4. คนหื่นกาม
หมอชวิณก้าวขาเดินชะลอรอแก้มใสจนกระทั่งมาถึงห้องทำงานของตัวเอง หมอหนุ่มเอื้อมมือไปคว้ามือจับประตูแล้วออกแรงกดลงเพียงนิดก็สามารถทำให้ประตูห้องทำงานเปิดออกได้
แกรก!
"เชิญครับ" หมอหนุ่มเปิดประตูห้องและเปิดค้างไว้เพื่อให้คนร่างเล็กได้เดินเข้าไปด้านในก่อน ในช่วงที่หญิงสาวเดินผ่านหน้าเขาไป หมอหนุ่มได้กลิ่นแชมพูอ่อน ๆ จากผมสลวยดำขลับของเธอมากระทบที่จมูก ทำให้เขาต้องเผลอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อย่างไม่รู้ตัว
"นั่งก่อนครับ" หมอชวิณรีบเชื้อเชิญหญิงสาวให้นั่งลงเมื่อกลิ่นหอมได้จางหายไปแล้ว เขารีบปิดประตูลงแล้วเดินไปยังเก้าอี้ทำงานซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของโต๊ะทำงาน
"หมอบอกว่ามีวิธีช่วย ยังไงเหรอคะ?" แก้มใสไม่รีรอ รีบถามถึงสิ่งที่หมอหนุ่มเอ่ยกับเธอในตอนที่อยู่หน้าห้องธุรการ
"คุณดูเป็นคนใจร้อนนะครับ" หมอชวิณเอ่ยพลางยิ้มอ่อนโยนส่งให้เธอ นั่นทำให้เธอรู้สึกเบาใจมาก หมอคงจะเป็นคนใจดีชอบช่วยเหลือผู้เดือดร้อน หญิงสาวคิดในใจ
"หนูอยากให้น้องได้ผ่าตัดเร็ว ๆ น่ะค่ะ" แก้มใสตอบหมอหนุ่มพลางส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้เขา เธอคงจะเสียมารยาทเกินไปที่ทวงถามหาความช่วยเหลือจากเขา
"ผมมีวิธีที่จะช่วยคุณอยู่แล้วครับ อยู่ที่คุณจะยอมรับวิธีของผมหรือเปล่าน่ะสิ" หมอชวิณเอ่ยขณะที่วางมือที่ประสานเข้าหากันวางไว้ที่ตักกว้างของตัวเองอย่างคนใจเย็น
"หนูยอมค่ะ หนูยอมทุกอย่างขอแค่ให้น้องหนูได้รับการรักษาก็พอ" แก้มใสพูดรวดเร็วราวกับว่ากลัวหมอหนุ่มจะเปลี่ยนใจ
"ตอนนี้คุณมีคนคบหาไหมครับ?" หมอชวิณเอ่ยถามเสียงทุ้มเรียบขณะที่สายตาคมหรี่มองสำรวจปฏิกิริยาของคนตรงหน้า
"ไม่มีค่ะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่หนูมีหรือไม่มีแฟนล่ะคะ?" แก้มใสตอบกลับไปพลางขมวดนิ้วเล็กเข้าหากันอย่างสงสัยในคำถามของหมอหนุ่ม
"งั้นก็ดีเลยครับ คุณจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในข้อเสนอของผม" หมอชวิณกระตุกยิ้มอย่างพอใจในคำตอบของหญิงสาว หมอหนุ่มหยัดร่างสูงของตัวเองลุกขึ้นยืนแล้วเดินอ้อมโต๊ะมาหาตำแหน่งที่เธอนั่งอยู่ เขาหย่อนสะโพกลงที่มุมโต๊ะทำงานหันหน้ามาทางเธอ สองมือใหญ่จับที่ขอบโต๊ะในท่าทางทีสบาย ผิดกับแก้มใสที่เห็นท่าทางของและสายตาคมกริบที่มองมาของหมอหนุ่ม เธอเริ่มที่จะหายใจไม่ทั่วท้อง ท่าทางเขาราวกับเสือที่จ้องจะตะครุบเหยื่อก็ไม่ปาน
"ขะ ข้อเสนออะไรเหรอคะ?" เมื่อเห็นว่าหมอหนุ่มนั้นเข้ามาใกล้เธอเกินไป แก้มใสเอ่ยถามอย่างไม่เต็มเสียงขณะที่ตั้งท่าจะเลื่อนเก้าอี้ออกห่างอย่างคนระวังตัว แต่ก็โดนเท้าใหญ่ที่อยู่เบื้องล่างเกี่ยวขาเก้าอี้เอาเสียก่อนทำให้หญิงสาวไม่อาจขยับหนีไปไหนได้ เธอจึงต้องนั่งกลั้นลมหายใจฟังข้อเสนอพร้อมกับการเต้นโครมครามของหัวใจดวงน้อย
"ผมจะไม่อ้อมค้อมนะ ผมสนใจคุณ สนใจมาเป็นเด็กผมไหม?" หมอชวิณเอ่ยเสียงเรียบสายตาคมจ้องมองมาทางเธอนิ่ง บ่งบอกว่าสิ่งที่เขาพูดกับเธอนั้นไม่ได้พูดเล่น
"คะ? เด็กอะไรคะ? คือยังไง?" แก้มใสเอ่ยถามเสียงดัง เธอมั่นใจว่าหมอหนุ่มพูดถึงเรื่องอย่างว่าแต่อยากจะถามให้มั่นใจว่าสิ่งที่เธอคิดนั้นถูกต้อง เธอโตพอที่จะรู้ความหมายของคำ ๆ นั้น ว่าเด็กที่หมอหนุ่มเสนอมาคือทำหน้าที่อย่างไร
"ก็เราจะทำเรื่องบนเตียงกัน ผมมีเงินพิเศษเลี้ยงดูคุณเป็นรายเดือน" หมอชวิณขยายความให้กว้างขึ้นเพื่อให้ผู้หญิงตรงหน้าเข้าใจ
"หนูไม่ได้ขายตัวนะคะ!" แก้มใสแผดเสียงขึ้นมาเสียงดัง ดวงตากลมโตสั่นระริกด้วยความโกรธที่เขาบังอาจมาดูถูกเธอ
"แล้วแต่นะครับ ถ้าไม่สนใจก็ไม่เป็นไร ผมลืมบอกอีกอย่าง ผมเป็นลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลนี้ผมสามารถเซ็นอนุมัติการผ่าตัดน้องชายคุณได้ถึงแม้ว่าเงินมัดจำของคุณจะไม่มีก็เถอะ"
"..."
"ไหนบอกว่าสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อที่จะให้น้องได้ผ่าตัด" ไม่วายจะเอ่ยทวนคำพูดที่หญิงสาวบอกเขาเมื่อนาทีที่แล้ว
"..." แก้มใสได้แต่นั่งเม้มปากเข้าหากันแน่นเพื่อที่จะระงับความโกรธไว้ภายใน มือเล็กกำแน่นจะเส้นเลือดที่หลังมือปูดขึ้นมา เธอพูดไม่ออกไม่คิดว่าหมอที่เธอชื่นชมเมื่อครู่จะกลายเป็นคนหื่นกามได้ถึงเพียงนี้
"เอาไปคิดนะครับ ถ้าตกลงใจก็มาหาผมได้ตลอดเวลา" หมอชวิณพูดจบก็หยัดตัวขึ้นลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินกลับไปนั่งยังเก้าอี้ประจำตำแหน่งของตัวเอง
"หนูขอตัวนะคะ!" แก้มใสพูดกระแทกเสียงใส่หมอหนุ่มทันทีที่เขานั่งบนเก้าอี้เรียบร้อย ร่างเล็กลุกขึ้นรวดเร็วแสดงอารมณ์ว่าโกรธเต็มที่ เธอหวังกับเขาไว้มากว่าเขาเป็นหมออาจจะมีวิธีช่วยเหลือเธอได้ แต่ต้องกลับมาผิดหวังในสิ่งที่ได้ยินสิ่งที่เขาเสนอให้เธอ
แก้มใสเดินหุนหันออกจากห้องทำงานของหมอหนุ่มไปอย่างคนหัวเสีย ผิดกับเจ้าของห้องที่นั่งกอดอกหรี่ตามองตามหลังบางอย่างคนมีแผนร้าย ฉันต้องเอาเธอมาเป็นเด็กของฉันให้ได้
"หึหึ" แล้วหมอหนุ่มก็นั่งหัวเราะอยู่ในห้องอย่างคนอารมณ์ดี