ตอนที่ 1 หลี่ฮั่ว
ตอนที่ 1 หลี่ฮั่ว
จวนสกุลหลี่มีงานมงคลเกิดขึ้น เมื่อแม่ทัพหนุ่มนามว่าหลี่ฮั่ว มีงานมงคลสมรสกับบุตรีของเถ้าแก่ฟาง เพราะแม่ทัพหลี่ถูกเถ้าแก่ฟางใช้กลอุบายให้ลงนามในสัญญาว่าจะแต่งงานกับบุตรสาวของเขา
ยามนี้จึงมีเพียงแค่...ห้องหอซึ่งประดับประดาด้วยผ้าแดง บนโต๊ะมีอาหารและสุรา เพื่อให้คู่บ่าวสาวได้ร่วมฉลอง ภายในห้องจึงมีเพียงฟางเจียวเหมยนั่งรอคอยชายหนุ่มจนปวดเมื่อย แต่ทำไมกันเจ้าบ่าวไม่มาเสียที ผ่านมาแล้วเกือบสองชั่วยามก็ยังไร้วี่แวว
เสี่ยวเถาเป็นสาวใช้ของเจ้าสาวผู้งดงามก็นั่งหลับสัปหงกมาหลายครั้งหลายหน เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็ยังไม่พบแม่ทัพหลี่ นางยังมองเจ้าสาว ซึ่งนั่งตัวตรงอยู่บนเตียงอยู่นาน จึงเอ่ยสอบถามขึ้นว่า “คุณหนูเจ้าคะ ท่านแม่ทัพมิใช่ว่า”
ดั่งที่คาดเอาไว้ไม่มีผิด แม่ทัพหลี่หาได้มายังห้องแห่งนี้ไม่ สาวใช้นามว่าเสี่ยวเถากำลังค่อย ๆ หยัดกายจะลุกขึ้น ทว่านั่งนานไปหน่อยและแอบงีบหลับไปจึงทำให้เท้าทั้งสองข้าชาไปเสียแล้ว
ฟางเจียวเหมยปิดเปลือกตาแต่ก็ได้หลับ ภายในใจยังครุ่นคิดอยู่มากมาย ว่าเหตุใดชายผู้ที่ขึ้นชื่อว่าจะเป็นสามีของนาง มิย่างเท้ามาเสียที นั่งรอจนแล้วจนเล่า ปวดเมื่อยไปหมดหลี่ฮั่วก็ไม่โผล่เข้ามาเสียที
อีกทั้งยังได้ยินเสียงสวบสาบใกล้ ๆ จึงเดาว่าน่าจะเป็นสาวใช้ของนางกระมัง จึงเอ่ยเสียงแผ่วเบาขึ้นมาว่า “เสี่ยวเถาผ่านมากี่ชั่วยามแล้ว”
“เสี่ยวเถาไม่ทราบเจ้าค่ะคุณหนู แต่...ท่านแม่ทัพเหตุใดจึงไม่มากันเล่า ข้างนอกก็หาได้ยินเสียงแล้ว มิใช่ว่า” เสี่ยวเถารู้ความเป็นอย่างดี เงยหน้ามองคุณหนูด้วยสายตาสงสารและเศร้าใจนัก วันแรกของการแต่งงานทำให้ได้รับความอับอายแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะมีหน้าอยู่ในจวนสกุลหลี่ได้อย่างไรกัน บ่าวรับใช้คงไม่เคารพนบนอบฮูหยินที่ถูกหมางเมินมิสนใจ ซ้ำยังอาจถูกนินทาว่าร้ายลับหลัง เหตุใดนายสาวของนาง จึงมีชะตาเช่นนี้กันเล่า ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
“เจ้าง่วงแล้วก็ไปนอนเถิด อีกเดี๋ยวท่านพี่ก็คงจะมา เสี่ยวเถาไม่ต้องอยู่รับใช้ข้า” หญิงสาวเอ่ยปากหว่านล้อม เพราะรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง แม้ภายนอกแม่ทัพหลี่อาจดูเย็นชาไปบ้าง
ทว่าเขากลับเป็นคนมีน้ำใจยิ่งนัก นางชื่นชอบเขามาตั้งนาน อีกทั้งเขายังรูปงามมากนักทั้งยังเป็นที่หมายปองของบรรดาสตรีมากมาย
ฟางเจียวเหมยโชคดีนัก ได้แต่งงานกับชายที่หลงรักปักใจ หวังว่าเขาจะมาเปิดผ้าคลุมหน้า และเข้าหอตามธรรมเนียมประเพณี เรื่องอื่นนอกเหนือจากนี้ ก็ให้เป็นไปตามความต้องการของเขาแล้ว
หญิงสาวซ่อนความคิดเอาไว้มากมายภายใต้ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว ซึ่งนางลงมือเป็นคนปักด้วยตนเอง ลวดลายของผ้าคลุมหน้าจึงงดงามและพิถีพิถันยิ่ง
ซ้ำยังปักผ้าเช็ดหน้า และถุงหอมเพื่อมอบให้หลี่ฮั่วตั้งมากมาย แม้เขาจะไม่ขาดแคลน แต่นางก็เต็มใจมอบให้ หาทำให้นางลำบากแต่อย่างใด กลับมีความสุขมากนักที่ได้ลงมือทำให้เขา
“แต่ว่าคุณหนูเจ้าคะ นี่ก็นานมากแล้ว ให้ข้าไปตามท่านแม่ทัพดีหรือไม่เจ้าคะ” เสี่ยวเถารู้สึกไม่ชอบมาพากลมาครู่ใหญ่แล้วแต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววเจ้าบ่าว ด้านนอกก็เงียบกริบราวกับว่าไม่ได้มีคนเดินเพ่นพ่านอยู่ในจวน จึงพานทำให้สาวใช้ผู้นี้คิดมาก ว่าอาจถูกแม่ทัพหลี่หยามศักดิ์ศรีเข้าให้เสียแล้ว
ทางด้านแม่ทัพหลี่ร่ำสุรากับสหาย จากนั้นจึงเดินกลับมายังเรือนนอนของตนเอง แม้จะถูกพ่อบ้านจางตักเตือน แต่ชายหนุ่มก็หาได้สนใจไม่ ทำให้พ่อบ้านจางส่ายหน้าอย่างละอายใจ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
หลี่ฮั่วผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เตรียมตัวจะเข้านอนแล้ว เขาไม่มีความคิดอยากพบหน้าเจ้าสาวของตนเอง ด้วยเพราะเขามิได้มีใจให้แก่นางตั้งแต่ต้นก็เพราะถูกบีบบังคับ จึงจำใจแต่งงานกับนาง นอกเหนือจากพิธีคำนับฟ้าดิน และพิธีการต่าง ๆ แล้วเขาก็เลือกที่จะเมินเฉยต่อฟางเจียวเหมย
พ่อบ้านจางยังยืนอยู่หน้าประตู ชายชราเคาะประตูหลายครั้ง แล้วก็ถอนหายใจให้กับความดื้อรั้นของแม่ทัพหลี่ฮั่ว “คุณชายใหญ่ ลืมไปแล้วหรือว่าวันนี้เป็นวันอะไร เหตุใดจึงเข้ามานอนห้องนี้”
ชายชราเอ่ยขึ้นอีกครั้งเพื่อแจ้งแก่เจ้านายหนุ่มแน่น คาดไม่ถึงว่าไม่เพียงไม่โต้ตอบ แต่คล้ายว่าโยนอันใดมาเสียอย่างนั้น จึงเกิดเป็นเสียงดังโครมคราม
ชายแก่อายุมากตกใจนักหนา ถอยห่างจากประตูไปหลายก้าว แล้วยังไม่ละความพยายาม เอ่ยขึ้นอีกครั้งหวังให้เจ้านายจะทำตามพิธีจนจบสิ้น “คุณชาย วันนี้เป็นวันมงคลของท่าน เหตุใดจึงปล่อยให้เจ้าสาวคอยท่าอยู่เช่นนั้นขอรับ หากตระกูลฟางทราบเรื่องนี้จะทำเช่นไร”
พลันชายหนุ่มเอ่ยเสียงดังเกรี้ยวกราดขึ้นว่า “ตระกูลฟางจอมเจ้าเล่ห์ ใช้แผนร้ายกับข้าก่อน เหตุใดข้าต้องทำตามที่ตาแก่แซ่ฟางต้องการ หากนางอยากอยู่ในจวนนี้ ข้าก็หาได้ขัดขวาง นางย่อมต้องรู้ว่าอันใดควรไม่ควร”
ชายหนุ่มแค้นเคืองไม่หาย หากครานั้นกองทัพของเขาไม่ขาดแคลนเสบียงอาหาร มีหรือที่ฟางเจียวเหมยจะแต่งเข้าจวนเขาได้ เพราะเถ้าแก่ฟางเจ้าเล่ห์ ให้เขาลงนามในหนังสือสัญญา หากไม่ลงนาม ทหารของเขาก็ต้องทนต่อความหิวโหย
“เรื่องนั้นมันก็ผ่านมานานแล้ว เหตุใดคุณชายใหญ่ยังเก็บมาใส่ใจอยู่อีกขอรับ” พ่อบ้านจางหนักใจนักหนา หากเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ เหมือนกาลก่อน จะหวดก้นเสียให้เข็ด เหตุใดไม่รู้จักแยกแยะเสียบ้าง ทำร้ายน้ำใจเถ้าแก่ฟางยังไม่พอ ยังหักหน้าคุณหนูฟางซึ่งนั่งอยู่ในห้องหอนานแล้ว
“ผ่านมานานเท่าไร เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น ปีเดียวที่ข้าต้องแต่งนางเข้ามา” ชายหนุ่มฟึดฟัดหงุดหงิดใจยิ่งนัก แม้แต่มารดาก็ยังเห็นดีเห็นงามไปด้วย กระทั่งบิดายังออกปากชื่นชม สตรีเจ้าเล่ห์เช่นนั้นจะมีอันดีนอกจากใช้เล่ห์เหลี่ยมมารยา
พ่อบ้านจางยังคงไม่ยอมแพ้ ทรุดกายนั่งลงบนพื้น รำพึงรำพันขึ้นอีกประโยค “คุณหนูฟางหาใช่สตรีร้ายกาจ เรียบร้อยอ่อนหวาน น่ารักออกปานนั้น เหตุใดคุณชายจึงไม่เปิดใจบ้าง”
“ข้าร่วมพิธีกับนางก็ถือว่าเมตตามากแล้ว หากให้ข้าทำมากกว่านี้...ให้ข้าตัดหัวของนางยังดีเสียกว่า” ชายหนุ่มยังคงเอ่ยวาจาร้ายกาจ ไม่ยินยอมอ่อนข้อให้แม้แต่น้อยนิด สุ้มเสียงของหลี่ฮั่วนั้นดังกึกก้องหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำ
จึงทำให้เสี่ยวเถาได้ยินเต็มสองรูหู เพราะนางมาตามท่านแม่ทัพหลี่ ให้ไปเข้าหอกับนายสาว คาดไม่ถึงเลยว่า จิตใจของแม่ทัพหลี่จะหยาบช้าเลวทรามถึงเพียงนี้ หยามศักดิ์ศรีนายสาวของนางยังไม่พอ ในวันมงคลเช่นนี้ยังเอ่ยเรื่องไม่เป็นมงคลอีก
พ่อบ้านจางเห็นเสี่ยวเถาเข้า จึงรีบร้อนลุกพรวด แล้วขอโทษขอโพยสาวใช้อายุน้อยกว่าเสียยกใหญ่ หลี่ฮั่วได้ยินเข้าก็ไม่พอใจ เขาเดินมาเปิดประตูด้วยใบหน้าอันแสนบึ้งตึง สายตาดุดันมีแต่ไอสังหารพวยพุ่ง ส่งเสียงเกรี้ยวกราดขึ้นมาอีกครั้ง
“หากนางไม่พอใจก็เชิญกลับบ้านไปได้ ข้ามิได้ปรารถนาตั้งแต่แรก อ้อ...อีกอย่างนะ ฝากไปบอกเถ้าแก่ฟางด้วยหนี้น้ำใจ ข้าไม่ได้ติดค้างเขาแล้ว ข้าทำตามสัญญาว่าแต่งนางเข้ามาแล้ว และนี่...ข้าก็รับนางมาเป็นฮูหยินเอก แล้วจะเอาอะไรอีก จะอยู่หรือไป ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับข้า!”
“ท่านแม่ทัพไร้น้ำใจเกินไปหรือไม่ มิเป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย เหยียบย่ำตระกูลฟางมากเกินไปแล้วนะเจ้าคะ” เสี่ยวเถาโต้เถียงย้อนคำ เพราะมิชอบใจนัก คุณหนูของนางหาใช่ใครที่ไหนจะมาหยามหมิ่นเกียรตินี้ได้
น้ำเสียงแม่ทัพหลี่แข็งกร้าวและดุดันอย่างไม่เคยมีมาก่อน แววตาดุร้ายยิ่งนัก มองมายังเสี่ยวเถาราวกับว่าจะฉีกร่างสาวใช้ออกเป็นเสี่ยง ๆ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ว่าข้า...ทำได้มากกว่านี้ ไม่เชื่อพวกเจ้าก็คอยดู”