บทที่ 2 ขัดใจ
“พี่คงให้น้องติชาเข้าไปไม่ได้ค่ะ เจ้านายสั่งเด็ดขาดพี่ยังไม่อยากตกงานค่ะ” ยุพาก็อยากจะให้สาวน้อยเข้าไปคุยกับเจ้านายให้รู้เรื่องแต่เธอเห็นหน้าของเจ้านายจึงไม่กล้าเสี่ยง
“แต่ติชา เฮ้อ ช่างเถอะคนเอาแต่ใจแบบนี้ติชาไม่ยุ่งก็ได” สาวน้อยพูดแล้วย่นจมูกใส่บานประตูแล้ว เดินไปที่ห้องทำงานแม่ที่อยู่คนละฟากกับห้องของป้าณาตรงกลางระหว่างห้องทำงานของผู้บริหารเป้ห้องประชุมใหญ่ห้องประชุมเล็กและห้องครัวเล็ก เด็กสาวมาฝึกงานกับเลขาของคุณวีระตี เกริกสกุล แม่ของเธอเป็นหุ้นส่วนกับคุณป้าณาแม่ของพี่โดมและให้เธอมาฝึกงานก่อนเรียนจบแต่งานที่เธอชอบก็คือออกแบบเสื้อผ้าจึงชอบไปวุ่นวายกับฝ่ายคอสตูมของบริษัทที่มีปานวาด พงษ์พิสุทธิ์หรือพี่ปานรุ่นพี่สาวคนสนิทหรือย่าระหัสที่เป็นหัวหน้าแผนกคอสตูมของบริษัท
นี่ก็ใกล้เวลาเลิกงานแล้วด้วยอีกฝ่ายไม่ให้เธอเขาพบก็หมายความว่าวันนี้เธอต้องกลับบ้านคนเดียวอีกแล้วซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติที่เธอมักจะถูกพี่โดมทิ้งประจำตั้งแต่มาฝึกงานที่นี่แต่กันติชาก็ไม่ได้บอกป้านาหรือแม่ของเธอเพราะถ้าทั้งสองท่านรู้พี่โดมก็จะโดนดุแล้วเขาก็จะมาโกรธเธออีก
“เฮอะ อีกห้านาทีเองไปดีกว่าไหนๆก็ถูกทิ้งแล้วไปเดินเล่นที่ห้างดีกว่า” สาวน้อยหยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทำงาน
“พี่หวานคะ ติชากลับก่อนนะคะ” เมื่อบอกเลขาเสร็จก็ก้าวเท้าเดินออกไป
“น้องติชาไม่รอคุณโดมก่อนเหรอคะ” หวานใจสาวสวยวัยยี่สิบเจ็ดปีเลขาของคุณวีระตีที่ดูแลลูกสาวเจ้านายถามสาวน้อยคนเก่งที่หน้างอขึ้นทันที
“ไม่ค่ะ พี่โดมคงไม่ไปส่งติชาเพราะเรื่องเมื่อกลางวันนั่นละมั้งคะ” เป็นอันรู้กันว่าวันนี้เธอต้องไปกับสาวน้อยคนนี้อีกแล้วเพราะทุกครั้งที่กันติชาถูกทิ้งหวานใจก็ตามไปด้วยทุกครั้งและส่งถึงบ้านตลอดตามคำสั่งของเจ้านาย
“งั้นรอพี่แป๊บนะคะ”
“ก็ได้ค่ะ” นี่ก็อีกคนที่ไม่ปล่อยให้เธอได้ไปไหนมาไหนคนเดียวบ้างเหรอยกเว้นออกไปกับเพื่อนรักเท่านั้นที่เธอพอจะเป็นอิสระแต่ก็มีพี่ต้นหรือปองคุณ ภูมิใจภักษ์ช่างภาพมืออาชีพลูกชายป้าจิตรแม่บ้านกับลุงนำชัยคนขับรถของแม่ที่ต้องคอยรับคอยส่งเธออยู่บ่อยๆดีที่งานของเขาอิสระจึงทำให้มีเวลามารับมาส่งคุณหนูของเขาได้บ่อยถึงแม้จะมีงานเขาก็ปลีกตัวมาได้ทุกครั้งเพราะสนิทสนมคลุกคลีมาตั้งแต่เด็กกันติชาจึงรักและนับถือพี่ต้นเหมือนพี่ชายส่วนพี่ต้นก็รักเธอเหมือนน้องสาวในใส้เพราะคุณนิธิกับคุณวีระตีดูแลส่งเสียส่งเสียเขาเรียนจนจบปริญญาโทจากฝรั่งเศสพร้อมกับวโรโดมโดยที่ท่านไม่ได้บังคับให้เขามาทำงานในบริษัทแต่ทุกครั้งที่มีงานเขามักจะถูกเพื่อนรักอย่างนายโดมเรียกตัวมาช่วยตลอดจึงเหมือนเขามีงานประจำอยู่ที่ ซิงเกิ้ลเอนเตอร์เทนเม้นท์ บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตภาพยนต์ละครรายการเกมโชว์มากมายออกอากาศทีวีดิจิตอลช่อง10 ของตัวเองและมีบริษัทในเครือกว่าสิบบริษัทที่ผลิผลงานออกมาให้ประชาชนได้ชมกันทั่วทั้งประเทศ
“เสร็จหรือยังคะพี่หวาน” เสียงหวานร้องถามสาวสวยที่ถือกระเป๋าคู่กายเดินมาหาเธอ
“เสร็จแล้วค่ะ จะกลับบ้านเลยหรือไปไหนก่อนคะ” ตั้งแต่กันติชามาฝึกงานด้วยกันเธอไปส่งลูกสาวเจ้านายบ่อยๆและทุกครั้งจะต้องไปเดินเล่นซื้อของหรือหาของอร่อยกินกันก่อนกลับโชคดีที่เธอยังโสดจึงไม่มีปัญหากับที่บ้านอีกอย่างเธอก็เป็นเด็กต่างจังหวัดและพักอยู่คนเดียวในคอนโดขนาดกลางอยู่เลยบ้านกันติชาไปนิดหนึ่งนี่คือสาเหตุที่เธอสามารถรับส่งสาวน้อยได้
“วันนี้เราไปช้อปปิ้งกันดีมั้ยคะ ติชาอยากได้ชุดทำงานเพิ่มคะหากออกต่างจังหวัดใส่ชุดแบบนี้คงไม่สะดวกค่ะ”
“ดีเลยค่ะ พี่ก็ไม่ได้ออกไปไหนนานแล้ว งั้นเราไปดูชุดเตรียมไปเที่ยว เอ้ย ไปทำงาน ตอจอวอ กันดีกว่าค่ะ”
สองสาวพูดคุยกันหัวเราะกันไปตลอดทางเดินไปลานจอดรถที่หวานใจจอดรถเก๋งสัญชาติญี่ปุ่นที่เธอเพิ่งซื้อมาใช้ได้ไม่ถึงปีเพื่อความสะดวกในการเดินทาง
“ติชาอยากขับรถมาทำงานเองจังเลยค่ะ สงสัยต้องคุยกับม๊าอย่างจริงจังสักทีค่ะ” กันติชาพูดแล้วก็หน้างอเมื่อคิดถึงพี่โดมของเธอที่มักจะว่าเธอผิดตลอดทำอะไรก็ผิดแล้วอย่างนี้แม่กับป้านายังจะให้เธอแต่งงานกับเขาอีกคิดแล้วก็เครียดจึงส่ายหน้าไปมาเพื่อให้ลืม
“คุณตีคงจะเป็นห่วงน้องติชาก็เลยไม่อยากให้ขับรถ”
“แล้วมันต่างกันตรงไหนคะพี่หวาน เพราะติชาโดนเทบ่อยๆน่ะ หากไม่มีพี่หวานแล้วติชาทำยังไงละคะ” สาวน้อยพูดไปก็ตาแดงเม้มปากแน่นเพราะเขาคนเดียวหากไม่อยากมารับมาส่งก็บอกแม่เขาไปสิ ต่อไปกันติชาคนนี้จะไม่ยอมอีกแล้วเธอจะต้องช่วยเหลือตัวเองและจะทำให้ได้
“น้องติชาขา ไม่เอาค่ะเรามาช้อปปิ้งกันนะคะอย่ามาพูดถึงเรื่องนี้เลยไปเถอะค่ะ ลุย” หวานใจพูดให้สาวน้อยเปลี่ยนเรื่องไปสนใจเลือกซื้อเสื้อผ้าดีกว่า
“งั้นก็ลุยยค่ะ” สองสาวตะเวรเข้าร้านนั้นออกร้านนี้จนได้เสื้อผ้าถูกใจคนละสามสี่ชุดแล้วพากันไปกินข้าวก่อนพากันติชาไปส่งที่บ้าน
วโรโดมนั่งทำงานโดยไม่พักหลังจากที่โมโหยัยเด็กแสบตัวดีที่เถียงเขาฉอดๆว่าโตแล้วดูแลตัวเองได้แล้วจะไปต่างจังหวัดพร้อมทีมงานให้ได้หากเขาปล่อยให้กันติชาไปเขาก็จะโดนแม่บ่นว่าให้ไม่หยุดแน่ที่ปล่อยให้ยัยเด็กแสบไป หนุ่มหล่อยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
“เฮ้ย จะหกโมงแล้วเหรอวะ” ร่างสูงใหญ่เกินมาตฐานหนุ่มไทยที่สูงร้อยแปดสิบห้าผุดลุกขึ้นเขาลืมยัยเด็กแสบป่านนี้คงกลับบ้านไปแล้ว “ช่างเถอะไปหาอะไรกินดีกว่า” ชายหนุ่มบ่นเบาๆแต่ไม่ลืมเดินไปชะโงกมองห้องทำงานของป้าตีที่ยัยเด็กแสบมักจะอยู่ที่นั่นรอเขาแต่ไม่เห็นจึงเดินเลยไปที่ลิฟต์แล้วโทรหาเพื่อนนัดแนะกันไปดื่ม
“ไอ้ต้นแกอยู่ไหน” พอเพื่อนรับสายเขาก็ถามทันที
“อ้าว ไอ้ท่านประธานครับ ใช้ผมทำงานแล้วยังจะถามอีกเนาะ แกมีอะไรงานฉันยังไม่เสร็จเลย” ปองคุณตอบเพื่อนหรือเจ้านายที่สั่งงานให้เขามาถ่ายรูปดาราวัยรุ่นทั้งหญิงและชายเพื่อทำปฏิทินขายเพื่อการกุศลตามที่คุณทักษินาและคุณวีระตีทำมาตลอดทุกปีเพราะดาราแต่ละคนมีแฟนคลับมากมายจึงได้ช่วยเหลือกันคนละเล็กละน้อยช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสและพิการตามสถานสงเคราะห์ที่ขาดแคลน
“ฉันจะชวนนายไปดื่มน่ะ”
“อีกครึ่งชั่วโมงได้มั้ย เหลือถ่ายอีกสองชุดน่ะแสงมันจะหมดแล้ว” ปองคุณบอกเพื่อนเขาถ่ายมาตั้งแต่ตะวันขึ้นยันตะวันตกดินสรุปแล้ววันนี้ทั้งวันเพื่อให้ได้ตามคอนเซปของท่านประธานใหญ่ก็คือวโรโดมเพื่อนของเขานี่แหละ
“ได้ งั้นเจอกันที่เดิม” ที่เดิมของพวกเขาคือคลับหรูกลางกรุงเทพมหานครที่พวกเขาถือบัตรสมาชิกอยู่นั่นเองและยังสนิทกับเจ้าของเพราะเป็นรุ่นพี่สมัยเรียนเตะฟุตบอลเล่นกีฬาของมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน
“โอเคเพื่อน” ตกลงกันได้แล้วเขาก็วางสายจากปองคุณแล้วโทรหายัยเด็กแสบ
“ตู้ด ตู้ด ตู้ด...หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามรถติดต่อได้”