บท
ตั้งค่า

บทที่5.

เธอเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเผลอเรียกเขาด้วยชื่อเล่นอย่างลืมตัวและพยายามจะช่วยเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ

“ไม่ต้องมาเสแสร้ง ฉันรู้ว่าเธอกำลังหัวเราะเยาะฉัน”

“เปล่านะคะ น้องมดไม่ได้หัวเราะเยาะคุณและไม่คิดจะสงสารสมเพชคุณคริสด้วย อย่าคิดว่าใครๆ ใจร้ายกับคุณไปเสียหมดสิคะ คนที่เขาเฝ้ามองคุณคริสด้วยความรัก และจริงใจก็ยังมีนะคะ”

“อย่ามาทำเป็นรู้ดีเลยรติมา และอย่ามาคิดแทนฉันว่าอะไรหรือใครเป็นอย่างไร ฉันรู้ดีว่าอะไรหรือใครเป็นอย่างไร เธอเพิ่งจะมาถึงที่นี่ยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงดีด้วยซ้ำจะไปรู้อะไร”

เขาตวาดอย่างไม่พอใจที่เธอทำเหมือนรู้ทันความคิดของเขา และพยายามจะลุกโดยไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเธอ แต่สุดท้ายเธอก็ชนะ เมื่อพาเขามายังอ่างล้างหน้าได้สำเร็จท่ามกลางอาการขัดขืนของคนตัวโตที่ไม่ยอมรับความหวังดีนั้นนัก

“ค่อยๆ แปรงนะคะ ไม่ต้องรีบเดี๋ยวน้องมดจะแปรงฟันเป็นเพื่อน อุ้ย มีแปรงสีฟันสองอันพอดีเลยค่ะ อ่ะนี่ค่ะของคุณคริสนะคะ”

รติมาทำเป็นไม่สนใจท่าทีฮึดฮัดของเขาแล้วยังแปรงฟันหน้าตาเฉยหน้ากระจกบานใหญ่ ซึ่งสะท้อนภาพชายหนุ่มหน้าตาบึ้งตึงที่แปรงฟันอย่างกระแทกกระทั้น จนเธอกลั้นยิ้มแทบไม่อยู่และแอบยิ้มกับท่าทางนั้นอย่างไม่กลัวเขาโกรธ

แหม...เขามองไม่เห็นหรอกน่าว่าเธอแอบยิ้ม

“บ้วนปากนะคะ นี่ค่ะแก้วน้ำ”

“ฉันทำเองได้ ทุกๆ วันฉันก็ทำเอง” เขาพูดเสียงห้วน แต่ก็รับแก้วน้ำจากเธอโดยดี

“ก็เมื่อก่อนป้าเพียงแค่มาเตรียมของให้คุณนี่คะ น้องมดรู้ค่ะว่าคุณคริสไม่อยากเป็นภาระให้ใคร แต่สำหรับน้องมดมันไม่ใช่ภาระนะคะ น้องมดเต็มใจจะดูแลคุณ อย่างน้อยๆ ก็เพื่อไถ่โทษแทนครอบครัวของเราที่ทำกับคุณคริส”

“เป็นคนดีเหลือเกินนะ ไม่ใช่เพราะได้บ้านคืนหรือ” ไม่วายที่คนตัวโตจะประชดประชัน และมันก็ทำให้รติมาอดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางราวเด็กๆ ของเขา ทั้งๆ ที่ชายหนุ่มผู้นี้อายุเลยเลขสามมาสี่ปีแล้ว

“เธอหัวเราะเยาะฉันเหรอ”

“เปล่านะคะ น้องมดไม่ได้หัวเราะ แค่ยิ้มเฉยๆ และน้องมดก็ดีใจที่จะได้บ้านคืนจริงๆ นั่นล่ะ”

เธอแย้งยิ้มๆ ดูเอาเถิดแม้เขาจะมองไม่เห็นแต่ก็รู้ไปเสียทุกอย่าง หากเขาตาดีๆ เหมือนก่อนหน้านี้ รับรองว่าเธอไม่ขอเข้าใกล้เขาเป็นแน่ เพราะดูเขาจะทั้งเจ้าระเบียบและจับผิดเก่งเป็นที่หนึ่งแน่ๆ ที่สำคัญ เขาก็ทำให้ผู้หญิงหวั่นไหวได้เพียงแค่มอง...

“เอาล่ะค่ะ มาอาบน้ำเถอะเดี๋ยวน้องมดช่วยนะคะ เราสระผมกันก่อนก็แล้วกันเพราะดูท่าทางคุณไม่ได้สระผมมาแล้วสองวันแน่ๆ”

“ไม่อายแล้วเหรอ”

“ก็อายอยู่ค่ะ แต่น้องมดก็ต้องทำอยู่ดี อายหรือไม่อายก็ต้องทำเหมือนๆ กันนี่คะ”

“ไม่เป็นไรเธอสระผมให้ฉันเท่านั้นก็พอ ที่เหลือฉันทำเองได้อาบเสร็จแล้วฉันจะเรียก”

เขาพูดอย่างใจดีเพราะเริ่มรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อได้ยินเสียงใสๆ ไพเราะของเธอ เสียงของรติมากังวานใสนุ่มนวล ฟังเพลินราวเสียงดนตรี จนเขานึกอยากจะเห็นหน้าตาของเธอ ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยนึกคิดถึงข้อนี้มาก่อน ตั้งแต่เขามองไม่เห็นมาตลอดหกเดือน และเมื่อเขาถูกคู่หมั้นถอนหมั้นทันที ที่เธอรู้ว่าเขามองไม่เห็นก็ยิ่งนึกเกลียดผู้หญิงแทบทุกคน แต่ตอนนี้ความรู้สึกลึกๆ ของเขาเริ่มจะเปลี่ยนไป

“จะเอาอย่างนั้นหรือคะ ถ้าอย่างนั้นคุณคริสนั่งลงตรงนี้นะคะ น้องมดจะสระผมให้หากแสบตาก็บอกนะคะ”

“เธอเรียกฉันว่าคุณคริสหรือ”

“คะ?...” รติมาเลิกคิ้วมองเขางงๆ เมื่ออยู่ๆ เขาก็เอ่ยขึ้นในขณะที่เธอชโลมแชมพูลงบนเรือนผมดกหนา พร้อมนวด เบาๆ เธอทำทุกอย่างด้วยความนุ่มนวลอ่อนโยน จนเขารู้สึกอยากจะให้เวลาของการสระผมยาวนานออกไปอีก

“ฉันได้ยินเธอเรียกฉันว่าคุณคริส”

“เอ่อ น้องมดขอโทษค่ะ น้องมดไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่เป็นไร ต่อไปนี้เรียกฉันว่าคุณคริส”

“คะ...” รติมาทำเสียงสูงอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าเขาอนุญาตให้เธอเรียกชื่อเล่นของเขา

“ฉันบอกให้เธอเรียกฉันว่า คุณคริส หูตึงรึไง” เขาพูดเสียงเข้มหน้าเข้มขึ้นมาทันที

“เอ่อ ค่ะ คุณคริส เอาล่ะค่ะเสร็จแล้ว หอมฟุ้งเชียวค่ะ นี่สบู่เหลวนะคะ แล้วนี่ก็ฟักบัว น้องมดออกไปรอข้างนอกนะคะ หากมีอะไรก็เรียกได้นะคะ อย่าฝืนทำเองจะเกิดอันตรายได้”

เธอบอกอย่างห่วงใยเขาจริงๆ และเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลานั้นคลายความกระด้างลง เธอก็รู้สึกพอใจและกล้าที่จะพูดคุยกับเขามากขึ้น...

หญิงสาวก้าวออกมาจากห้องน้ำด้วยหัวใจที่เต้นแรงรัวกระหน่ำ ใบหน้านวลร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงเรือนกายงดงามของเขา ทั้งๆ ที่พยายามจะไม่คิดอะไร ห้ามสายตาไม่ให้มองซอกแซกเรือนกายสมบูรณ์แบบนั้น แต่เธอไม่สามารถห้ามสายตา และความคิดได้ ตอนนี้ภาพร่างเกือบเปลือยของเขาก็วนเวียนอยู่ในหัวเธอวุ่นวายไปหมด

“บ้าจังน้องมด ทะลึ่งใหญ่แล้วนะ”

เธอเอ็ดตัวเองแล้วรีบหาเสื้อผ้าเตรียมไว้รอเขา เมื่อได้ยินเสียงเขาเรียกเธอก็รีบเข้าไปในห้องน้ำเพื่อรับเขาออกมาแต่ในขณะที่ก้าวขาพาคนตัวโตออกมาจากห้องน้ำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพื้นมันลื่นหรือเพราะเธอเขินจัดจนแข้งขามันพันกัน เมื่อทั้งเขาและเธอพากันเซถลา ล้มกองกับพื้นห้องในขณะเดียวกันประตูห้องนอนของชายหนุ่มก็เปิดออกพอดี

“ว้าย ตาเถร..” เสียงของผู้มาใหม่สองคนดังขึ้น เมื่อเข้ามาเห็นภาพที่หญิงสาวสดสวยกำลังคร่อมทับร่างใหญ่โตของชาคริตซึ่งบัดนี้ก็เกือบจะเปลือยเปล่าซึ่งอยู่ในท่วงท่าที่น่าหวาดเสียวชวนคิดไปไกลเหลือเกิน

“พี่คริส ตายแล้วเกิดอะไรขึ้น แล้วเธอเป็นใคร ออกไปจากตัวพี่ชายฉันเดี๋ยวนะ ยายผู้หญิงชั้นต่ำ”

“โอ๊ย...” รติมาร้องเสียงหลงเมื่อมือเรียวๆ ขาวๆ ของผู้มาใหม่กระชากผมเธออย่างแรง พร้อมกับแรงฟาดเต็มๆ ลงบนใบหน้างามจนเธอรู้สึกชาไปทั้งใบหน้า

“กุ๊บกิ๊บจะมัวยืนมองอะไรมาลากอีนังผู้หญิงคนนี้ออกไปสิ เร็วๆ”

“ค่ะๆ”

เรื่องราววุ่นวายชุลมุนเกิดขึ้นรวดเร็วจนไม่รู้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร แต่รติมานั้นรู้สึกเจ็บและอับอายกับสภาพตอนนี้ของตน เธอถูกร่างใหญ่ของกุ๊บกิ๊บกระชากออกไปนอกห้องพร้อมกับปิดประตูใส่หน้าอย่างแรง ในขณะที่ชาคริตก็ถูกพยุงให้ลุกขึ้นจากพื้นห้องอย่างอ่อนโยน และเขาก็รู้ว่าเธอเป็นใคร เพราะเขาจำเสียงกับน้ำหอมที่เธอใช้ได้...

“น้องญา กลับมาเมื่อไหร่ทำไมไม่มีใครบอกพี่..”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel