คนรับผิด(2)
“หมอบอกว่าพ่อเป็นโรคปอด น่าจะสูบบุหรี่มากเกินไป”
เรื่องที่พ่อป่วยนั้นไม่ใช่เรื่องที่เธอคิดโกหกขึ้นมาเอง พัชชาตั้งใจเอาเรื่องพ่อมาอ้างเพราะมั่นใจว่าครั้งนี้ยังไงพิมดาวก็ต้องยอมช่วยเหลือเธอ
“แล้วเรื่องของพ่อเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่พี่เอาเงินบริษัทไป”
พัชชาแกล้งถอนหายใจยาวก่อนจะนั่งลงพลางช้อนตามองน้องสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ที่ฉันต้องเอาเงินบริษัทไปก็เพราะต้องไปจ่ายค่ารักษาพ่อ”
“แล้วทำไมพี่ไม่บอกบอสตั้งแต่แรก”
พัชชาให้เหตุผลว่าตอนนั้นเธอถูกคาดคั้นเลยคิดอะไรไม่ออก จำได้ว่าน้องสาวทำงานอยู่ที่นี่ด้วยเลยหวังให้อีกฝ่ายมาช่วยเป็นพยานให้ ไม่คิดว่าพิมดาวจะใสซื่อจนมองไม่ออกว่าเธอนั้นต้องการสื่ออะไร จากที่คิดว่าทุกอย่างจะดีขึ้นกลับแย่ลง
“ก็เมื่อกี้ฉันตกใจทำอะไรไม่ถูกเลยไม่ได้บอกเขา”
พิมดาวหน้าเครียด เธอเป็นห่วงพ่อมากจนแทบไม่สนใจเรื่องของพัชชาอีกต่อไป
“ดะ เดี๋ยว แกจะไปไหน”
พัชชาเมื่อเห็นน้องสาวกำลังจะเดินจากไป ก็รีบรั้งอีกฝ่ายเอาไว้
“ไปเยี่ยมพ่อ”
พ่อป่วยนอนอยู่โรงพยาบาลจะให้เธออยู่เฉยๆได้อย่างไร พิมดาวตั้งใจว่าจะลางานช่วงบ่ายเพื่อเดินทางไปเยี่ยมผู้เป็นพ่อ แต่พัชชากลับขอร้องให้เธอนั้นเข้าไปเจรจากับณภัทร
“ฉันเอาเงินไปจ่ายค่ารักษาพ่อ แกไม่คิดจะช่วยฉันเลยหรือไง”
พัชชาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ซึ่งนั่นทำให้พิมดาวไม่มีทางเลือกจำต้องเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของชายหนุ่มอีกครั้ง
ณภัทรหรี่ตามองคนที่เพิ่งเดินเข้ามา รอยยิ้มจืดเจื่อนปรากฏขึ้นบนใบหน้าหญิงสาว พิมดาวแทบหันหลังกลับเมื่อสายตาสบเข้ากับใบหน้าเครียดเคร่งของอีกฝ่าย แต่เมื่อนึกถึงหน้าพ่อแล้วหญิงสาวก็สูดลมหายใจลึกก่อนตัดสินใจเอ่ยขึ้น
“บอสคะ คือฉันอยากจะคุยกับบอสเรื่องพี่พัชค่ะ”
“ว่ามาสิ”
หญิงสาวสูดลมหายใจลึก ในใจเต้นโครมครามรู้สึกประหม่า
“ที่พี่สาวฉันเอาเงินไป...ก็เพื่อจ่ายค่ารักษาพ่อ ฉันเลยอยากจะขอรับผิดชอบแทนด้วยการหาเงินมาคืนให้ แต่ขอเวลามากกว่านี้ได้ไหมคะ”
พิมดาวคิดว่าระยะเวลาแค่สามวันมันน้อยเกินไป เธอไม่สามารถหาเงินจำนวนมากขนาดนั้นในระยะเวลาสั้นๆได้ หญิงสาวจึงพยายามร้องขอความเห็นใจจากชายหนุ่ม โดยไม่รู้เลยว่าณภัทรนั้นกำลังใช้สายตาลุ่มลึกมองสำรวจเธออยู่
“ก็ได้ แต่เธอต้องทำตามเงื่อนไขของฉัน ถ้าเธอทำได้เรื่องเงินก็ไม่มีปัญหา”
ชายหนุ่มเอ่ยพลางกระตุกยิ้ม พิมดาวรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นสายตาแปลกๆของเจ้านาย แต่เธอไม่มีทางเลือกจำต้องตกปากรับเงื่อนไขเขา