พิศวาสรัก

73.0K · จบแล้ว
ไอริส
52
บท
14.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพลิงพายุแห่งความโกรธแค้นกำลังเผาไหม้ในใจเพราะสูญเสียน้องสาว เธอผู้เป็นพี่สาวของชายเลว ตกเป็นเป้าหมายของเกมการแก้แค้นในครั้งนี้

นิยายรักโรแมนติกประธานพันล้านแก้แค้นโรแมนติก

บทที่ 1

บทที่ 1

ณ คฤหาสน์หรูหลังใหญ่ซึ่งอยู่ชานเมืองกรุงเทพฯ ในทุกๆ เช้าจะได้ยินเสียงของผู้เป็นพี่ชาย ได้เอ่ยซักถามน้องสาวด้วยประโยคเดิมๆ เพราะความเป็นห่วงก่อนที่เขาจะออกไปทำงาน

“ลิซ่า น้องกินยาก่อนอาหารหรือยังครับ”

คิวา มนภาส เจ้าของน้ำเสียงห้าวทุ้มเอ่ยถามน้องสาวเพียงคนเดียว ขณะเอ่ยถามก็ไม่ลืมกดจูบบนศีรษะกลมทุยของน้อง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกัน

“กินแล้วค่ะ”

ชาลิสา ผู้เป็นน้องสาวเอ่ยตอบเสียงเนือยๆ พยายามกักเก็บความเบื่อหน่ายและติดรำคาญไว้ในใจกับคำถามของพี่ชาย ที่มักจะถามเธอเช่นนี้ในทุกเช้าและทุกเย็น

“กินข้าวต้มเยอะๆ แล้วก็อย่าลืมกินยาหลังอาหารภายในสามสิบนาทีด้วยนะครับ”

คิวาเอ่ยเตือน ใบหน้าคมเข้มคลี่ยิ้มให้กับน้องสาว พร้อมกันนั้นก็ตักข้าวต้มเลิศรสกำลังจะยกเข้าปาก แต่ก็ต้องชะงักอยู่กลางอากาศกับคำต่อว่า และสีหน้าที่บ่งบอกให้เห็นว่ารำคาญหนักหนา

ชาลิสาตีหน้าหงิกหน้างอ หงุดหงิดในทุกครั้งกับคำเตือนที่ได้ยินในทุกเช้า

“ทำไมพี่ชายต้องบอกลิซ่าทุกวัน คอยย้ำให้กินยาก่อนอาหาร คอยเตือนให้กินยาในทุกมื้อ ลิซ่าโตแล้ว อายุยี่สิบสามปีแล้วนะคะ ไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆ ไม่ต้องพูดกรอกหูลิซ่าทุกวันก็ได้ค่ะ”

คิวาหน้าสลดเพราะเสียใจกับคำต่อว่าของน้องสาว แต่ก็ซุกซ่อนความรู้สึกนี้ไว้ข้างในกาย จากนั้นก็วางช้อนลงกับถ้วยข้าวต้ม เอ่ยแก้ไขคำพูดของน้องด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ที่พี่ย้ำหรือเตือนลิซ่าในทุกๆ วัน ก็เพราะพี่เป็นห่วงน้องนะครับ”

“ไม่ต้องห่วงมากก็ได้ค่ะ ลิซ่าบอกแล้วยังไงว่าลิซ่าโตแล้ว ดูแลตัวเองได้ แล้วก็ไม่ต้องให้ลูกน้องของพี่ชายคอยตามดูแลลิซ่าด้วย”

ชาลิสายังคงต่อว่าเสียงแข็ง รำคาญที่พี่ชายมักปฏิบัติราวกับเธอเป็นลูกแงก็ไม่ปาน

และคิวาก็พยายามเอ่ยบอกให้น้องสาวเข้าใจถึงสิ่งที่ตนได้ทำต่อเธอ “ตอนนี้เรามีกันแค่สองคน ถ้าไม่ให้ห่วงลิซ่าแล้วจะให้พี่ห่วงใคร อีกอย่างลิซ่าก็สุขภาพไม่แข็งแรง ถ้าพี่ไม่ให้ลูกน้องคอยตามไปดูแลลิซ่า เกิดลิซ่าช็อกหมดสติเหมือนเดือนที่แล้ว ใครจะช่วยลิซ่าได้ทันท่วงที”

สิ่งที่พี่ชายพูดนั้นล้วนเป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ซึ่งชาลิสารู้ดีว่าเธอมีสุขภาพไม่แข็งแรง เป็นโรคหัวใจตีบตั้งแต่เด็ก หากเกิดอาการแน่นหน้าอกมากๆ ทำให้หายใจไม่ทันก็อาจหมดสติได้ ซึ่งเธอเคยเป็นมาหลายครั้งแล้ว และครั้งล่าสุดเป็นในขณะขับรถยนต์ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุรถตกข้างทาง โชคดีที่ตัวเธอไม่ได้รับบาดเจ็บมาก และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บด้วย แต่ถึงแม้รู้อยู่แก่ใจว่าพี่ชายพูดถูกต้อง แต่เธอก็ไม่พอใจที่พี่ชายให้ลูกน้องคอยติดตามเธอเป็นดั่งเงา

“แต่พี่ชายก็ไม่จำเป็นต้องให้ลูกน้องตามลิซ่าไปทุกที่ ลิซ่าอยากไปเดินห้างฯ คนเดียว อยากไปดูหนังคนเดียว ไม่ใช่ต้องเดินตามลูกน้องของพี่ชายต้อยๆ เหมือนลูกเป็ดเดินตามแม่ไม่มีผิด”

“ลิซ่า”

คิวาเอื้อมมือมาจับมือของน้องสาว แต่ก็ถูกปัดมือใหญ่ให้พ้นทาง เพราะอีกฝ่ายยังโกรธเขาอยู่ ทำเอาเขาต้องหน้าซีด และก็เอ่ยกล่อมแกมบอกถึงเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้

“พี่เป็นห่วงลิซ่าจริงๆ นะครับ หากมีลูกน้องของพี่ติดตามลิซ่าไปด้วย เขาจะสามารถช่วยลิซ่าได้ถ้าหากเกิดเรื่องฉุกเฉินขึ้นมา และพี่ไม่ต้องเป็นห่วงมากด้วยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับ

ลิซ่าหรือเปล่า”

“จะต้องเป็นห่วงทำไมนักหนา การไปไหนมาไหนโดยมีบอดี้การ์ดคอยคุมไปด้วย มันไม่สนุกเลยนะคะ ลิซ่าจะคุยจะเดินกับเพื่อนก็ไม่สะดวกสักอย่าง พี่ชายควรบอกให้ลูกน้องเลิกตามไปดูแลลิซ่าได้แล้ว”

“แต่พี่”

“ไม่มีแต่ค่ะ นี่คือคำสั่งของลิซ่า”

ชาลิสาเอ่ยแทรกเสียงห้วนก่อนพี่ชายจะทันพูดจบ จากนั้นก็ผลักถ้วยข้าวต้มออก ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน และออกคำสั่งกับพี่ชายต่อ

“วันนี้ลิซ่าจะไปช้อปปิ้งกับเพื่อนๆ ห้ามลูกน้องของพี่ชายตามไปเด็ดขาด ถ้าพี่คิวาไม่เชื่อฟังคำสั่งของน้อง ลิซ่าจะไม่กินยา จะเอายาทิ้งให้หมดและจะไม่ไปหาหมอตามที่หมอนัดด้วย”

“ลิซ่า”

คิวามองตามน้องสาวที่ลุกเดินออกจากห้องอาหาร แม้รู้ชาลิสารำคาญต่อความห่วงใยที่ตนมีให้ แต่ก็ไม่ลืมตะโกนบอกว่า

“ลิซ่า อย่าลืมกินยาหลังอาหารด้วย”

“ไม่ต้องเตือน รำคาญ!”

คำตะโกนตอบกลับเสียงห้วนๆ แล่นมากระทบจิตใจของคิวาอย่างจัง ใบหน้าคมเข้มถอดสีซีด เสียใจที่น้องสาวไม่เข้าใจถึงความเป็นห่วงที่เขามีให้

“ลิซ่า ทำไมน้องถึงไม่เข้าใจว่าพี่เป็นห่วงน้องมากแค่ไหน”

คิวาได้แต่เอ่ยถามด้วยความอ่อนใจ แม้รู้ว่าตนเองเป็นห่วงน้องสาวมากเกินไป แต่เขาทำเพื่อตัวของชาลิสาเอง อีกทั้งเพื่อไม่ให้บุพการีที่ล่วงลับไปแล้วต้องเป็นห่วงลูกสาวเพียงคนเดียวที่เจ็บป่วยมาตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งท่านทั้งสองมักจะย้ำกับเขาเสมอว่าให้ดูแลชาลิสาให้ดีที่สุด