บทที่ 6
"ไปนอนก่อนนะเฮีย...บ้ายบายผู้ชายทุกคน"
สร้อยเพชรลุกขึ้นแล้วยกมือโบกให้กับวงเหล้า หล่อนหน้าแดงก่ำ เห็นได้ชัดเพราะเป็นคนขาวมาก ที่บอกว่าไม่ดื่ม ก็เดินเซ จนพี่ชายต้องตะโกนตามหลัง ว่าไหวไหม เรียกเสียงหัวเราะดังขึ้นเกรียว พวกหนุ่มๆ ดื่มต่อจนเกือบตีหนึ่ง เบียร์หมด คนบางคนหมดสภาพ ก็เดินเซแซดกลับบ้านพัก บางคนก็นอนตากยุงกันตรงนั้น บางคนแว้บไปข้างนอก เพราะเมาแล้ว...ต้องหาที่ระบายเนื่องจากยังโสด ไม่มีเมีย
วิชญ์เพียงแค่มึนๆ เพราะดื่มไปไม่กี่แก้ว ฟังคนนั้นคนนี้คุยกัน นั่งดูอะไรเล่นในโทรศัพท์ เขาหิ้วปีกทองแท่งที่ทำท่าจะนอนกลิ้งตรงนั้นขึ้น เพื่อนรักหัวเราะระรื่น แล้วตบอกกว้างแน่นๆ ของเขาดังปึกๆ
"อารายยย ไม่เมา ไม่ม้าววว"
"ไปนอนมึงน่ะ" วิชญ์ว่า
"กูเดินไม่ได้"
ทองแท่งโอด หมดจากลังของน้องสาว เขาก็ต่ออีกสองลังเพราะกำลังห้าวได้ที่ ตอนนี้เลยพากันเมาแทบกลิ้ง
"เป็นห่าอะไรเดินไม่ได้"
วิชญ์ถึงกับหลุดยิ้มกับคำพูดของเพื่อน ทองแท่งสั่นหน้าแล้วชี้ที่ขาตัวเอง
"ขากูมันพันกันอะ ไอ้วิชญ์ ขากูมันพันกัน มีตั้งแปดขา ขากูงอกกก มันงอกก"
"ขามึงไม่ได้งอก มึงเมา" วิชญ์สรุปให้
"ไม่ได้เมา ไม่ม้าวววววววว"
โบกไม้โบกมือ แล้วก็ครวญครางโวยวายว่าขางอกได้ วิชญ์สั่นหน้า เขาตกลงใจแบกเพื่อนรักขึ้นบ่า เพราะครั้นจะอุ้มคงเป็นภาพที่ไม่ดีไม่งามปะแล่มๆ เขาแบกคนน้ำหนักเกือบแปดสิบกิโลกรัมขึ้นบ่าได้หน้าตาเฉย ทั้งที่มึนนิดๆ เดินตัวปลิวเข้าไปในส่วนของตัวบ้าน พอจะจำได้ว่าเพื่อนรักอยู่ห้องไหน เพราะเคยมาเที่ยวบ้านของทองแท่งสองสามหน และอาศัยค้างด้วย บ้านของทองแท่งยังเหมือนเดิม เฟอร์นิเจอร์ข้าวของ วางตรงที่ของมันไม่มีการขยับ โยกย้าย จะมีก็เพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บางอย่างเปลี่ยนเป็นชิ้นใหม่ตามยุคสมัย
"กูไม่มาวว"
"เงียบๆ เดี๋ยวอาเจ๊กฮวด กับแม่มึงก็ตื่นหรอก"
"ไม่มาวววว"
"เอ่อ ไม่เมาก็ไม่เมา"
วิชญ์สั่นหัว ขณะที่ขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง บ้านของครอบครัวเพื่อนเป็นตึกแถวสูงห้าชั้น ด้านล่างเปิดเป็นออฟฟิศของอู่ ชั้นสองเป็นชั้นอเนกประสงค์ไว้รับแขก และเป็นพื้นที่พักผ่อนของครอบครัว ชั้นสามเป็นห้องของอาเจ๊กกับเมีย ชั้นสี่เป็นห้องของทองแท่งและสร้อยเพชร ชั้นห้า...ครอบครองโดยกำไลหยก มีชั้นดาดฟ้าสำหรับตากผ้า และมีสวนเล็กๆ ของกำไลหยกที่ตรงนั้น ที่ไม่มีคนรู้สักเท่าไหร่ ว่าหล่อนปลูกพืชสวนครัวไว้บ้างและที่ตรงนั้นมีสิ่งที่กำไลหยกแสนจะภูมิใจและมีความสุขกับมันคือกระบองเพชรที่ปลูกไว้เต็มชั้น และไม้ดอกหล่อนชอบมากๆ อย่างกุหลาบหลากสีหลายพันธุ์ นอกจากเด็กนิดที่ช่วยทำงานบ้านอยู่
"มึงอย่าดิ้นมาก เดี๋ยวพากันตกบันได"
เขาว่าเพื่อนสนิทยังคงบ่นงึมงำ เขาพาเพื่อนขึ้นต่อไปยังชั้นสี่ ห้องของทองแท่งยังติดโปสเตอร์ทีมฟุตบอลทีมชาติ ที่มีลายเซ็นของนักบอลเซ็นไว้ นี่มันยังเก็บไว้อยู่หรือนั่น...วิชญ์มองแล้วยิ้มนิดๆ ก่อนจะผลักประตูเข้าไป และโยนเพื่อนลงบนเตียง เขาถึงกับหอบน้อยๆ ตัวของทองแท่งไม่ใช่เบาๆ
"ไม่มาวววว"
ทองแท่งยังคงโบกมือหย็อยๆ พร้อมกับหัวเราะคิกคัก วิชญ์ท้าวเอวและสั่นหน้า เขาถอนใจก่อนจะออกมาจากห้องหลังจากเปิดแอร์ให้เพื่อนแล้ว
"เฮ้ย!"
เขาสะดุ้งเมื่อแทบจะชนเข้ากับร่างของใครบางคนที่มายืนตรงด้านหลังเขาเมื่อเขาปิดประตูห้องให้กับทองแท่ง สร้อยเพชรนั่นเอง หล่อนยืนกอดอก อยู่ในชุดนอนสีขาว มันบาง...บางเกินไป
วิชญ์เมินหน้าหนีหล่อน แล้วเอ่ยเสียงทุ้ม พยายามไม่มองอะไรที่ต่ำไปกว่าศีรษะของหล่อน
"ยังไม่นอนหรือน้องเพชร"
"พอดีเสียงเฮียดัง เพชรเลยตื่น"
เธอว่า มองเขาตาวาว จริงๆ แล้วเธอไม่ได้เมา เธอแค่แกล้งเมาแล้วขึ้นมาอาบน้ำพรมน้ำหอม ตั้งใจจะ 'ย่อง' ไปที่บ้านพักช่างคืนนี้...
แต่ดูเหมือนลูกกวางน้อยของเธอจะมาถึงที่เสียแล้ว
ปล่อยไปได้ยังไง
"ขอโทษครับที่เสียงดัง เอ่อ...พี่ขอตัวไปนอนก่อนนะ"
เขาบอก แต่สร้อยเพชรไม่ถอย เธอโถมกอดเขาเอาดื้อๆ วิชญ์ตกใจจนตัวแข็ง
"นอนที่ไหน? นอนห้องเพชรไหม"
หล่อนเอ่ยลากเสียงอย่างยั่วยวน มือของหล่อนลูบไล้อกกว้างของเขา กระดุมเสื้อชุดช่างของวิชญ์ติดกระดุมเพียงสามเม็ดเพราะเขาร้อน เปิดโอกาสให้มือนิ่มๆ นั่นสอดเข้าไป เขาจับมือของหล่อนไว้ ก่อนที่มันจะทันลวนลามอะไรมากไปกว่านั้น ตาจ้องหล่อนเขม็ง แล้วเอ่ยเสียงดุๆ
"ไม่ดีนะครับน้องเพชร"
"ดีสิ ไม่มีใครเห็นหรอกน่า กลัวเฮีย กลัวป๊าเหรอ"
เธอว่าแล้วทำตาหวานเยิ้ม แลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างจะยั่วเขา ปรกติแล้วไม่เคยมีใครใจแข็งกับหล่อนได้ แม้แต่คนเดียว
"ไม่ และหยุดเดี๋ยวนี้ พี่ไม่ได้มีอารมณ์เซ็กซ์กับเพชร แต่จะมีอารมณ์อย่างอื่นแทน"
เขาสั่นหน้า เอ่ยเสียงดุ เบา ก่อนจะขึงตาดุๆ ใส่หล่อน สร้อยเพชรตกใจเล็กน้อยกับน้ำเสียงนั้น แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะทันอ้าปากโต้ตอบอะไรกัน ร่างเล็กก็เดินลงมาจากบันไดชั้นห้า ทำให้ทั้งเขาและเธอผละออกจากกัน วิชญ์เดินก้าวลงบันไดทีละสองสามขั้นด้วยซ้ำ เกือบจะตกเพราะความเร่งรีบที่จะหนี...
อันตรายเหลือเกินวุ้ย น้องสาวไอ้ตี๋นี่ คิดจะงาบกันเอาดื้อๆ อย่างนี้ก็ได้หรือ
"ลงมาทำไม"
สร้อยเพชรหันมาแหวน้อง นึกภาวนาให้นังน้องซื่อบื้อนี่ไม่เห็นว่าหล่อนกำลังทำอะไร กำไลหยกกะพริบตาปริบๆ แล้วชูขวดน้ำในมือให้พี่สาวดู
"หยกมาหาน้ำกิน"
"เห็นอะไรมะ"
หล่อนถาม กำไลหยกเห็นว่าช่างคนใหม่กับพี่สาวอยู่ใกล้ชิดกันมากขนาดไหน เขาขึ้นมาถึงข้างบนแบบนี้...ถ้าพ่อกับแม่รู้เข้า
"มะ ไม่เห็น"
จำต้องตอบแบบนั้น แล้วคงจะต้องรูดซิปปากให้สนิท ไม่อย่างนั้นก็โดนสร้อยเพชรอาละวาดเอาแน่ๆ
"ดี"
พี่สาวกอดอก ทำหน้าเชิดเดินเข้าห้องของตัวเองไป กำไลหยกถอนใจน้อยๆ เธอเดินไปที่ตู้เย็นที่ตั้งอยู่ระหว่างห้องของพี่ๆ จัดมุมไว้เป็นมุมเผื่อใช้รับประทานอาหารและนั่งเล่น
เธอรินน้ำใส่แก้ว มองไปยังห้องของสร้อยเพชรที่ปิดเงียบ ก่อนจะถอนใจ...แล้วเดินกลับขึ้นไปยังห้องของตนเอง เรื่องบางเรื่อง กำไลหยกก็รู้ดีว่าควรจะทำตัวอย่างไร