บทที่ 3
ภาคินไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปเขารีบส่าวเท้าเดินตามร่างบางออกจากผับทันที ขณะที่อีกคนรีบก้าวเท้าเดินกึ่งวิ่งออกไปริมถนนเพื่อเรียกรถแท็กซี่
"พี่ไอนะพี่ไอทำให้เอวาซวยอีกแล้ว" ใบหน้าคมเอี่ยวไปมองร่างสูงที่ตามหลังเธอมาเป็นระยะๆ ใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นไม่เป็นส่ำๆ เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มใกล้เข้ามาทุกที ก่อนรีบสับเท้าวิ่งด้วยความตื่นตระหนกในใจก็นึกโมโหแฝดพี่ไม่น้อยที่พลอยทำให้เธอเดือดร้อนไปด้วย
"ว๊าย!" เสียงหวานหลุดร้องด้วยความตกใจในตอนที่มือหนาจับหมับเข้าที่ต้นแขนแล้วถูกกระชากจนตัวเซถลาปะทะเจ้าของมือหนาอย่างแรงจนใบหน้าสวยคมเหยเกด้วยความเจ็บ
"ผู้หญิงด้านชา ไร้ยางอายอย่างคุณเจ็บเป็นด้วยเหรอ" คนกระทำไม่ได้รู้สึกผิดสักนิดกลับพูดจาเหยียดหยามบีบแขนเล็กแรงขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาคมกริบจับจ้องใบหน้าคมราวกับจะฉีกเนื้อเธอออกเป็นชิ้นๆ
"อะ..โอ๊ยย!" เสียงหวานหลุดร้องออกมาอีกครั้งอย่างสุดจะกลั้นแรงบีบรัดทำให้เธอรู้สึกเจ็บราวกับกระดูกแขนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พยายามใช้อีกมือแกะมือหนาออก แต่แรงเพียงน้อยนิดของเธอไม่ได้ทำให้มือหนาขยับเขยื้อนสักนิดกลับกันยิ่งออกแรงบีบมากขึ้น
"เจ็บแค่นี้มันเทียบไม่ได้สักนิดกับสิ่งที่คุณทำไว้กับผมไอวา" ยิ่งเห็นหญิงสาวเจ็บปวดมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้สึกสะใจคนอย่างเธอแค่เจ็บปวดทางกายยังน้อยไปด้วยซ้ำต้องพบกับความทุกข์ทางใจด้วยถึงจะสาสม และเขานี้แหละจะเป็นคนหยิบยื่นโอกาสนั้นให้เธอเอง
"ปล่อยฉันนะบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ชื่อไอวา" เอวารีบเปล่งปฏิเสธพลางพยายามดึงแขนออกจากการจับกุมดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ เพื่อหาความช่วยเหลือเมื่อเห็นคนเดินออกจากผับก็ไม่รอช้าที่จะขอความช่วยเหลือ "ช่วยดะ..."
"อื้อๆ" ยังไม่ทันจะได้พูดจบประโยคเสียงหวานก็หายไปในลำคอเมื่อภาคินใช้มือปิดปากเธอไว้แน่นได้ยินเพียงเสียงอู้อี้เบาๆ ก่อนใช่มืออีกข้างรวบเอวคอดกิ่วแล้วลากไปยังรถหรูที่จอดอยู่ไม่ใกล้ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้หนีอีกต่อไป แม้ว่าร่างบางพยายามต่อต้านขัดขืนเพียงได้ก็เปล่าประโยชน์
"อ๋อยอั๋นอุนอะอาอั๋นไออั้ย" (ปล่อยฉันคุณจะพาฉันไปไหน) ความกลัวเริ่มเข้าเกราะกุมใจดวงน้อยๆ ของเอวาเธอพยายามดีดดิ้นสุดกำลังเพื่อให้หลุดพ้นจากวงแขนแกร่งแต่ความหวังที่จะหนีพลันดับวูบลงเมื่อเธอถูกลากมาถึงรถคันหรู
"ฉันไม่ใช่ไอวาคุณกำลังเข้าใจผิดฉันเป็นฝะ...โอ๊ย!" ร่างบางรีบอธิบายทันทีที่ริมฝีปากได้รับอิสระแต่ไม่ทันจะได้พูดจบเธอก็ต้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บเมื่อถูกชายหนุ่มจับยัดเข้าไปในรถอย่างแรงจนศีรษะชนกับขอบประตูก่อนหน้าจะคะมำชนกับกล่องเก็บของข้างเบาะ
น้ำตาแห่งความเจ็บเอ่อซึมตาคู่สวยจนพร่ามัวเธอทั้งกลัวทั้งเจ็บในเวลาเดียวกัน มือเรียวยกขึ้นจับศีรษะเบาๆ ขณะใช้อีกมือยันพนักพิงเบาะคนขับเพื่อทรงตัวลุกขึ้นนั่ง และเมื่อหันกลับไปมองทางประตูเธอก็ต้องตื่นตระหนกเข้าไปอีกเมื่อเห็นร่างสูงที่ยืนอยู่กำลังถอดเข็มขัดหนังราคาแพงออกจากรอบเอว "จะ..จะทำอะไร"
"....." ไร้ปฏิกิริยาตอบสนองจากภาคินเขาถอดเข็มออกจากขอบกางเกงอย่างใจเย็นมองร่างบางที่มีท่าทีตื่นตระหนกด้วยแววตาเย้ยหยันอะไรที่เป็นเธอเขาก็คิดว่ามันคือการแสแสร้งแกล้งทำทั้งนั้น
"ฉันไม่ใช่ไอวาฉันชื่อเอวาเป็นฝาแฝดกับไอวา คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้" เอวาร้องบอกเสียงสั่นพลางพยายามพามือหนีในตอนที่ร่างสูงโน้มตัวลงมาหมายจะจับมือถ้าเดาไม่ผิดเขาคงจะใช้เข็มขัดมัดมือเพื่อไม่ให้เธอหนีเป็นแน่หนทางเดียวที่เธอจะทำได้ในตอนนี้คือต้องบอกให้เขารู้ว่าเธอไม่ใช่ไอวา
"หึหึ" ภาคินเค้นหัวเราะออกมาราวกับคำพูดของหญิงสาวเป็นเรื่องตลกก่อนรอยยิ้มบนใบหน้าจะหายไปกลายเป็นดุดันแทน "คุณกลัวจนต้องแต่งเรื่องโกหกเพื่อเอาตัวรอดเลยเหรอไอวา"
ท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของชายหนุ่มทำเอาเอวาอกสั่นขวัญหายไม่น้อยรับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตที่ส่งผ่านทางสายตาและน้ำเสียง เธอลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยวๆ ลงลำคอแห้งผากอึกใหญ่ข่มความกลัวเอาไว้แล้วเอ่ยบอกไปด้วยน้ำเสียงติดๆ ขัดๆ "ฉะ..ฉันพะ..พูดจริงๆ"
"กรี๊ด!"
สิ้นเสียงพูดร่างบางหมัดหนักก็พุ่งใส่เบาะนุ่มอย่างแรงด้วยความโกรธเฉียดใบหน้าเรียวไปนิดเดียว ขณะที่อีกคนหลับตาปี๋กรีดร้องด้วยความตกใจเพราะคิดว่าเขาจะฝังหมัดลงบนหน้าเธอจริงๆ
"ฮึก" ความกลัวผสานกับความตกใจทำให้น้ำสีใสไหลลงอาบสองแก้มนวลอย่างกลั้นไม่อยู่ เนื้อตัวของเธอสั่นเทาราวกับลูกแมวตกน้ำแม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้ทำจริงๆ ก่อนเปลือกตาบางจะค่อยๆ ปรือขึ้นมองร่างสูงผ่านม่านน้ำอย่างกล้าๆ กลัวๆ
"ถ้ายังตอแหลไม่เลิกครั้งต่อไปมันจะไปอยู่บนหน้าคุณจริงๆ ไอวา" ริมฝีปากเอิบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นจนเป็นเส้นตรงเมื่อได้ยินประโยคที่เปล่งออกจากปากร่างสูงเธอไม่มีสิทธิแม้แต่จะอธิบายความจริง ทำไมเธอต้องมารับผลจากการกระทำของพี่สาวฝาแฝดด้วยฟ้าชั่งไม่ยุติธรรมกับเธอเลย