
บทย่อ
เพราะความเข้าใจผิดที่เกิดจากการกระทำของใครบางคน ทำให้ทั้งสองต้องเลิกกัน แต่เมื่อว้นหนึ่งต้องกลับมาพบกันอีกกครั้ง หัวใจที่ไม่เคยเลิกรัก จะกลับมาสานสัมพันธ์กันอีกครั้งได้หรือไม่!! ครั้งหนึ่งทั้งสองเคยรักกัน แต่เพราะมีเรื่องบางอย่างทำให้เข้าใจผิดว่าเธอนอกใจ พอกลับมาเจอกันอีกครั้ง จะยอมปล่อยความรักที่ยังไม่จางหายล่องลอยหายไป หรือจะตามกลับรักครั้งเก่าให้กลับมาเหมือนเดิม
ตอนที่ 1 ฝันร้ายที่ไม่เลือนหาย
ตอนที่ 1 ฝันร้ายที่ไม่เลือนหาย
เสียงสะอื้นของหญิงสาวดังขึ้นในยามค่ำคืน ภายในห้องนอนที่มืดและเงียบสงัดมีเพียงเงาของแสงจันทร์สาดส่องผ่านกระจกตกกระทบบนร่างอันบอบบางที่นอนขดอย่างหวาดผวา มือของเธอบีบผ้าห่มแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นมา ราวกับกำลังต่อสู้กับฝันอันโหดร้ายยังคงตามหลอกหลอนเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธออยู่ทุกคืน
ร่างของเธอกระตุกอย่างแรงจนเธอสะดุ้งตื่น เธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาและพบว่าขอบตาของเธอนั้นเปียกแฉะไปหมด นีน่า ใช้มือของเธอยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ ก่อนที่เธอจะเข้าใจว่าเธอนั้นฝันร้ายอีกแล้ว
“ฝันอีกแล้วสินะ” เธอพึมพำกับตัวเองเล็กน้อย พร้อมกับมองไปที่ตาข่ายดักฝันร้ายที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลยสักนิด
เธอซื้อมันมาแขวนไว้ที่หัวเตียงหวังเพียงแค่ว่ามันจะช่วยให้เธอได้มีฝันที่ดีกับคนอื่นบ้าง แต่ก็ต้องพบว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรและมิหนำซ้ำยังทำให้หนักกว่าเดิมด้วย
ภายใต้ความฝันของเธอ เธอกำลังยิ้มและมีความสุขกับอดีตคนรักอย่าง รีไวน์ แต่ทันใดนั้นคนรักก็ตวาดและผลักไสไล่ส่งเธออย่างไม่คิดถึงสิ่งดีๆที่เคยมีร่วมกัน ก่อนที่เธอจะสะดุ้งตื่น
หญิงสาวไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้น ทั้งความจริงและความฝัน เธอจึงอดที่จะร้องไห้ไม่ได้เพราะมันช่างแสนเจ็บปวด และยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเมื่อตื่นขึ้นมารับรู้ความจริงว่า รีไวน์ไม่ได้อยู่ข้างๆ เธอเหมือนที่เคย
รีไวน์เองก็ได้ออกจากชีวิตของเธอไปนานหลายปีและไม่มีวี่แววว่าจะหวนคืนกลับมา หลงเหลือไว้แต่ความทรงจำที่โหดร้าย ความคิดถึง ความโหยหาของเธอ ที่ไม่ยอมจางหายไปสักที
เธอค่อยๆเอนตัวลงที่เตียงและพยายามข่มตานอนอีกครั้ง ถึงแม้มันจะยากเพราะภาพจำในอดีตคอยทำร้ายเธออยู่ทุกคืน แต่ถึงยังไงเธอจะต้องผ่านค่ำคืนนี้ไปให้ได้ เหมือนเช่นคืนก่อนๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น
นีน่าแบกร่างกายที่พักผ่อนไม่เต็มที่ของเธอมายังมหาลัย สภาพเธอตอนนี้ไม่ค่อยต่างอะไรจากซอมบี้นัก ขอบตาของเธอแดงและบวมไปหมดจากการร้องไห้แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความสวยของเธอลดน้อยลงเลย ทุกสายตาของผู้คนในมหาลัยต่างจับจ้องมองมาที่เธอเป็นตาเดียว แต่เธอไม่ได้สนใจคนพวกนั้น เธอรีบจ้ำเดินไปที่ห้องเรียนของเธอให้ไวที่สุด เพราะอีกไม่กี่นาทีหลังจากนี้ใกล้เวลาที่อาจารย์จะเริ่มสอนแล้ว
เธอทิ้งตัวลงนั่งยังโต๊ะโต๊ะเรียนก่อนที่จะยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นตั้งกับโต๊ะ และใช้มันค้ำหัวของเธอเอาไว้ ความเพลียจากการพักผ่อนน้อยทำให้อาการปวดหัวก็ตามมาด้วย
“ฮัลโหลนีน่า~” เสียงสดใสดังขึ้นและเรียกสติของนีน่าก่อนที่ผู้มาใหม่จะทิ้งตัวลงนั่ง
“อื้ม ว่างาย~”นีน่าปรือตาของเธอขึ้นมาดูเพื่อนสาวของเธอ แฟนต้า แต่เมื่อเพื่อนได้เห็นสีหน้าที่อิดโรยของเธอแล้วก็หุบยิ้มลงทันที
“ทำไมหน้าหมองแบบนี้ อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนฝันร้ายอีกแล้ว” มือของแฟนต้าเอื้อมไปจับหน้าของคนข้างๆพลิกไปพลิกมาอย่างสำรวจ
“คงแบบนั้น ฉันฝันร้ายแทบจะทุกคืนอยู่แล้ว” หญิงสาวเอียงหน้าของเธอออกจากมือของเพื่อน อันที่จริงแล้วเธอไม่ได้อยากให้แฟนต้าต้องมาคอยเป็นห่วงเธอแบบนี้ แต่ด้วยความเป็นเพื่อนที่แสนดีนั้นมันก็ไม่สามารถที่จะอดใจได้
“เป็นแบบนี้อีกแล้ว ตั้งแต่หมอนั่นทิ้งแกไปแกก็เอาแต่เป็นแบบนี้ไม่หยุด ชีวิตเราต้องเดินต่อไปข้างหน้าสิ มูฟออนค่ะมูฟออน!” แฟนต้าพูดเสียงดังขึ้นกว่าปกติและด้วยท่าทีที่หึกเหิมของเธอ ทำให้สายตาของผู้ร่วมชั้นต่างจดจ้องมอง
“ถ้ามูฟออนได้ก็ทำไปแล้ว มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสักหน่อย” นีน่าถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ตั้งแต่เลิกกันเธอพยายามที่จะไม่คิดถึงเรื่องของชายคนนั้น แต่มันก็ทำไม่ได้สักทีและไม่รู้ว่าทำไม อาจจะเพราะสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับเธอมันเป็นความทรงจำที่เลวร้ายและฝังอยู่ในใจเธอมากเสียจนไม่อาจที่จะลืมไปได้ง่าย ๆ
“งั้นวันนี้ไปส่องผู้วิศวะกันค่ะ ได้ข่าวมาว่ามีแต่เด็ด ๆ ทั้งนั้น เพื่อนฉันจะมามัวเศร้าแบบนี้ไม่ได้ ขอผู้มาเยียวยาใจด่วน ๆ” แฟนต้าเสนอความคิดดีๆไปให้กับเพื่อนสาวของเธอ และหวังว่าเพื่อนจะสนุกและเพลิดเพลินตาไปกับการได้สอดสายตาหาผู้ชายหล่อๆ ดีไม่ดีอาจจะได้หนุ่มๆมาควงเยียวยาหัวใจก็ได้
“อยากพาฉันไปหาผู้ หรือจะหาให้ตัวเองกันแน่” แต่เธอดันรู้ทันความจริงที่ว่าแฟนต้าชวนเธอไปหาผู้ถึงคณะวิศวะที่ผู้ชายเรียนเยอะมากที่สุดก็เพื่อที่จะหาหนุ่มให้ตัวเองมากกว่า
“กรี๊ด อย่ามาทำเป็นรู้ทันนะย๊ะ” แฟนต้าตีที่มือของนีน่าเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ที่นีน่ารู้ทันความคิดของหล่อน
แฟนต้าเองเป็นคนที่สวยและมีเสน่ห์มาก แต่ด้วยความที่เธอเป็นสาวสองเธอจึงไม่เจอความรักที่จริงใจกับเธอสักที แม้โลกในตอนนี้จะเปิดรับทุกเพศสภาพแล้ว แต่การหาคู่ที่จริงใจนั้นหาได้ยากนัก แต่แฟนต้าก็ยังไม่ย่อท้อที่จะหาใครสักคนมาช่วยเติมเต็มความเหงาให้กับเธอ
“เอางั้นก็ได้ หวังว่าการหาผู้ครั้งนี้จะสำเร็จ” นีน่าตอบตกลงไปปัดๆ เธอไม่สนใจผู้ชายคนไหนอยู่แล้ว เธอรู้ดีว่าตัวเองยังลืมคนเก่าไม่ได้และยังไม่พร้อมเปิดใจให้ใคร อีกทั้งเธอเองก็ไม่อยากให้ชีวิตของตัวเองวุ่นวายไปมากกว่านี้ด้วย
โรงอาหารในเวลาเที่ยงไม่ว่าจะเป็นคณะไหน ๆ ก็ต่างมีผู้คนแออัดและเบียดเสียดกันทั้งนั้น รวมถึงคณะวิศวะที่ทั้งสองได้ยืนถือจานข้าวอยู่เป็นเวลานานนี่ด้วย ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ผู้คนนั่งเต็มทุกโต๊ะ และมันทำให้นีน่ารู้สึกว่าตัวเองคิดผิดหรือเปล่านะ ที่ดันใจอ่อนตามแฟนต้ามาแบบนี้ หากเธอนั่งกินข้าวที่โรงอาหารคณะบริหารล่ะก็คงจะได้นั่งกินอย่างสบายใจไปแล้ว
“นี่เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ผู้ติดไม้ติดมือเรากลับไป ช่วยทำหน้าตาให้มันดีหน่อยได้ไหม จะได้เรียกแขกได้บ้าง” แฟนต้าส่งเสียงดุนีน่าเล็กน้อย โอกาสที่จะได้ผู้ชายในดงของผู้ชายนี้มีเปอร์เซ็นต์ค่อนข้างมาก หากนีน่าไม่ได้ทำหน้าเบื่อโลกอยู่แบบนี้
“ก็มัน...” หญิงสาวเก็บคำที่เหลือไว้ในใจ เธอไม่ได้อยากหาใครมาแทนที่รีไวน์สักหน่อย ภาพจำของรีไวน์ยังอยู่ในหัวเธออยู่เลยแท้ๆ จะให้หาใครมาแทนได้ยังไง!
แฟนต้าจึงใช้สายตาที่ดีราวกับเหยี่ยวที่กำลังล่าเหยื่อมองหาโต๊ะที่กำลังจะกินเสร็จ และนั่น! แฟนต้าเห็นว่ามีกลุ่มผู้หญิงลุกออกจากโต๊ะไปแล้ว เธอจึงรีบออกตัววิ่งด้วยความเร็วแสงไปที่โต๊ะให้ไวที่สุด เพราะหากช้ากลัวว่าจะมีใครมาแย่งไป เมื่อเธอถึงโต๊ะได้อย่างสมบูรณ์แล้วเธอจึงรีบโบกมือเป็นสัญญาณให้นีน่าได้รับรู้
“แค่นี้ก็เรียบร้อย” แฟนต้ายิ้มอย่างภาคภูมิใจที่หาโต๊ะนั่งได้