ตอนที่ 4
ปัตตาเวียค่อยๆ ลดความคาดหวังกับงานที่อยากทำ เมื่อฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าวุฒิการศึกษาแค่จบชั้นมัธยมปลายอย่างเธอ... สุดท้ายคงหนีไม่พ้นเป็นสาวโรงงาน
กระทั่งเธอบังเอิญผ่านมาเห็นป้ายประกาศรับสมัครคนงานติดเอาไว้ที่ด้านหน้าโรงงานสับปะรดแห่งหนึ่ง เธอจึงเข้ามาสมัครงานในวันรุ่งขึ้น
โรงงานสับปะรดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ในอำเภอปรารณบุรีของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีพนักงานทำงานอยู่ร่วมพันคน แปรรูปสับปะรดส่งออกขายเมืองนอกเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ
เมื่อเข้ามาในโรงงาน
ภายในห้องกว้างซึ่งมีลักษณะกึ่งห้องประชุมขนาดใหญ่ บรรดาผู้สมัครงานต่างก็พากันนั่งรอหน้าสลอน ในระหว่างรอให้ถึงคิวสัมภาษณ์
ตรงกลางห้องมีโต๊ะและเก้าอี้สีขาว เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลกำลังทำการสัมภาษณ์ผู้สมัครกันอย่างขะมักเขม้น ปัตตาเวียพลิกหลังมือขึ้นมองนาฬิกา ตอนนั้นเป็นเวลาใกล้เที่ยงแล้ว กว่าจะถึงคิวของเธอยังต้องรออีกหลายคน
ปัตตาเวียรู้สึกตื่นเต้น เหงื่อชื้นอยู่ในมือ ครั้นเมื่อได้จังหวะตอนที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลผู้ทำการสัมภาษณ์เดินออกไปทำธุระนอกห้อง เธอฉวยจังหวะเดินออกมาเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องประชุม
เสร็จจากส่องกระจกสำรวจใบหน้าจนสวยพร้อม ปัตตาเวียรีบก้าวออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทางรีบร้อน ด้วยรู้ว่าคิวสัมภาษณ์ของเธอกำลังใกล้เข้ามาแล้ว
ทว่าในตอนที่หญิงสาวรีบร้อนก้าวยาวๆ ออกมาจากห้องน้ำจนไม่ทันได้ระมัดระวังว่าจะมีใครเดินสวนมาตรงมุมทางเดิน จู่ๆ ก็เหิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อร่างบอบบางของเธอปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่ของชายคนหนึ่งเข้าอย่างจัง
“ว้าย... ”
หญิงสาวอุทาน ร่างอรชรถลาเข้าสู่อ้อมแขนกำยำของชายร่างสูงใหญ่เกินกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร
ปัตตาเวียเป็นฝ่ายชนเขาก่อนก็จริง หากคนถูกชนกลับไม่สะทกสะท้าน เขาแข็งแรงมากจนสามารถคว้าร่างของเธอเอาไว้ได้ทันท่วงที ก่อนที่จะเซถลาลงไปพับเพียบหมดสภาพอยู่กับพื้น
“ใจลอยหรือยังไงแม่สาวน้อย... เดินให้มันระวังหน่อยสิ ระวังจะหกล้มแข้งขาหัก”
กังวานเสียงของคนถูกชนฟังดูห้าวกระด้าง เขาไม่ได้ตำหนิตรงๆ หากน้ำเสียงเข้มก็ทำให้ปัตตาเวียรู้สึกว่าตัวเองโดนตำหนิ ซึ่งเธอก็ยอมรับว่าซุ่มซ่ามจริงๆ
“ขะ... ขอโทษค่ะ”
เธอถอนใบหน้าออกจากอกของเขาที่ต้องโผเข้าซบด้วยความไม่ตั้งใจ
ครั้นเมื่อทั้งสองเงยหน้าขึ้นสบตากันชัดๆ พลันนั้นเองหัวใจของปัตตาเวียก็กระตุกวูบ เมื่อพบว่าเขาเป็นหนุ่มใหญ่ใบหน้าหล่อเหลา ผู้ชายคนนี้มีเค้าโครงของหนุ่มลูกครึ่งชัดเจน ผิวเขาไม่ขาวแต่เป็นสีแทน จมูกโด่งเป็นสันสวย ผมสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ หนวดเคราดกครึ้มอยู่ที่สันกรามและคางสวย เขามีนัยน์ตาสีสนิมเหล็ก ประกายคมกริบสะกดหัวใจของเธอจนแทบจะหยุดเต้น
“เป็นพนักงานที่นี่หรือไง?”
เขามองหญิงสาวด้วยแววตาฉงน หัวคิ้วดกหนาชิดเข้าหากันด้วยความสงสัยว่าปัตตาเวียเป็นใครมาจากไหน? เธอมาทำอะไรที่โรงงานของเขา?
“ถามทำไมไม่ตอบ... หูหนวกหรือเปล่า ไม่ได้ยินที่ฉันถามหรือยังไงว่าเธอเป็นพนักงานที่นี่ใช่ไหม?”
เขาถามเสียงเข้ม สาเหตุที่อึ้งจนพูดอะไรไม่ออกก็เพราะว่าปัตตาเวียยังตกอยู่ในอาการตะลึงมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา
“ปะ... เปล่าค่ะ”
ปัตตาเวียส่ายหน้า ตอบอึกอักเมื่อตั้งสติได้ ตอนนั้นร่างสูงใหญ่ของเขายังกอดเธอแน่นเหมือนจะไม่ยอมปล่อย
“ปะ... ปล่อยได้หรือยังคะ”
หญิงสาวรีบบอกเพื่อให้หลุดพ้นออกมาจากอ้อมแขนแข็งแกร่งที่พันธนาการร่างบอบบางของเธอเอาไว้แน่น ทรวงอกอวบใหญ่ที่เบียดชิดอยู่กับลำตัวของเขา ทำให้หญิงสาวหัวใจเต้นแรงราวจะหลุดออกมาจากอก
“ไม่ใช่พนักงานที่นี่... แล้วเธอมาทำอะไร?”
เยาย่นหน้าผาก
“หนูมาสมัครงานค่ะ”
ปัตตาเวียตอบซื่อๆ ตอนนั้นเองคนตัวใหญ่จึงยอมคลายกอด เมื่อนึกขึ้นได้ว่าโรงงานสับปะรดของเขาเพิ่งประกาศรับสมัครพนักงานเพิ่ม หลังจากมีออเดอร์จากต่างประเทศสั่งเข้ามาหลายรายจนต้องเพิ่มกำลังการผลิตเป็นการด่วน
“อืม... เธอชื่ออะไร”
ร่างสูงใหญ่ถาม สายตาคมกริบแลสำรวจเรื่อนร่างรัดรึงของหญิงสาวอย่างให้ความสนใจ
ปัตตาเวียเป็นหญิงสาวที่มีทรวดทรงสะดุดตา ช่วงขาเรียวยาว สะโพกผายเป็นทรงสวยรับกับเอวคอดกิ่ว แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าของโรงงานสับปะรดถึงกับแอบกลืนน้ำลายก็คือทรวงอกอวบใหญ่ มันใหญ่เสียจนแนวกระดุมปริตึงคับติ้วราวจะโอบอุ้มหนั่นเนื้อนุ่มนิ่มเอาไว้ไม่ไหว
“ปัตตาเวียค่ะ... เอ่อ ขอโทษนะคะ หนูขอตัวก่อนค่ะ”
ปัตตาเวียรีบเดินออกมา ด้วยเป็นวังวลว่าจะเลยคิวสัมภาษณ์ของเธอ
คนถูกชนล้วงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากด สายตายังจับจ้องอยู่ที่เรือนร่างรัดรึงสะดุดตาของหญิงสาวที่กำลังก้าวกลับเข้าไปในห้องประชุมซึ่งใช้เป็นสถานที่สัมภาษณ์
“บังอร... ”
เขาเรียกชื่อพนักงานฝ่ายบุคคลที่อยู่ในห้อง กรอกเสียงสั่งไปทางโทรศัพท์
“คะบอส”
หัวหน้าฝ่ายบุคคลที่กำลังทำการสัมภาษณ์รีบรับสายของเขา
“ให้ผู้หญิงที่ชื่อปัตตาเวียเข้ามาสัมภาษณ์ในห้องทำงานผม... เดี๋ยวผมสัมภาษณ์เธอเอง”
“เอ่อ... ”
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลรู้สึกฉงนใจ คิดไม่ถึงว่าเจ้านายจะให้ความสนใจหญิงสาวคนนี้จนออกนอกหน้า แต่ความสวยของปัตตาเวียก็สะดุดตาเหลือเกิน