พิศวาสทาสเสน่หา

50.0K · จบแล้ว
อัญญาณี
33
บท
3.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“บ้าอำนาจชะมัด” หญิงสาวแอบบ่น กระแทกตัวลงนั่งริมสุดของขอบโซฟา ทิ้งระยะห่างจากเขาให้มากที่สุด “นี่แม่คุณ มานั่งใกล้หน่อยสิ นั่งไกลอย่างนั้นแล้วจะบริการฉันได้ยังไง ไม่เห็นเหรออาหารหมดถ้วยแล้ว” ถ้ารู้มาก่อนว่าคนที่จองห้องวีไอพีคือเขาคนนี้ เธอไม่ยอมเป็นพนักงานเสิร์ฟจำเป็นแน่นอน หญิงสาวเขยิบร่างกายเข้ามาอีกนิด ตักอาหารใส่ถ้วย ก่อนจะวางไว้ตรงหน้าเขาเหมือนเดิม “ป้อนด้วยสิ” เขาพูดอย่างอารมณ์ดี “ดิฉันมีหน้าที่คอยให้บริการอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ตามที่เห็นสมควรนะคะ การป้อนอาหารเป็นนอกหน้าที่ของดิฉัน” สร้อยระย้าพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเข้ม จ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มกับท่าทีแสนพยศของเธอ ขยับร่างกายเข้ามาประชิดร่างบางอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว “ว้าย!!..ปล่อยนะ” หญิงสาวร้องเสียงหลง ผลักร่างหนาให้ออกห่าง แกะมือใหญ่ที่รัดเอวของเธอไว้แน่น แต่ยิ่งพยายามเอวของเธอก็ต้องถูกรัดแน่นมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นร่างงามลอยขึ้นเหนือเบาะ เนื่องจากเขาอุ้มร่างของเธอมานั่งบนตัก “พยศนักนะ” ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขามาก่อน เห็นจะมีเพียงผู้หญิงกลิ่นกายเย้ายวนใจคนนี้ ยิ่งชิดใกล้เลือดในกายของเขาเดือดพล่าน ความต้องการปะทุขึ้นมาทันที เรียวปากใหญ่ปิดสนิทปากนุ่มที่กำลังจะอ้าปากต่อว่า ทำให้เขาสอดแทรกลิ้นร้อนชื้นเข้าไปภายในโพรงปากอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นหนาตวัดพัดโบกกับลิ้นนุ่มที่ตื่นกลัวทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากจูบนี้เป็นจูบแรกของชีวิตสาว สมองของเธอนั้นเริ่มมีกลุ่มหมอกควันสีขาวเข้ามาปกคลุม ความว่างเปล่ากำลังเข้ามาแทนที่ ไม่มีสตินึกคิด ความหวานนุ่มชวนหอมหวานที่เขาได้สัมผัส กระตุ้นความเป็นชายของเขาให้ตื่นจากการหลับใหล เสียงครางที่ดังทักท้วงในลำคอสาว เสมือนยากระตุ้นให้ความดันโลหิตของเขาเสียดทานกับความต้องการทางเพศ ร้อนรุ่มไปทั้งกาย มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบางไปมา ก่อนจะวกมากอบกุมทรวงอกขนาดพอเหมาะกับฝ่ามือของเขา ไม่ใหญ่มากเกินไปจนล้นมือและไม่เล็กจนเสียอารมณ์

นิยายรักโรแมนติกผู้ชายอบอุ่นคนต่ำต้อยรักแรกพบพระชายารักหวานๆโรแมนติกเศรษฐีพระเอกเก่งสัญญาทางรัก

1

ความสุขไม่จำกัดว่า บ้านที่อยู่อาศัยจะหลังเล็กหรือหลังใหญ่ บางบ้านหลังใหญ่โต ทว่าหาความสุขไม่ได้ ต่างคนต่างอยู่ วันหนึ่งแทบไม่เจอหน้ากันก็มี ต่างกับบ้านหลังนี้ พื้นที่ไม่ถึงสี่สิบตารางวา บ้านกลางเก่ากลางใหม่ แต่ความรัก ความอบอุ่น กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต

เจ้าของบ้านมีนามว่าบุญพา ชายวัยหกสิบสามปีและเป็นหัวหน้าครอบครัว มีภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากนามว่าจามจุรี ทั้งสองมีลูกชายเพียงคนเดียวคือป้องปราบ ผู้ยึดอาชีพเจ้าหน้าที่การเงินของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และสมาชิกคนสุดท้ายของครอบครัวนี้คือ สร้อยระย้า เด็กกำพร้าที่ถูกบุพการีนำไปขัดดอกไว้ ในบ่อนการพนัน ตอนนั้นสร้อยระย้ามีอายุเพียงสิบปีเท่านั้น

“พ่อจ๋า แม่จ๋า วันนี้เงินเดือนกระรอกออก กระรอกเอามาให้พ่อกับแม่ค่ะ”

สร้อยระย้ายื่นเงินสดแปดพันห้าร้อยบาทให้กับผู้มีพระคุณทั้งสอง เงินจำนวนนี้เป็นเงินเดือนๆ แรกในชีวิตของสาวน้อย ตั้งแต่บุญพานำเงินที่เก็บสะสมไว้ ไปไถ่ตัวหญิงสาวออกมาจากบ้านเฮียกวง สองสามีภรรยาส่งเสียเธอเรียนหนังสือจนจบชั้นปริญญาตรี ให้ที่อยู่ที่กินและรักเธอเหมือนกับลูกสาวคนหนึ่ง มีทางใดที่จะตอบแทนบุญคุณทั้งสองคนได้ สร้อยระย้ายินดีทุกอย่าง

“เอามาให้พ่อกับแม่หมด แล้วกระรอกจะเอาอะไรใช้ล่ะลูก” จามจุรีเอ่ยถามลูกบุญธรรมด้วยรอยยิ้ม มองจำนวนเงินที่อยู่ในมือด้วยความตื้นตันใจ

“กระรอกเก็บไว้สามพันห้า เอาไว้เป็นค่ารถค่ากินตอนไปทำงาน ที่เหลือกระรอกให้พ่อกับแม่หมดเลยค่ะ”

“แค่นั้นจะพออะไรลูก เอาไปอีกสิ กระรอกทำงานเหนื่อยมาทั้งเดือน จะใช้เงินแค่สามพันห้าเองเหรอ” บุญพาแย้งโต้อีกคนหนึ่ง

“กระรอกก็ไม่ได้ใช้อะไรนี่คะ ช้าวเช้าแม่ก็หาให้ ตอนเย็นกลับมาก็มีข้าวกิน พ่อกับแม่เก็บเอาไว้เถอะจ้ะ กระรอกตั้งใจว่าจะให้พ่อกับแม่ทุกเดือน ตอบแทนบุญคุณพ่อไถ่ตัวกระรอกออกมาจากที่แบบนั้น”

“พ่อกับแม่ไม่เคยคิดว่าการที่ไถ่ตัวกระรอกมาจากเฮียกวง มันจะเป็นบุญคุณอะไรมากมาย แค่อยากให้กระรอกมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ไม่ต้องถูกเสี่ยเบิ้มเอาตัวกระรอกไปขายที่ชายแดนเท่านั้นเองลูก”

วันที่เขาตัดสินใจนำเงินเจ็ดเหมื่นบาทไปไถ่ตัวสร้อยระยะออกมานั้น เขาได้ยินเสี่ยเบิ้มพูดกับลูกน้องว่าจะนำตัวหญิงสาวที่ตอนนั้นมีอายุเพียงสิบสี่ปีไปขายที่ชายแดน บุญพาเห็นสร้อยระยะมานานหลายปี เธอเป็นเด็กดีมากคนหนึ่ง แม้ว่าจะอยู่กับเฮียกวงคอยรับใช้พวกนักเสี่ยงโชคแล้วแต่จะใช้สอย หากแต่สร้อยระย้าเกลียดการพนันจับใจ เพราะการพนันทำให้เธอต้องมาอยู่ที่นี่ อีกข้ออาจเป็นเพราะความสาวและความสวยที่โดดเด่น แม้วัยเพียงสิบสี่ปี ทำให้เสี่ยเบิ้มคิดจะนำตัวหญิงสาวไปขาย บุญพาจึงนำเรื่องนี้มาปรึกษาภรรยา และลงความเห็นว่าการที่ได้ช่วยเหลือเด็กคนหนึ่ง ให้รอดพ้นจากคาวราคี นับว่าเป็นบุญกุศลอย่างหนึ่ง

“แต่สำหรับกระรอกมันคือบุญคุณที่ชาตินี้ทั้งชาติ กระรอกกฌไม่มีวันใช้หมด ขนาดพ่อกับแม่ที่แท้จริงของกระรอก ยังไม่สนใจนำเงินมาไถ่ตัวกระรอกเลย ต่างกับพ่อที่เป็นแค่นักเสี่ยงโชคหนึ่ง แต่กลับมีความเมตตาและความเอ็นดูกับกระรอกอย่างมากมายมหาศาล เปิดประตูให้กระรอกได้พบกับชีวิตใหม่ ชีวิตใหม่ที่กระรอกเองก็ไม่รู้ว่า ถ้าไม่มีพ่อกับแม่ กระรอกจะมีวันนี้หรือเปล่า พ่อกับแม่รับเงินไว้เถอะค่ะ” หญิงสาวยิ้มละไมเมื่อพูดประโยคกลั่นออกมาจากความรู้สึกตนเอง

“ถ้ากระรอกต้องการแบบนั้น แม่ก็จะเก็บไว้ให้ แต่ถ้ากระรอกอาจจะเอาไปซื้ออะไร ก็มาเอาที่แม่นะลูก”

เมื่อก่อนนางเคยคิดว่าเอาลูกเขามาเลี้ยงเอาเมี่ยงเขามาอม เป็นสิ่งที่ไม่สมควร เพราะน้อยคนนักที่เด็กในอุปการะจะมีความกตัญญูกับเราอย่างแท้จริง สร้อยระย้าทำให้ความคิดนั้นของนางเปลี่ยนไป เด็กคนนี้เป็นคนดี ช่วยเหลืองานบ้านทุกอย่าง โดยไม่ต้องสั่งและรู้หน้าที่ของตน อยู่อย่างเจียมตนว่าเป็นแค่คนอาศัย ไม่แปลกที่สามี ตัวนางรวมถึงลูกชายจะรัดและเอ็นดูสร้อยระย้าเหมือนสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวที่เกิดจากสายเลือดเดียวกัน

“ไปอาบน้ำเถอะลูกจะได้มากินข้าวกัน ใกล้เวลาป้องกลับบ้านแล้ว”

“ค่ะพ่อ” การกินอาหารเย็นเป็นกิจวัตรประจำวันที่ปฏิบัติกันมาทุกวัน ของคนในบ้านหลังนี้ ป้องปราบจะกลับมาบ้านหกโมงเย็นของทุกวัน เนื่องจากที่ทำงานอยู่ห่างจากบ้านไม่ถึงสามร้อยเมตร ป้องปราบใช้การเดินทั้งไปและกลับ สะดวกและไม่ต้องเสียเวลาติดอยู่บนรถประจำทาง อีกทั้งประหยัด ค่าใช้จ่ายไปในตัวด้วย

“พ่อแม่จ๋า คืนนี้กระรอกจะไปที่ผับนะคะ พี่โรสบอกว่าคนงานในครัวลางานสามวัน ให้กระรอกไปทำแทนค่ะ”

พี่โรสคือเพื่อนบ้านที่อยู่ถัดไปจากบ้านของบุญพาสี่หลัง ยึดอาชีพผู้จัดการผับชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองไทย ส่วนมากจะเป็นลูกผู้ดีมีเงิน เศรษฐีใหม่และเก่า นักธุรกิจผู้มีชื่อเสียงไปใช้บริการแทบทั้งสิ้น มนุษย์เงินเดือนอย่างเช่นป้องปราบไม่มีสิทธิ์เข้าไปเหยียบย่ำ เนื่องจากบุคคลที่เข้าไปใช้บริการ จะต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น ค่าสมาชิกไม่ต้องพูดถึง มากกว่าเงินเดือนของเขาทั้งปีเสียอีก

“พ่อไม่อยากให้กระรอกทำงานที่ผับ เราก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร อีกอย่างสถานที่แบบนั้นมันไม่เหมาะกับลูกเลยนะกระรอก” บุญพากล่าวเตือนลูกสาวด้วยความหวังดี ไม่ได้คิดดูถูกสถานที่ หรือดูถูกคนที่ทำงานในผับนั้นเลย แต่ที่ว่าไม่เหมาะในความหมายของเขา สร้อยระย้ายังเด็กเกินไปที่จะทำงานในสถานบันเทิงแห่งนั้น เขาเป็นห่วงกลัวว่าลูกสาวบุญธรรมจะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของพวกเฒ่าหัวงู หรือไม่ก็พวกเจ้าชู้ไก่แจ้

“กระรอกทำอยู่แต่ในครัว ไม่ออกมาด้านนอกไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ อีกอย่างพี่โรสดูแลกระรอกเป็นอย่างดี ไม่ให้ใครมาวุ่นวายกับกระรอกเลยค่ะ” สร้อยระย้าบอกให้คนเป็นพ่อสบายใจ

“ให้กระรอกไปทำเถอะครับ เดี๋ยวผมไปรับเองที่เก่าเวลาเดิม” ป้องปราบพูดอย่างรู้งาน

“ไม่ต้องก็ได้พี่ป้อง กระรอกกลับกับพี่โรสดีกว่า พรุ่งนี้พี่ป้องต้องไปทำงานแต่เช้า"

“ไม่เป็นไรหรอก กระรอกเองก็ต้องไปทำงานแต่เช้าเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ถือว่าเจ๊ากันนะ"

“ให้พี่ไปรับเถอะลูก ไม่งั้นพ่อกับแม่ไม่ให้ไปนะ”

“ค่ะแม่” หญิงสาวรับคำ เงินที่มาจากการไปทำงานที่ผับ หญิงสาวจะเก็บหอมรอมริบรวบรวมไป ซื้อมอเตอร์ไซค์คันใหม่ให้กับบุญพา แทนคันเก่าที่นำไปขาย เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าเล่าเรียนให้กับเธอ