บทที่1.สเตฟาน ดียองตูว์...
“ค่ะพ่อนกจอมพลัง ปิป้าจะรอดูเวลาคุณหนูกลายเป็นนกปีกหัก ชอบดูถูกผู้หญิงดีนัก วันไหนก็ตามที่คุณหนูพบรักแท้ปิป้าจะภาวนาให้ผู้หญิงคนนั้นไม่ชายตาแลผู้ชายกลอกกลิ้งอย่างคุณหนูเลยทีเดียว” สาวใหญ่พึมพำตามหลังสเตฟานไปอย่างเอือมระอา ชายหนุ่มร่ำรวยล้นฟ้าจากสมบัติเก่าแก่ในตระกูลและที่สร้างขึ้นมาใหม่ด้วยสองมือของตัวเอง ทำให้มองผู้หญิงรอบตัวเป็นสิ่งฉาบฉวยใช้เงินตราหว่านล่อเอามาไว้ใช้แก้ขัดบำรุงบำเรออารมณ์หนุ่ม คุณสมบัติแค่นี้ผู้หญิงรักสบายก็ถลาซุกอกของสเตฟานโดยไม่มีข้อแม้
กายเปล่าเปลือยยืนหลับตาพริ้มใต้สายน้ำเย็นฉ่ำ ปล่อยให้สายน้ำเย็นๆ ไหลรินรดบนผิวกายตึงแน่น สายน้ำไหลละเรื่อยจากร่างกายร่วงหล่นกระทบแผ่นหินอ่อนใต้ฝ่าเท้า ก่อนจะหายไปในท่อระบายน้ำทิ้ง หลังอาบน้ำชำระคราบเหงื่อไคลที่หมักหมมขณะที่คลุกเคล้ากับคู่ขาทรงสะคราญเมื่อกลางดึก บทพิศวาสร้อนฉ่าเหมือนไฟนาบตามร่างกาย แต่ไม่สามารถทำให้สเตฟานอิ่มเอมได้มันค้างๆ คาๆ เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างขาดหายไป การปลดปล่อยอารมณ์หนุ่มร้อนแรงไปกับร่างกายอวบอัดของนางแบบสาวชื่อดังแล้วก็จากกันหลังพระอาทิตย์โผล่ขึ้นพ้นขอบฟ้า แต่วันนี้มีนัดประชุมบอร์ดบริหาร สเตฟานจึงต้องกลับมาเตรียมเอกสารบางอย่างที่คฤหาสน์ดียองตูว์ มันเป็นวันที่น่าเบื่ออีกวันหนึ่งของชายหนุ่ม เพราะเขาต้องทนฟังเสียงบ่นกระแหนะกระแหนของบอร์ดบริหารที่เป็นส่วนใหญ่เป็นญาติสนิทและลุงป้าน้าอา
เขาดูองอาจในสูทผ้าเนื้อดีสีเทาขุ่น ตัวเสื้อสูทแนบลำตัวส่งให้เรือนกายทรงพลังสง่างาม จนสาวใช้สาวๆ ในคฤหาสน์ทอดสายตามมองตามเป็นพรวน สเตฟานเดินลงมาตามบันไดวนไม่เหลือบแลสายตามองสิ่งใด เพราะในหัวสมองคิดวนเวียนคิดค้น หาคำพูดแก้ต่างให้ตัวเองกับบอร์ดบริหารอยู่อย่างจริงจัง จนถึงห้องอาหารกว้างใหญ่ภายในตัวคฤหาสน์ เมื่อกำหนดการใกล้เวลาที่ต้องออกเดินทางไปยังตึกสำนักงาน “ดอร์อีส” สถานที่ทำงานในปัจจุบัน
“ทานอาหารเช้าก่อนค่ะ ปิป้าเตรียมไว้ให้คุณหนูแล้ว วันนี้ต้องออกรบกับใครอีกหลายคน สะสมพลังงานเอาไว้หน่อย จะได้ไม่เพลี่ยงพล้ำ ต้องเป็นรองฝ่ายตรงข้าม” ปิป้าเลื่อนจานอาหารเช้าให้สเตฟาน พร้อมทั้งกล่าวสำทับคำพูดที่สเตฟานได้ยินถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมาอย่างถูกใจ เมื่อปิป้ารู้ความเป็นไปทุกอย่างในโลกภายนอก แม้จะอาศัยอยู่แต่ภายในคฤหาสน์โดยไม่ได้ออกไปเยี่ยมเยียนโลกภายนอกเลยสักครั้ง
“ข้อมูลแน่นมากเลยครับปิป้า รู้ด้วยรึครับ! ว่าวันนี้ผมต้องไปออกรบ”
“ปิป้าแก่ก็จริงค่ะคุณหนู แต่ไม่ได้หูหนวกตาฝ้าฟาง” สาวใหญ่กล่าวแก้เสียงสะบัด พร้อมทั้งทำหน้าแสนงอนเหมือนสาวรุ่นๆ จนสเตฟานคลายเครียดหัวเราะร่าเริง “ฮ่าๆ...”
“ญาติผู้ใหญ่ทุกคนแค่เหนื่อยใจกับความประพฤติของคุณหนูนะคะ เมื่อไรจะเลิกตะลอนๆ เที่ยวเตร่แบบนี้เสียทีเล่าคะ”
“ผมไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวข้องตรงไหนกับงานที่ผมทำอยู่ ความประพฤติของผมก็เหมือนกับผู้ชายโสดทั่วไป ผมทำประชาสัมพันธ์ให้บริษัทอยู่นะครับ ไม่เสียสักสตางค์เป็นค่าสื่อสิ่งพิมพ์สักแดงเดียว ผลประโยชน์ทั้งนั้นไม่รู้จะบ่นทำไมนักหนา”
“ค่ะ...ออกสื่อในสภาพหนุ่มเสเพล แล้วผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะกล้าเสี่ยงเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคุณหนูกันล่ะคะ ปิป้าเองก็เถอะถ้าเป็นสาวๆ สิ่งแรกคือหลีกให้ห่างผู้ชายแบบคุณหนู เมื่อมีแต่เรื่องเปลืองตัวกับเปลืองใจ”
“ผมคิดว่า...ความคิดอันนี้ของปิป้าไม่ถูกต้องนะครับ ทุกวันนี้ผมยุ่งวุ่นวายจนสับรางรถไฟไม่ทันเพราะผู้หญิงที่ปิป้าพูดถึง ผู้หญิงดีๆ จะไม่ข้องเกี่ยวกับผู้ชายเสเพลอย่างผม ผมเห็นมีแต่จะคอยวิ่งใส่ล่ะไม่ว่า ทุกวันนี้ผมยังไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่คอยวิ่งหนีผมสักคนเดียว”
“เห้อ!!!...ปิป้าคร้านที่จะเถียงกับคุณหนูแล้วล่ะค่ะ สักวันคุณหนูจะเจอกับผู้หญิงคนนั้นเอง วันนั้นคุณหนูจะรู้ว่าความแตกต่างระหว่างความรัก กับความใคร่ที่คุณหนูเจอทุกๆ วัน มันแตกต่างกันจนเปรียบเทียบไม่ได้เลยค่ะ”