บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

@ปางไม้วิโรจน์อัครโชติ

รถสปอร์ตหรูเคลื่อนตัวมาจอดลงยังปางไม้ในช่วงเช้าของอีกวันหลังจากวิ่งยาวนานกว่าเก้าชั่วโมง ภาคินหันมองร่างบางข้างๆ ที่นอนหลับอยู่ด้วยแววตายากเกินคาดเดาได้ก่อนหยิบขวดน้ำขึ้นมาเปิดฝาแล้วราดลงบนศีรษะเล็กทุยทำเอาคนที่หลับอยู่สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจเมื่อน้ำเย็นๆ สัมผัสลงบนศีรษะไหลลงอาบใบหน้าและเสื้อของเธอจนเปียก

"คุณทำบ้าอะไรฉันเปียกหมดแล้ว" เอวาใช้มือลูบน้ำที่เกราะบนใบหน้าออกแล้วหันไปต่อว่าเจ้าของการกระทำด้วยความไม่พอใจเธอก็แค่เผลอหลับไปแต่เขาก็ไม่จำเป็นปลุกเธอด้วยวิธีแบบนี้ ทว่าคิ้วสวยก็ต้องขมวดชนกันเป็นปมด้วยความสงสัยเมื่อมองผ่านกระจกรถเห็นว่ารอบๆ บริเวณโอบล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่และป่าเขียวชะอุ่ม "คุณพาฉันมาที่ไหน"

"ยินดีต้อนรับสู่นรก" ร่างสูงพูดเพียงแค่นั้นไม่ได้ตอบคำถามของหญิงสาวก่อนเปิดประตูลงจากรถเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่เธอนั่งแล้วเอื้อมไปจับแขนเล็กดึงลงจากรถ

"ปล่อยฉัน ฉันไม่ไป" ร่างบางพยายามขืนตัวต่อต้านไม่ให้ตัวเองเดินตามแรงลากของชายหนุ่มพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวงคนที่อยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็กๆ แบบเธอไม่สามารถเดาได้เลยว่าที่นี่คือส่วนไหนของประเทศไทยและเขาจะทำอะไรกับเธอกันแน่ "บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่ไอวาถ้าคุณอยากแก้แค้นก็ไปแก้แค้นไอวาสิ ฉันไม่เกี่ยว"

ภาคินหยุดเดินอัตโนมัติหันกลับไปมองใบหน้าสวยคมอย่างเอาเรื่องเธอกล้าพูดออกมาได้ยังไงว่าตัวเองไม่ใช่ไอวาผู้หญิงแพศยาไม่ว่าจะมองมุมไหนเธอก็คือไอวา แหวนเพชรและสร้อยบนคอก็เป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าเธอคือไอวา มือหนายกขึ้นกระชากสร้อยบนคอระหงจนขาดวิ่นติดมือแล้วยื่นมันไปตรงหน้าเธอ ขณะที่สายตาจ้องมองแหวนเพชรบนนิ้วเขม็ง "แล้วนี่อะไรหากคุณไม่ใช่ไอวาแล้วสร้อยคอจี้เพชรรูปหัวใจกับแหวนเพชรบนนิ้วที่ผมซื้อให้ไปอยู่ที่คุณได้ยังไง"

"อะ..ไอวาให้ฉันมาฉะ..ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นของคุณ" เอวาส่ายหน้าปฏิเสธพัลวันรู้สึกสับสนงุนงงไปหมดคำถามมากมายผุดขึ้นในสมองหากสร้อยกับแหวนเป็นของเขาจริงๆ แล้วทำไมพี่สาวฝาแฝดถึงบอกว่าเป็นของขวัญที่ตั้งใจซื้อให้เธอ

สมองเริ่มประมวลเรื่องราวต่างๆ เมื่อหลายวันก่อนเธอได้เล่าเรื่องชายหนุ่มให้พี่สาวฟังและถามไถ่ถึงสาเหตุพี่สาวก็บอกว่าเธอขอเลิกกับเขาแล้วหนีไปอยู่อิตาลีกับพ่อแค่นั้นพอสองวันให้หลังพี่สาวก็เอาสร้อยกับแหวนมามอบให้ทั้งที่ไม่เคยมอบอะไรให้เธอเลยสักครั้งด้วยความดีใจที่ได้ของขวัญจากพี่สาวครั้งแรกเธอจึงรีบใส่มันทันที เธอเพิ่งเข้าใจในตอนนี้นี่เองว่าพี่สาวต้องการให้ชายหนุ่มคิดว่าเธอเป็นไอวาแล้วมาแก้แค้นเธอแทน

"ทำไมพี่ไอถึงทำกับเอวาแบบนี้" น้ำตาแห่งความผิดหวังเสียใจพรั่งพรูออกจากตาคู่สวยอย่างกลั้นไม่อยู่เธอรู้ว่าพี่สาวฝาแฝดไม่ได้รักและผูกพันกับเธอสักนิด แต่คิดไม่ถึงว่าพี่สาวที่คลานตามหลังกันมาจะกล้าส่งน้องสาวตัวเองลงนรกทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น

"เลิกแสดงละครสักทีไอวาก้มหน้ารับผลกรรมจากการกระทำของตัวเองไปเถอะ" เสียงสะอื้นไห้ของร่างบางทำภาคินรู้สึกรำคาญไม่น้อยเขาใช้ลิ้นด้นกระพุ้งแก้มอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนฉุดกระชากลากถูเธอให้เดินต่อน้ำตา และคำพูดของเธอไม่ได้ทำให้เขาใจอ่อนขึ้นมาสักนิดเธอแสร้งทำว่ารักเขามาได้ถึงสองปีแล้วเรื่องแค่นี้ทำไมเธอจะแสแสร้งแกล้งทำไม่ได้ความอคติ ความโกรธแค้นบดบังสมองและจิตใจของเขาจนแยกแยะไม่ออก ปิดหูปิดตาเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ไร้เหตุ

"บอกว่าฉันไม่ใช่ไอวาไง ปล่อยฉัน!" เสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มทั้งน้ำตาขณะพยายามขัดขืนสุดฤทธิ์ ทว่าแรงผู้หญิงบอบบางหรือจะต้านทานกำลังผู้ชายตัวโตกว่าได้สุดท้ายตัวเธอก็ลอยละลิ่วไปตามแรงกระชาก "คุณจะพาฉันไปไหน"

"...." ภาคินลากร่างบางมาจนถึงกระท่อมหลังคามุงจากกันด้วยฝาสานไม้ไผ่เก่าๆ หลังเล็กพออยู่ได้แค่สองที่ตั้งอยู่โดดๆ เพียงหลังเดียวท่ามกลางต้นไม่น้อยใหญ่ห่างออกไปมีลำธารเล็กๆ สำหรับไว้ตักน้ำใช้เพราะที่นี่ไม่มีทั้งน้ำปะปาและไฟฟ้า

"โอ๊ยย!" ร่างบางถูกภาคินเหวี่ยงเข้าไปในกระท่อมที่เต็มไปด้วยไรฝุ่น ใบไม้แห้งที่ปลิวเข้ามาทางหน้าต่างอย่างไร้ความอ่อนโยนจนร่างบางกระแทกกับพื้นดังตุบทำให้เธอเจ็บไม่น้อย ใบหน้าสวยเหยเกด้วยความเจ็บ

"ขอให้มีความสุขกับการอยู่ที่นี่นะคุณไอวา" ร่างบางหายเจ็บเป็นปลิดทิ้งเมื่อได้ยินประโยคจากปากร่างสูง ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ กระท่อมที่มีแค่เสื่อผุพังกับหมอนใบเก่าหนึ่งใบสภาพคนไม่น่าจะอยู่ได้ด้วยความหวาดกลัว

"มะ..ไม่คุณอย่าทำแบบนี้กับฉันเลย ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้" ใบหน้าสวยส่ายไปมาพัลวันน้ำตาที่เพิ่งแห้งไปเริ่มไหลออกมาอีกครั้งจะให้คนที่อยู่อย่างสุขสบายมาตั้งแต่เล็กจนโตแบบเธอมาอยู่ท่ามกลางป่าเขาไร้ผู้คน ไร้ไฟฟ้า ไร้สิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างได้ยังไงกันเธอเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียว

"หึ" ภาคินเค้นหัวเราะในลำคออย่างสมเพชกับท่าทางหวาดกลัวของคนตรงหน้าเขารู้สึกสะใจเป็นที่สุดเมื่อได้เห็นผู้หญิงอย่างไอวาตกอยู่สภาพแบบนี้แต่นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้นเธอยังต้องเจออะไรอีกเยอะ

"โชคดีนะไอวาหวังคุณจะผ่านพ้นคืนนี้ไปได้ อย่าตายซะก่อนละ" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเย้ยหยันก่อนหมุนตัวเดินออกจากกระท่อม เอวารีบหยัดกายลุกขึ้นวิ่งตามร่างสูงไปทันทีแต่ก็ช้าไปเสียแล้วเมื่อร่างสูงปิดประตูใส่หน้าเธอดังปังในจังหวะที่กำลังจะก้าวเท้าออกพ้นประตู

ปังๆ!

"คุณอย่าทิ้งฉันไว้ที่นี่" มือเรียวที่ถูกมัดไว้ด้วยเข็มขัดยกขึ้นทุบประตูไม้อย่างแรงพลางขอร้องคนด้านนอกด้วยน้ำเสียงสั่นแต่ก็ได้รับเพียงความเงียบตอบกลับ เธอทิ้งตัวลงนั่งชันเข่าพิงประตูอย่างสิ้นหวังเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนักดังออกห่างไปเรื่อยๆ จนเงียบไปในที่สุด

"ฮึก! ใครก็ได้มาช่วยฉันออกไปที" ดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ กระท่อมผ่านม่านน้ำตาเธอรู้สึกกลัวเหลือเกินแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งกอดเข่าร้องไห้อย่างน่าเวทนาโดยไม่รู้เลยว่ามีใครอีกคนยืนฟังเสียงสะอื้นของเธอด้วยความสะใจ

ภาคินทำเหมือนว่าเขาไปแล้วแต่ความเป็นจริงเขายังอยู่บริเวณกระท่อมเพื่อรอดูปฏิกิริยาของคนด้านใน มือหนาล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาต่อสายหาพีรวัฒน์ผู้จัดการของปางไม้ ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ

(สวัสดีครับคุณภาคิน)

"มาหาฉันที่กระท่อมริมลำธารหน่อย"

(ครับ) นิ้วเรียวกดวางสายทันทีหลังจากลูกน้องรับทราบแล้วเขายืนรอเพียงสิบนาทีลูกน้องก็มาถึง

"สวัสดีครับคุณภาคิน" พีรวัฒน์กล่าวทักทายผู้เป็นเจ้านายที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาด้วยความนบน้อมตามมารยาทพลางมองไปยังกระท่อมด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นดังแว่วมาเบาๆ ก่อนหันกลับมาถามผู้เป็นเจ้านาย "คุณภาคินเรียกผมมาที่กระท่อมร้างทำไมครับ"

"เฝ้าคนในกระท่อมให้ดีอย่าให้หนีไปได้"

"ครับ"

"เฝ้าอยู่ห่างๆ ไม่ต้องให้เธอรู้ว่ามีคนอยู่ด้วยให้เธอคิดว่าตัวเองถูกขังอยู่กลางป่าคนเดียว"

"ครับ" พีรวัฒน์รับคำสั่งเจ้านายอย่างงงๆ ถึงแม้ในใจจะรู้สึกสงสัยมากแค่ไหนแต่ก็ไม่กล้าถามออกไปเดี๋ยวจะโดนเจ้านายดุเอาได้

ภาคินเมื่อสั่งงานลูกน้องเรียบร้อยแล้วก็เดินออกไปขึ้นรถขับกลับบ้านพักที่อยู่ห่างจากกระท่อมประมาณ15 กิโลเมตรเพื่อพักผ่อนเพราะขับรถมาทั้งคืนทำให้รู้สึกล้า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel