บทที่ 5
บทที่ 3
นลินดาไปทำงานในเช้าวันใหม่ด้วยการงัวเงียติดอ่อนเพลีย เพราะตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาหญิงสาวแทบไม่ได้นอนทั้งคืน ต้องตามมารดาบุญธรรมไปโรงพยาบาล หลังจากทำแผลเสร็จแล้วพอกลับมาถึงบ้านก็ต้องปวดหัวหนักกว่าเดิม เมื่อเอริณอาละวาดทำลายข้าวของในห้องนอนจนเละเป็นโจ๊ก เธอและคนรับใช้อีกสองคนต้องทำความสะอาดห้องแทบทั้งคืน พอล้มตัวลงนอนไม่ทันถึงสองชั่วโมงดี ก็ต้องตื่นมาเตรียมอาหารมื้อเช้าให้บุพการีบุญธรรมทั้งสอง ก่อนจะเดินทางมาทำงานหลังจากลางานไปหนึ่งวันแล้ว
ทันทีที่เดินเข้ามาในร้านอาหารซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของตนเอง ผู้เป็นเจ้าของร้านถึงกับเอ่ยเรียกด้วยความดีใจเมื่อเห็นนลินดามาทำงานในวันนี้
“นลิน...พี่ดีใจที่สุดที่นลินกลับมาทำงานแล้ว”
ปาริดาเจ้าของร้านอาหารเอ่ยทักพร้อมกับเดินไปจับมือนลินดาโดยไม่ลืมบ่นอุบในตอนท้ายด้วย
“รู้ไหมเมื่อวานลูกค้าแทบทุกรายถามหาแต่นลิน แถมลูกค้าก็เยอะมาก พี่ทำอาหารไม่ทัน บางคนถึงกับยอมไปกินข้าวร้านอื่นเพราะต้องรอนานเป็นชั่วโมง”
“ลูกค้าเยอะมากเลยหรือคะพี่ปา” นลินดาเอ่ยถามพลางหยิบผ้ากันเปื้อนและหมวกสีขาวมาสวมใส่ให้เรียบร้อยก่อนลงมือทำอาหาร
“ใช่แล้วจ้ะ”
ปาริตาพยักหน้ารับก่อนจะชี้นิ้วไปยังตึกสูงนับสิบๆ ชั้น ซึ่งอยู่ถัดจากร้านอาหารของตนไปราวๆ ห้าร้อยเมตรแล้วเอ่ยบอกต่อว่า
“นลินเห็นตึกใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จตึกนั้นไหมจ๊ะ”
นลินดาหันมองตามคำบอกของปาริตา ตึกสูงที่ว่าถูกออกแบบอย่างทันสมัยสวยงาม เพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน
“ค่ะพี่ปา ตึกนี้นลินได้ยินคนงานก่อสร้างพูดกันว่ามูลค่ารับเหมาเป็นพันล้าน เจ้าของตึกสั่งให้ใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพเกรดเอ และเป็นชนวนกันไฟไหม้ด้วย แว่วๆ ว่าเจ้าของตึกเป็นชาวต่างชาติใช่ไหมคะพี่ปา”
“ใช่จ้ะ พี่ได้ยินมาเหมือนกันว่าเป็นของชาวต่างชาติ รู้สึกว่าจะเป็นเศรษฐีชาวรัสเซีย และเมื่อวานก็เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว หลายบริษัทที่เช่าตึกนี้เป็นสำนักงาน ต่างก็เริ่มทำงานเป็นวันแรก”
“ตึกสูงเป็นสิบๆ ชั้น คงมีสำนักงานเป็นร้อยและพนักงานก็มากเอาการ นั่นทำให้ร้านของพี่ปามีลูกค้ามากขึ้นเป็นเท่าตัวใช่ไหมคะ”
นลินดาเอ่ยยิ้มๆ รู้สึกดีใจที่ร้านของเจ้านายแสนดีคนนี้มีลูกค้ามาอุดหนุนไม่ขาดสาย
“ถูกต้องแล้วนลิน ถือว่าเป็นอานิสงส์ให้ร้านของเราพลอยมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นด้วย และวันนี้เรามีออเดอร์อาหารให้เอาไปส่งที่ตึกนั้นด้วยจ้ะ”
นลินดาเบิกตาโตพลางเอ่ยถามกลับไปว่า “พนักงานบนตึกนั้นสั่งหรือคะ พี่ปา”
“ใช่แล้วนลิน ผู้จัดการบริษัทโมเดลลิ่งมาสั่งเมื่อวาน เขาให้พี่ทำกับข้าวสี่รายการสำหรับพนักงานหนึ่งร้อยคน ให้เอาไปส่งที่ชั้น 19 ของตึก พี่ดีใจจนแทบกระโดดตัวลอย ดีใจที่เขาไว้ใจเลือกร้านของเราให้ทำอาหารให้พนักงานของเขารับประทาน”
“กับข้าวสี่อย่างสำหรับพนักงานหนึ่งร้อยคน ถ้ายังงั้นเราต้องรีบลงมือทำอาหารแล้วล่ะค่ะพี่ปา เดี๋ยวไม่ทันส่งอาหารให้เขาก่อนมื้อเที่ยง”
ขณะเอ่ยเตือนเจ้าของร้านผู้ใจดี นลินดาก็เดินเข้าไปในห้องครัวขนาดใหญ่ และก็เห็นว่ามีพนักงานหลายคนกำลังจัดเตรียมเครื่องปรุงอาหารต่างๆ เพื่อรอให้เธอและกุ๊กอีกสองคนได้ทำการปรุงอาหาร
“ลุกมือกันเลยจ้ะ แต่เขาสั่งเป็นอาหารมื้อเย็นจ้ะนลิน” ปาริตาเอ่ยบอกยิ้มๆ แก้ไขความเข้าใจผิดขณะเดินตามลูกน้องสาวเข้าไปในห้องครัว
นลินดาชะงักฝีเท้าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมาเอ่ยถามด้วยความสงสัย “อ้าว! ทำไมเป็นมื้อเย็นล่ะคะ นลินนึกว่าเขาสั่งสำหรับมื้อเที่ยงซะอีก”
ทุกครั้งที่มีออเดอร์ทำอาหารจำพวกอาหารกล่อง ก็มักเป็นอาหารมื้อเที่ยงทั้งนั้น เพิ่งมีรายนี้รายแรกที่สั่งให้ทำสำหรับอาหารมื้อเย็น
“คนที่มาสั่งอาหารเขาบอกพี่ว่าเย็นนี้บริษัทของเขาจะมีการ แคสติ้งนางแบบ (casting) เพื่อเดินแบบในงานแฟชั่นโชว์ในอีกเจ็ดวันข้างหน้า บอสของเขาซึ่งเป็นเจ้าของตึกและเป็นเจ้า
ของบริษัทโมเดลลิ่งยักษ์ใหญ่ในภูมิภาคเอเชียต้องการเตรียมงานให้พร้อมที่สุดและไม่มีคำว่าผิดพลาด จึงสั่งให้พนักงานทุกคนทำงานล่วงเวลาไปจนถึงเที่ยงคืนทุกวันจนกว่าจะถึงวันเดินแบบ”
“โดยมีอาหารมื้อเย็นเลี้ยงพนักงานทุกวันและร้านของเราก็ทำอาหารไปส่งทุกวันถูกต้องไหมคะ พี่ปา” นลินดามั่นใจว่าต้องเป็นเช่นนั้น
และปาริตาก็พยักหน้ารับ ยิ้มหน้าบานกับเม็ดเงินที่ไหล่เข้ามาร้านของตน “ใช่แล้ว นลิน ภายในเจ็ดวันนี้พวกเราต้องทำงานหนักหน่อยนะ แต่ไม่ต้องห่วงพี่จ่ายเงินล่วงเวลาให้ทุกคนแน่นอนจ้ะ”