่มนั้นเฉียดตัวฉันไปเพียงนิด ถ้าฉันไม่หลบมีหวังปลายมีดอันแหลมคมคงปักเข้าที่ตัวฉันแน่นอน
สายตาคมกริบมองมีดสีเงินที่เขาเขวี้ยงไปปักอยู่ที่เก้าอี้หนังด้านหลังเธอ ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็น
"นึกว่าเธอจะรับของขวัญสุดพิเศษจากฉันซะอีก"
"คะ คุณชาร์ล ฉันกลัว" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงหวาดผวา ดวงตากลมโตมองไปที่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่เดิมด้วยแววตาวูบไหว
"ยังเหลืออีกอย่างที่ฉันจะให้เธอนะอลินดา" สายตาคมกริบปรายตามองปืนอีกกระบอกที่วางอยู่บนโต๊ะ
ฉันส่ายหัวเป็นพัลวัน ความกลัวถาโถมเข้ามาพานทำให้น้ำตาไหลออกมาอาบสองข้างแก้ม เขาน่ากลัวเกินกว่าคนปกติทั่วไป การกระทำของเขามันไม่ใช่คนปกติที่จะทำกันได้ มันทำให้ฉันย้อนกลับไปวันที่โดนบีบคอ ถ้าเกิดวันนั้นฉันไม่ยอมคงได้ตายคามือเขาจริงๆ
"ลุกขึ้น!"
ร่างบางค่อยๆยืนขึ้นตามคำสั่ง เธอก้มหน้าต่อหน้าเขาด้วยเนื้อตัวสั่นเทา
"อึก..."
"เงยหน้ามองฉัน"
"ฉันสั่งให้เงยหน้ามองฉัน!" ชาร์ลตะวาดลั่นห้องเมื่อเห็นว่าเด็กสาวเอาแต่ก้มหน้าก้มตาร้องไห้
"ฮรือ...อึก" ดวงตาฉันพร่ามัวไปหมด มองคนตรงหน้าไม่ชัดเพราะน้ำตามันเอ่อล้นออกมา
"ถอดเสื้อผ้าออก"
"ฮรือ..." ฉันส่ายหัวราวกับคนเสียสติ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลอาบสองข้างแก้ม
"ฉันสั่งให้เธอถอด!"
พรึบ
ชายหนุ่มร่างสูงลุกจากโซฟาและพุ่งตรงมาที่เด็กสาวด้วยความเร็วเมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขา การกระทำของเขาทำให้อลินดาถอยหนีด้วยความกลัว แต่ก็ช้าไป มือหนากระชากคอเสื้อนักศึกษาของเธอไว้และดึงตัวเธอเข้ามาใกล้
"เวลาฉันสั่ง เธอมีหน้าที่แค่ทำตาม และเวลาที่ฉันจะเอา เธอมีหน้าที่นอนให้ฉันเอา"
แคว่ก!
"ฮรือ....กรี๊ดดด..." ฉันร้องไห้พร้อมกับกรีดร้องออกมาจนสุดเสียงเมื่อเสื้อนักศึกษาของฉันขาดคามือเขาเพียงแค่โดนกระชากทีเดียว กระดุมมหาวิทยาลัยร่วงกราวลงกับพื้นกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง
สายตาคมกริบมองเนินอกที่ถูกปกปิดด้วยบราเซียสีดำเรียบๆ ไม่มีลูกเล่นอะไรให้ดูเซ็กซี่ แต่เขากลับสนใจสิ่งที่ซ้อนอยู่ภายใต้บราเซียสีดำนั้น
"เธอจะถอดมันออกด้วยมือเธอเอง หรือจะให้ฉันจัดการมันไม่ให้เหลือชิ้นดี"
"อึก!" ฉันเม้มปากเข้าหากันแน่นเมื่อได้ยินคำสั่งจากเขาอีกครั้ง สายตาคมกริบคู่นั้นจ้องมาที่ฉันไม่ยอมละสายตาไปไหน และสถานการณ์บีบบังคับนี้ทำให้ฉันยอมทำตามคำสั่ง เสื้อนักศึกษาที่เหลือหลุดออกจากร่างกาย และตามด้วยกระโปรงพลีทร่วงร่นไปกองกับพื้น
"ฮึก ... อึก..." ฉันทำไปพร้อมกับร้องไห้ออกมาด้วยความกลัวและความอาย ตอนนี้เนื้อตัวฉันมีเพียงบราเซียกับแพนตี้ปกปิดของสงวนไว้เท่านั้น
ชาร์ลมองภาพตรงหน้าอย่างชอบใจ เขามองเธอถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นทำให้ความกระสันในตัวพลุ่งพล่านขึ้นเรื่อยๆ ต่อให้เธอร้องไห้ออกมามันไม่ได้ช่วยให้เขาเห็นใจเธอแม้แต่นิดเดียว
"ถอดมันออกให้หมด"
"คุณชาร์ล...." สายตาและแรงกดดันทำให้ฉันยอมปลดตะขอบราเซียออกต่อหน้าผู้ชายที่พึ่งรู้จักได้ไม่นาน มันเป็นครั้งแรกที่ฉันต้องมาทำอะไรทุเรศๆแบบนี้ เมื่อท่อนบนถูกปลดออกก็ตามด้วยแพนตี้ท่อนล่าง และตอนนี้เนื้อตัวฉันก็ไม่เหลือแม้แต่สิ่งปกปิด มีเพียงแขนตัวเองที่ใช้บดบังร่างกายตัวเองไว้ ฉันได้แต่ก้มหน้าร้องไห้ออกมา
หน้าอกซ่อนรูปของเธอเปิดเผยต่อหน้าเขา จุกสวาทสีชมพูเด่นเป็นสง่าล่อตาเขาซะเหลือเกิน เนินสามเหลี่ยมอันโหนกนูนไร้ซึ่งขนมาปกคลุม เอวคอดกิ่วรับกับหน้าท้องแบนราบ ต่อให้เธอใช้มือปิดทั้งบนและล่างก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาเขาไปได้
"ไปนอนรอฉันในห้องนั้น อย่าคิดท้าทายไม่ทำตามที่ฉันสั่ง"
"ฮึก…อึก…"
ชาร์ลมองทุกการกระทำของคนตัวเล็ก เธอเดินเปลือยกายผ่านหน้าเขาไปโดยที่ไม่พูดอะไร มีเพียงเสียงสะอื้นไห้ดังเล็ดลอดออกมา ผิวขาวเนียนราวกับเด็กแรกเกิดทำให้ภายใต้กางเกงก่อตัวจนอยากออกมาเต็มที เขามองเธอจนบานประตูห้องนอนปิดลง ริมฝีปากหนายกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นของที่ถูกใจว่านอนสอนง่าย
มือหนาปลดกระดุมกางเกงและถอดออกจนเผยท่อนเอ็นขนาดใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยเส้นเลือดปูดผงาดชูชันพร้อมใช้งาน ก่อนจะเดินไปกระดกเหล้าสีอำพันจนหมดแก้ว ความขมของมันบาดลึกลงคอทำเอาร่างกายเริ่มร้อนรุ่ม
"ต่อให้เธอใสซื่อเหมือนไม่เคย แต่ฉันคงต้องเช็คให้แน่ใจ และปลอดภัยไว้ก่อนจริงไหม" ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มมุมปากเมื่อหยิบซองถุงยางอนามัยที่ใส่ไว้ในลิ้นชักทั่วทุกมุมห้องออกมา เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่เธอคนแรกที่มา ทุกครั้งที่มาที่นี่ก็มีแต่เรื่องน้ำกามเท่านั้น เขาไม่เคยสดกับใคร ต่อให้เขามีอะไรกับผู้หญิงมาหลายคนแต่ก็ต้องปลอดภัยและสะอาดไว้ก่อน
ร่างสูงเดินตามเธอเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับซองถุงยางอนามัย
แกร่ก
เมื่อประตูห้องนอนเปิดออกสิ่งแรกที่เขามองคือบนเตียงนอนขนาดคิงไซส์ ที่สั่งทำเพื่อรองรับแรงกระแทกมาเป็นพิเศษ และเห็นเด็กสาวนั่งกอดเข่าร้องไห้ตัวโยน ภายในห้องหนาวเย็นเพราะเขาเป็นคนลดอุณหภูมิให้เหลือสิบแปดองศาตั้งแต่แรก
ดวงตากลมโตเบิกตาโพลงเมื่อเห็นเขาเดินเปลือยกายเข้ามา และสิ่งที่สะดุดตาคือขนาดของมันทำให้ฉันหวาดผวา จนต้องเขยิบตัวถอยหนี
"ยิ่งหนาวมากเท่าไหร่ มันต้องสร้างความอบอุ่นจริงไหม" ชาร์ลพูดพลางเดินไปหาเด็กสาว สายตาเธอมองที่ขนาดท่อนเอ็นของเขาและส่ายหน้าไปมา มือหนาแกะซองถุงยางอนามัยไปด้วย และสวมเครื่องป้องกันต่อหน้าต่อตาเธออย่างใจเย็น
“นอนลง และกางขาออก ทำเหมือนไม่เคยมันคือละครบทหนึ่งที่เธอกำลังแสดงสินะ ฉันเจอมาเยอะ”