บท
ตั้งค่า

โชคชะตา 1

โชคชะตา

“คุณธีขา อ๊ะ อ๊า” เสียงครวญครางของหญิงสาวร่างเล็ก ทว่ากลมกลึง โดยเธออยู่ในท่าโก้งโค้งอยู่บนเตียง โดยมีร่างใหญ่เจ้าของชื่อกระแทกกระทั้นเข้าหาอย่างไม่ยั้ง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องประสานเสียงครวญครางหวานใสและเสียงแหบพร่าของเขา

ซึ่งกิจกรรมบนเตียงที่เริ่มขึ้นมาหลายชั่วโมงก็จบลงในนาทีต่อมา

หญิงสาวนอนตัวสั่นสะท้านพร้อมเสียงหายใจหอบหนัก ส่วนฝ่ายชายเมื่อถอดถอนออกจากตัวหญิงสาว เขารอให้ร่างกายหายเกร็งกระตุก ก็ดึงถุงยางโยนลงขยะข้างเตียง ก่อนจะเดินตัวเปลือยเปล่าเข้าห้องน้ำ

ปล่อยให้หญิงสาวมองตามอย่างขัดใจ เพราะลึกๆ อยากได้สัมผัสที่อ่อนโยนหลังมีเซ็กซ์ เช่นกอด หรือหลับใหลไปด้วยกันบนเตียง

แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะธีธัสก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มต้นมีความสัมพันธ์กัน ที่มีเงื่อนไขเพียงแค่เซ็กซ์ และเงินหรือข้าวของตอบแทนที่เขามอบให้

ไม่มีความรัก ไม่มีความผูกพัน ไม่มีพันธะต่อกัน สะดวกเมื่อไหร่ก็เจอกันเท่านั้น

ลิลลี่รู้จักกับธีธัสเมื่อสองปีก่อน เขายังใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก ตอนนั้นอีกฝ่ายกลับมาเยี่ยมเมืองไทย เจอกันในผับดัง ก่อนสานสัมพันธ์สวาทในทันที จากนั้นแลกเบอร์ติดต่อ ก่อนเขากลับไปใช้ชีวิตเมืองนอกตามปกติ เพราะธีธัสเรียนจบปริญญาโทที่อเมริกา และทำงานที่นั่นมาตลอด แต่เขาก็กลับเมืองไทยทุกปี เวลาที่เธอไปเที่ยวอเมริกา ก็จะแวะไปหาเขา กระทั่งตอนนี้เขากลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยอย่างถาวรแล้ว

ถึงแม้ลิลลี่จะมีความรู้สึกที่มากกว่านั้นให้กับธีธัส แต่เธอก็ไม่กล้าบอกหรือแสดงออก เพราะกลัวว่าเขาจะตัดเธอออกจากชีวิต ที่สำคัญเขามีผู้หญิงเพื่อสนองความต้องการหลายคน แต่เธอคือเบอร์หนึ่งของเขา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จะคิดว่าตัวเองสวยกว่าทุกคนก็ไม่ใช่ ด้อยกว่าต่างหาก เพราะคนอื่นๆ เป็นทั้งไฮโซ ดารา นางแบบ หรือแม้แต่วงการนางงาม

เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะรู้สึกพิเศษกับธีธัสมากแค่ไหนก็ต้องเก็บงำไว้ในใจ ยินดีรับเพียงเงินและสิ่งตอบอื่นๆ ที่เขาหยิบยื่นให้ นอกจากข้อตกลงหลักๆ ที่มีต่อกันแล้ว ในระหว่างมีเซ็กซ์ก็ห้ามเรียกร้องในสิ่งที่เขาทำให้ไม่ได้

สิ่งนั้นคือ...ห้ามจูบปาก หรือร้องขอการออรัลเซ็กซ์จากเขา อย่างมากก็นิ้วของเขาที่แทงลึกเข้าไปในตัวเธอ

แม้จะขัดใจอยู่บ้าง แต่ความดุดันในการกระแทกกระทั้นเข้าหาอย่างดิบเถื่อน มันก็ทำให้เธอพึงพอใจในเซ็กซ์ของธีธัส

ชายหนุ่มใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวแค่ครึ่งชั่วโมงก็กลับออกมาด้วยการแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว และบอกสั้นๆ เช่นทุกครั้ง

“ผมกลับก่อนนะ” พร้อมกับวางกล่องเครื่องประดับบนโต๊ะหัวเตียง

“ขอบคุณค่ะ” ลิลลี่รีบหยิบกล่องเครื่องประดับมาเปิด เป็นสร้อยข้อมือจากแบรนด์ดังที่เพิ่งออกใหม่ เธอยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ลืมความขุ่นมัวในใจเมื่อครู่ แล้วรีบถ่ายรูปลงอวดในอินสตาแกรมทันที เพื่อให้คนที่ยังไม่มี หรือไม่มีปัญญาจะหาคนมาเปย์ อิจฉาเล่น!

ก้าวขาเข้ามาในเพนต์เฮ้าท์ไม่กี่นาที เสียงโทรศัพท์มือก็ดังขึ้น เป็นสายจากคนเดิม ที่เขาไม่ได้รับมาหลายชั่วโมง เพราะปิดเสียงไว้ตั้งแต่ก้าวเข้าไปในห้องพักของลิลลี่

เขาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาในมุมนั่งเล่น ก่อนจะกดรับสาย ยังไม่ทันจะพูดอะไร ปลายสายก็โวยวายใส่ จนเขาต้องขยับเครื่องห่างจากใบหู

[ฉันนึกว่าแกตายห่าคาอกยัยลิลลี่ไปแล้วนะโว้ย กว่าจะรับสายได้]

พอได้ยินแบบนั้นแล้วธีธัสก็แทบอยากจะวิ่งไปเตะไอ้เพื่อนรักของเขา ดันปากโป้งบอกพี่ชายว่าเขาอยู่ไหนเมื่อหลายชั่วโมงก่อน อติรุจคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเขากำลังอยู่กับลิลลี่ เพราะก่อนที่จะมาหาลิลลี่ เขาอยู่กับอีกฝ่ายในผับแห่งหนึ่ง

“พี่ก็รู้นี่ว่าผมไม่ว่าง ยังกระหน่ำโทร. หาไม่หยุด”

[ส่วนแกก็กระหน่ำเสียบยัยลิลลี่ไม่สนสี่สนแปดอะไรใช่ไหม!]

“งั้นพี่ว่าธุระของพี่มาเลยดีกว่า” เขาตัดบท เพราะไม่อยากฟังอีกฝ่ายพล่ามยาว

[ยังจะมีหน้ามาถาม ก็รู้อยู่ว่าเรื่องอะไร]

“ก็ผมบอกแล้วไงว่าเดือนหน้า”

[แกมาอาทิตย์หน้าเลยไอ้ธี ใจคอจะให้ฉันทำงานอยู่คนเดียวหรือไง โห กลับมาจะเดือนแล้ว พักผ่อนพอแล้วไหม ให้ฉันได้ไปพักมั้งเหอะ นี่หนิงจะทิ้งฉันอยู่แล้วเนี่ย]

ปลายสายร้อนรน กระหน่ำโทร. หาน้องชายไม่หยุด เพราะหลายเดือนมานี้เขาต้องมาดูแลรีสอร์ตที่เชียงใหม่ จนแฟนสาวบ่นน้อยใจ และขู่จะเลิกหากเขาไม่แบ่งเวลาให้เธอ

“ก็บอกแล้วไง...”

[หุบปากเลยไอ้ธี พ่อยกรีสอร์ตให้แกนะโว้ย ลืมไปแล้วหรือไง]

“ก็ผมยังไม่พร้อม”

[งั้นแกก็ขายทิ้งไปเลยไหม เพราะฉันก็จะกลับไปดูแลโรงแรมแล้ว]

พอได้ยินแบบนั้นธีธัสก็เลี่ยงอีกต่อไปไม่ได้

“โอเค อาทิตย์หน้าผมไป”

[เออ ก็แค่นี้แหละ ทำไมต้องให้ฉันโมโหก่อนวะ]

อีกฝ่ายตัดสายไปแล้ว ธีธัสได้แต่นั่งเงียบๆ ถอนหายใจยาว พร้อมกับเรื่องราวเก่าๆ ที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ

เขาเป็นเพียงลูกเมียน้อยของนักธุรกิจชื่อดังที่มีฐานะร่ำรวยอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ในวันที่พ่อของเขาเหลือเวลาบนโลกนี้เพียงแค่สองเดือนเท่านั้น

ธีธัสไม่มีความทรงจำใดๆ เกี่ยวกับพ่อเลย ตั้งแต่จำความได้เขาก็อยู่กับแม่มาตลอด แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรขาดในชีวิต เพราะแม่เป็นทุกอย่างของเขาแล้ว ทั้งที่แม่ก็เป็นเพียงช่างตัดเสื้อผ้าธรรมดา

พอโตขึ้นมาก็เคยถามถึงพ่อ แม่ก็บอกเพียงว่าพ่อตายไปตั้งแต่เขายังเด็ก พอบอกอยากดูรูปพ่อ ใบหน้าแม่ฉายชัดความเศร้า และนั่นทำให้เขารู้ว่าพ่อกับแม่อาจจบกันไม่ดี เขาก็เลยไม่กล้าถามอะไรแม่อีก แม้จะแคลงใจว่าจริงๆ แล้ว พ่อตายไปแล้ว หรือพ่อกับแม่เลิกรากันเฉยๆ

ส่วนเรื่องครอบครัวแม่นั้น ธีธัสรับรู้จากปากแม่ว่าเป็นเด็กต่างจังหวัด พ่อแม่เสียเพราะอุบัติเหตุทางรถตั้งแต่ยังเด็ก อาศัยอยู่ป้ามาตลอด กระทั่งป้าเสียก็เดินทางมาหางานทำในกรุงเทพฯ และไม่เคยกลับบ้านเกิดอีกเลย แม้แต่ตอนที่พาเขาออกจากบ้านหลังเดิม ที่เคยเขาเคยอยู่ตั้งแต่เกิด แม่ก็พาเขาไปอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง

ทว่าก็ทิ้งเขาไปในวันที่เขากำลังเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ด้วยอุบัติเหตุ มีรถพุ่งชนขณะเดินข้ามถนน หลังจากไปจ่ายตลาด

คนขับรถกระบะเมา และถูกดำเนินคดี พร้อมจ่ายเงินชดเชย เขาได้เงินจำนวนนั้น และเงินประกันชีวิตของแม่สำหรับใช้จ่ายในเรื่องการเรียนและชีวิตประจำวันของตนเอง รวมทั้งทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย

""""""""""""""""""""

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel