บท
ตั้งค่า

12 ใจเต้นแรง

หญิงสาวตัดสินใจเล่าเรื่องที่เธอไปเจอกับกิตติศักดิ์และรวมถึงคำพูดและกิริยาที่เขาแสดงออกต่อเธอให้เขาฟังอย่างไม่มีปิดบังเพราะอยากฟังความคิดเห็นของเขา และอยากจะรู้ว่าในมุมมองของผู้ชายการแสดงกิริยาแบบนั้นมันมีความหมายอย่างที่เธอคิดหรือเปล่า

“มีนาบอกเรื่องนี้กับแม่หรือยัง”

“ยังค่ะมีนาไม่กล้าบอก”

“แต่มีนาจะหลบเขาแบบนี้ไม่ได้ตลอดนะ”

“มีนาจะไม่กลับไปอยู่ที่นั่นแกแล้วค่ะ มีนาตัดสินใจไปอยู่ที่บ้านคุณดลแล้ว พี่ฤดีบอกว่าให้มีนาอยู่ที่นั่นจนเรียนจบ”

“แล้วไม่คิดถึงแม่เหรอ”

“คิดถึงสิคะ”

“แล้วคิดไหมว่าแม่อยู่คนเดียวจะเหงา”

“คิดค่ะ แต่แม่ก็ไม่ได้ห้ามถ้ามีนาจะออกมาอยู่ข้างนอก”

“ถ้าเธอตัดสินใจแล้วฉันก็ไม่ว่าอะไร แล้วเธอรู้สึกยังไงเวลาที่เขาเข้ามาใกล้”

“บอกไม่ถูกค่ะ ทั้งกลัวทั้งขยะแขยง”

“เขาใกล้มากแค่ไหน”

“ก็ใกล้จนมีนาได้กลิ่นลมหายใจของเขา มันน่าขนลุกมาก”

“ลองมานั่งบนตักฉันสิ ฉันจะให้เปรียบเทียบความรู้สึก”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่นี้มีนาก็รู้แล้ว คุณดลไม่เหมือนเขาเลยสักนิด”

“ไม่เหมือนยังไง ฉันก็ผู้ชายเหมือนกันนะ เธอลองมานั่งบนตักก่อนแล้วค่อยตอบอีกที”

“แต่คุณดลเจ็บขาอยู่นะคะ”

“กระดูกน่องฉันร้าวแต่ขาฉันไม่เป็นอะไร นั่งแป๊บเดียวไม่เป็นไรหรอก”

“ถ้าเจ็บอย่ามาโทษมีนานะคะ”

พูดจบหญิงสาวก็มานั่งบนตัดเขา นฤดลใช้มือข้างที่ไม่เจ็บกอดเอวไว้หลวมๆ รั้งให้หญิงสาวพิงมาบนหน้าอกแกร่งด้านที่ไม่มีแผล

“ใกล้ฉันแบบนี้ รู้สึกยังไงบ้าง ขยะแขยงไหม” เขากระซิบเบาๆ

“ไม่ค่ะ แต่มีนาใจเต้นแรงมาก”

“ตื่นเต้นเหรอ”

“ประมาณนั้นค่ะ มีนาลุกได้หรือยังคะ”

“ขอห้านาทีได้ไหม ขอฉันอยู่แบบนี้ห้านาทีนะมีนา” นฤดล เกยศีรษะลงบนไหล่มน มีนานั่งนิ่ง หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่รินรดต้นคอเธอกลับรู้สึกดีจนอยากให้เขาพิงอยู่แบบนี้ไปนานๆ

ชายหนุ่มหลับตานิ่งอยู่พักใหญ่ก่อนจะปล่อยให้เธอลุกขึ้น ชายหนุ่มเห็นว่ามีนาหน้าแดงซ่านก็เลยไม่ได้พูดอะไรเพราะเหมือนกับว่าหญิงสาวกำลังอายที่ได้ใกล้ชิดกับเขามากขนาดนี้

นฤดลเองก็หาคำตอบไม่ได้ว่าเมื่อครู่ทำไมถึงทำแบบนั้น แต่ถ้าว่าอยากทำอีกไหม เขาตอบได้อย่างไม่ต้องคิดเลยว่า เขาอยากทำเหมือนเดิม อยากใกล้ชิดกับเธออย่างให้เธออุ่นใจว่าอย่างน้อยตอนนี้เธอก็ยังมีเขาอยู่ข้างๆ แม้ว่าสภาพร่างกายของเขามันจะยังไม่เต็มร้อยก็ตาม

หลังจากอยู่ที่โรงพยาบาลมาถึงสองเดือน เฝือกที่แขนและที่ขาก็ถูกถอดออกแต่ยังต้องใส่อุปกรณ์พยุงข้อเท้าไว้ พอนฤดลฝึกเดินด้วยไม้เท้าคล่อง หมอก็อนุญาตให้เขากลับบ้านได้ แต่แทนที่เขาจะกลับบ้านชายหนุ่มกลับตรงไปประชุมที่บริษัทก่อน ทำให้มีนาก็ต้องตามไปรอที่บริษัทด้วยเพราะหมอกำชับกับเธอมาว่าต้องคอยระวังไม่ให้ชายหนุ่มลงน้ำหนักที่เท้าซ้าย หญิงสาวจึงตามติดเขาตลอดเพราะกลัวเขาจะเผลอลงน้ำหนัก

กว่านฤดลจะประชุมเสร็จมีนาก็นั่งสัปหงกไปแล้วหลายรอบ

“มีนา” เสียงทุ้มเรียกคนที่กำลังหลับฝันดีอยู่บนโซฟา

“ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ”

“เสร็จแล้ว ดูท่าทางเธอจะง่วงมากเลยนะ ฉันบอกให้ไปรอที่บ้านก็ไม่เชื่อ”

“ก็มีนามีหน้าที่ดูคุณดลจนกว่าจะหายสนิทนี่คะ แล้วคุณดลจะกลับบ้านเลยไหมหรือไปไหนต่อคะ”

“ก็ต้องรีบกลับบ้านสิ ตอนนี้ฉันหิวมากคิดถึงกับข้าวฝีมือป้าแขด้วย”

“เดินไหวไหมคะ” เพราะดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ชินกับไม้เท้าสักเท่าไหร่เธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แต่พอเสนอให้ใช้รถเข็นนั่งชายหนุ่มก็ไม่ยอม

“ไหวสิ แต่อาจช้าหน่อย มีนาเอาไอแพดกับแฟ้มที่วางบนโต๊ะมาด้วยนะ”

“ได้ค่ะ” มีนารวบแฟ้มที่วางบนโต๊ะและไอแพดมากอดไว้จากนั้นก็รีบเดินนำหน้าเขาไปเปิดลิฟต์โดยมีสายตาของพนักงานหลานคนมองตามด้วยความสงสัย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเข้ามาในบริษัทกับเขา แต่ก่อนหน้านี้เธอก็เคยมาบ้างแต่ส่วนใหญ่จะไปที่ห้องของคุณดลฤดีมากกว่า

“มีนา อยากเปลี่ยนใจมาเป็นเลขาฉันไหม”

“ไม่ดีกว่าค่ะ มีนาอยากเป็นครู” หญิงสาวตอบขณะกดปิดลิฟต์

“แล้วจะเป็นครูที่โรงเรียนฉันหรือจะไปสอบเป็นข้าราชการล่ะ”

“มีนายังไม่รู้เลยค่ะ”

“ถึงจะได้ทุนเรียนแต่เราก็ไม่ได้บังคับนะว่าจะต้องกลับมาสอนที่โรงเรียนของเรา รุ่นก่อนๆ ที่ได้ทุนก็ไปสอบเป็นข้าราชการตั้งหลายคน แต่ก็มีบางคนที่เลือกจะทำงานที่โรงเรียนเลย”

“เหลืออีกสองปีนะคะ มีนาถึงจะเรียนจบนะคะ เอาไว้ถึงตอนนั้นค่อยคิดก็ได้นี่คะ”

“แต่ก็เธอก็ต้องวางแผน ถ้าคิดว่าจะสอบก็ต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ รู้ไหม”

“ค่ะคุณดล”

ทั้งสองคนคุยกันตั้งใจในลิฟต์จนกระทั่งเดินออกมาที่ประตูทางออกซึ่งตอนนี้น้าชัยขับรถมารออยู่แล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel