บทย่อ
“ฮื่อๆ… อูย พี่วินจ๋า… หมวยไม่ไหวแล้วค่ะ พอเถอะ” หมวยเม้มปากแน่น มาร์วินลงลิ้นอย่างไม่ปรานีต่อความรู้สึกของหล่อนที่หลับตาปี๋ ใบหน้าบิดเบ้ สะบัดไปมาราวจะขาดใจตาย ยิ่งเร่งเร้าให้มาร์วินได้ใจ กดขยี้ลิ้นเบิร์นกลีบสวาทของหล่อนอย่างดุดัน “อ๊าย… ฮื่อๆ… มะ… ไม่ไหวแล้ว พี่วินจ๋า” หมวยร้องคราง ตัวอ่อนตัวงอ ท่าทางดีดดิ้นยิ่งทำให้ตูดส่าย ปลุกเร้าอารมณ์ของมาร์วินสุดๆ รีบแบะบีบกลีบเนื้อสีชมพู เคล้นให้ปลิ้นอ้า เบ่งบานออกมารับดุ้นลิ้น จ้วงเลียหนุบหนับ แผล่บๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงลิ้นของชายหนุ่มปาดขึ้นๆ ลงๆ อยู่นานจนกระทั่งเห็นว่าน้ำหล่อลื่นของหมวยกะปริบไหลออกมาอีกระลอก อาบดุ้นลิ้นที่กดฝังจมมิดสุดโคน พอกระชากออกมาก็ตวัดลิ้นไล้เลียความชุ่มลื่นที่ติดอยู่ตรงริมฝีปากและหนวดของตัวเอง
ตอนที่ 1
พิศวาสร้าย
ผู้ชายข้างบ้าน
‘หมวย’ สาวรุ่นวัยกำดัด เป็นลูกสาวคนเดียวของเถ้าแก่ ‘เฮง’ ที่เปิดร้านขายของชำอยู่ในตลาดกลางชุมชนเมืองเก่าแห่งหนึ่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
หมวยทอดสายตามองออกไปยังลานซีเมนต์โล่งกว้างที่อยู่อีกฟากถนน มีหนุ่มๆ หลายคนกำลังเล่นบาสเกตบอลกันอย่างสนุกสนาน
ทว่าท่ามกลางผู้ชายเหล่านั้น ความสนใจของสาวหมวยกลับจับจ้องอยู่แต่ร่างสูงใหญ่เกินร้อยแปดสิบเซนติเมตรของมาร์วิน ชายหนุ่มรูปหล่อที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านซึ่งติดกับบ้านของหล่อน หลังจากเจ้าของเดิมประกาศขายไว้ได้ไม่นาน
ด้วยความหล่อเหลาของมาร์วิน ทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่ใจระทวย ตอนนี้เขากลายเป็นที่สนใจของบรรดาสาวๆ ทั้งอำเภอ
“อยากกินอ่ะ... ”
สาวหมวยรำพึงกับตัวเองเบาๆ สายตาเอาแต่จับจ้องมองร่างกำยำของหนุ่มฉกรรจ์นามว่า ‘มาร์วิน’ ไม่วางตา ทำให้เถ้าแก่เฮงที่เดินออกมาจากในร้านพอดี และได้ยินที่ลูกสาวพูด จึงรีบเอ่ยกับลูกสาว
“หิวก็ไปกินซะ... อั้วเอาบะจ่างใส่จานไว้ให้ลื้อแล้วนะอาหมวย”
คนเป็นพ่อเข้าใจว่าที่ลูกสาวบอกว่า ‘อยากกิน’ นั้นคงหมายถึงบะจ่างที่ตนเพิ่งซื้อมาจากตลาดนัดหนังอำเภอเมื่อเย็นวาน
“อุ๊ย... ”
หมวยหันมามองหน้าเตี่ยด้วยท่าทางเขินๆ สะดุ้งตื่นจากภวังค์วาบหวาม
หลังจากยืนแอบมองเรือนร่างกำยำอาบเหงื่อของมาร์วินจนเกิดอาการวาบหวิวแปลกๆ ในอารมณ์
“ที่หนูว่าน่ากินน่ะไม่ใช่บะจ่างหรอกจ้ะเตี่ย... อิอิ”
หมวยกล่าวยิ้มๆ
“อ้าว... แล้วลื้อหมายถึงอะไรวะ”
คิ้วรูปทรงสามเหลี่ยมสีขาว วางเอาไว้เหนือดวงตาตี่ ชิดเข้าหากันด้วยความสงสัยในคำพูดของอาหมวย
“ที่หนูว่าน่ากินก็โน่นไงคะเตี่ย... คนสวมเสื้อกล้ามสีขาวเบอร์แปดที่กำลังวิ่งอยู่กลางสนามบาสโน่นไงจ้ะ... อิอิ”
หมวยบอกไม่อ้อม ทำเสียงทะเล้น ตาไม่ละจากชายหนุ่มที่หล่อนแอบนั่งมองทุกเย็นที่เขาออกมาบาสเกตบอล
ไม่ใช่แค่มองเปล่า... แต่หลายครั้งหมวยยังแอบเก็บเอาหุ่นล่ำๆ มาจินตนาการ ผู้ชายรูปหล่อคนนี้มักจะผุดเข้ามาในอารมณ์วาบหวามและความฝันสยิวๆ ของหมวยบ่อยๆ
“อาหมวย... อย่าลืมว่าลื้อเป็นสาวนะ ผู้หญิงแบบไหนกันเที่ยวบอกว่าตัวเองอยากกินผู้ชาย... ลื้อนี่มันจริงๆ เลย ความเป็นกุลสตรีสักนิดก็ไม่มี”
เถ้าแก่เฮงมองลูกสาวด้วยสีหน้าอ่อนใจ หลายครั้งที่รู้สึกเอือมระอาในความแก่แดดของหมวย เมื่อมีโอกาสสั่งสอนก็ร่ายยาวจนลูกสาวต้องยกมือขึ้นปิดหู
“โธ่เตี่ย... นี่มันยุคไหนกันแล้วจ๊ะ ผู้หญิงยุคนี้ถ้าวันๆ มัวแต่นั่งพับเพียบเรียบร้อยก็อดสิจ๊ะเตี่ย”
หมวยเถียงคำไม่ตกฟาก
“อั๊วไม่อยากปวดกบาลกับลื้อ”
เถ้าแก่เฮงไม่ต่อความยาวสาวความยืด เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างเอิบอิ่มของ ‘ป้าชื่น’ แม่ม่ายวัยสี่สิบปีที่ยังมีหน้าตาสะสวยไม่สร่าง รูปร่างของหล่อนเซ็กซี่ชนิดที่ว่าตูดเป็นตูดนมเป็นนม จะก้มจะเงยทำเอาผู้ชายร้องคราง มองตามตาเป็นมัน
ทุกวันนี้เถ้าแก่เฮงจ้างป้าชื่นมาทำความสะอาดบ้านเป็นประจำทุกเช้าเย็น วันละสองรอบ ทำมานานเกือบปีแล้ว
สาเหตุที่เถ้าแก่เฮงต้องจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดบ้าน ก็เพราะว่าแกเป็นพ่อม่าย หลังจากภรรยาซึ่งเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดหมวยเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสิบปีก่อน เถ้าแก่เฮงก็ตกพุ่มม่าย ต้องเลี้ยงดูหมวยซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวมาเพียงลำพัง
เรื่องงานบ้านงานเรือนหมวยไม่ถนัด และเถ้าแก่ก็ไม่ได้เคี่ยวเข็ญ ไม่เคยคาดหวังในความเป็น ‘กุลสตรี’ ของอาหมวยผู้เป็นลูกสาว ด้วยรู้ว่าลูกที่เติบโตมากับพ่อซึ่งเลี้ยงดูอย่างผู้ชาย… ย่อมต่างจากการเลี้ยงดูของแม่
“เตี่ยจ๋า วันนี้หนูขอไปข้างนอกเดี๋ยวนะ... เตี่ยเฝ้าร้านไปนะ”
ลูกสาวหันมาสั่งพ่อ
“เอ็งจะไปไหน”
เถ้าแก่เฮงย่นหน้าผากถาม
“ไปเที่ยวในตลาดจ้ะ”
หมวยโกหก เพราะหล่อนตั้งใจจะไปหามาร์วิน ได้คุยได้ทักทายวันละนิดละหน่อยก็ทำให้ใจของหมวยพองโตเหมือนลูกโป่งสูบลม
“เออ… เตี่ยว่าวันนี้จะปิดร้านเร็วสักหน่อย”
เถ้าแก่เฮงบอกลูกสาว หากแต่สายตากลับทอดมองไปยังป้าชื่นที่กำลังเดินอ้อมเข้ามาทางประตูหลังร้านเหมือนอย่างทุกวันที่หล่อนมาถึง
หมวยนึกเอะใจว่าเหตุใดบิดาของตนจึงมักจะปิดร้านเร็วตอนที่ป้าชื่นมาถึง จะเปิดอีกครั้งก็ตอนค่ำที่ป้าชื่นทำงานเสร็จแล้ว
หมวยเคยคิดเล่นๆ ว่าบางทีเตี่ยกับป้าชื่นอาจจะแอบกุ๊กกิ๊กกันลับหลังหล่อน
แต่หมวยก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร เพราะว่าเตี่ยก็เป็นพ่อม่าย ป้าชื่นก็แม่ม่าย จะเป็นไรไปถ้าหญิงชายที่ตกอยู่ในอารมณ์เดียวดายจะหาทางออกร่วมกันเพื่อทำลายความเหว่ว้าในอารมณ์
“แหม... พอป้าชื่นมาเตี่ยก็รีบปิดร้านทุกทีเชียวนะ… อิอิ”
หมวยแซวขณะเดินมาหยิบขวดสปอนเซอร์มาถือไว้ในมือ ตั้งใจจะเอาไปให้ชายหนุ่มชื่อมาร์วินเหมือนอย่างที่เคยทำบ่อยๆ