บทที่ 1 เจ้าสาวฆ่าตัวตายในวันแต่งงาน
“เจ้าสาวฆ่าตัวตายแล้ว!”
แคว้นเป่ยฉิน เมืองหลวงประดับประดาด้วยโคมสีสันงดงาม
จู่ๆบนท้องถนนยาวไปสิบลี้ก็มีเสียงหวีดร้องดังขึ้น!
เสียงครึกครื้นที่เต็มไปด้วยความยินดีเลือนหายไป ขบวนแห่เกี้ยวรับเจ้าสาวเกิดความอลหม่าน แม่นมและสาวใช้กระสับกระส่ายร้องเสียงแหลม อาณาประชาราษฎร์หลายคนมองขบวนที่อยู่ตรงกลาง นั่นก็คือเกี้ยวหงส์เหินนภาเคียงคู่มังกรทะยานฟ้าที่ใช้คนยกถึงแปดคน
เวลานี้ ใต้เกี้ยวมีเลือดแดงฉานหยดลงมา
คราบเลือดคดเคี้ยวยาวเป็นทาง น่ากลัวเป็นอย่างมาก!
“เร็วเข้า รีบประคองเจ้าสาวออกมา!”แม่นมสี่ตะโกนเสียงดัง สาวใช้จำนวนหนึ่งจึงรีบกระโจนไปข้างหน้าและดึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ใบหน้ามีผ้าคลุม บนศีรษะมีมงกุฎอยู่ออกมาจากเกี้ยว
ข้อมือของเจ้าสาวมีรอยกรีดลึก เลือดไหลพุ่งกระฉูด พร้อมกับกริชอาบเลือดเล่มหนึ่งหล่นอยู่บนพื้น
“ประคองเข้าไปก่อน เรียกหมอหลวงมา!”ผู้ดูแลจวนอ๋องขมวดคิ้วเป็นปม นัยน์ตาเต็มไปด้วยความระอา
เจ็บ……
ช่วงที่เซียวลิ่งเยว่กำลังสะลึมสะลืออยู่ นางรู้สึกว่ามีความเจ็บปวดถาโถมมาใส่ ตอนนี้กำลังมีคนลากนาง จากที่สะลึมสะลืออยู่ก็ค่อยๆได้สติขึ้นมา
ขนตาของนางพริ้วไหวเล็กน้อย บริเวณโดยรอบนางมีแต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังอยู่เป็นนิจ
“ดูสิ คุณหนูตระกูลเซียวกรีดข้อมือเพื่อฆ่าตัวตาย!”
“อยากตายทำไมไม่รีบตายไปตั้งนานแล้ว นี่รอจนเกี้ยวยกมาถึงประตูจวนอ๋องอี้แล้วถึงมาตาย นางจงเกลียดจงชังท่านอ๋องอี้ของพวกเราหรือ?”
“นางใช้กลอุบายชั่วร้ายกับอ๋องอี้ บีบบังคับให้ท่านอ๋องอี้รับนางมาเป็นพระชายาเอก ตอนนี้จะทำสำเร็จดังใจหวังแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะมาฆ่าตัวตายในเกี้ยว ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือ?”
“ก็นั่นนะสิ ใครไม่รู้บ้างว่าท่านอ๋องอี้เกลียดชังนางมากแค่ไหน ถ้านางแต่งเข้าจวนอ๋องอี้จริงๆ เช่นนั้นก็คงต้องอยู่เป็นหม้ายไปชั่วชีวิตแล้ว! สู้ตายตอนนี้ไปเลยดีกว่า ตายก็จะได้ตายในนามของพระชายา ผู้หญิงคนนี้ความคิดชั่วร้ายเสียจริง!”
“…….”
เซียวลิ่งเยว่งงงวยชั่วขณะ
คุณหนูตระกูลเซียวเป็นใคร?
นางรู้สึกปวดศีรษะขึ้นมา พร้อมกับมีความทรงจำแปลกๆประเดประดังเข้ามามากมาย
เซียวลิ่งเยว่ชะงักงัน คิดไม่ถึงว่านางจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่?
สาวใช้จำนวนหนึ่งพยุงนางเข้าไปในเรือนหอ จากนั้นก็ทิ้งนางไว้บนเตียงและเดินออกไปจากห้องโดยไม่สนใจใยดีนางเลย
เซียวลิ่งเยว่สะลึมสะลือลุกขึ้น นางเปิดผ้าคลุมหน้าออกจึงเห็นรอยแผลบริเวณข้อมือของตัวเอง และตอนนี้เลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุด
กรีดลึกเช่นนี้ คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วอย่างแน่นอน
เซียวลิ่งเยว่กัดฟันกุมข้อมือของตัวเองแน่น นางใช้ปากกัดที่ผ้าคลุมหน้า แล้วเอามาพันบริเวณบาดแผลเพื่อห้ามเลือด
นางกำลังง่วนอยู่กับการทำแผล จึงไม่ทันสังเกตว่าเลือดออกปริมาณมากทำให้ร่างกายของนางมีความผิดปกติ
เซียวลิ่งเยว่รู้สึกว่าตัวเองหายใจลำบาก ความรู้สึกแปลกๆพรั่งพรูออกมาจากร่างกาย คนทั้งคนเหมือนเข้าไปในเครื่องนึ่ง เหงื่อไหลออกมาปริมาณมาก
เดี๋ยวนะ…..
นางสัมผัสได้ถึงความผิดปกติขึ้นมาทันที นี่ไม่ใช่ปฏิกิริยาตอบสนองของการเสียเลือด!
นางโดนวางยา!
เจ้าของร่างเดิมถูกคนวางยา!
การกรีดข้อมือไม่ได้ทำเพื่อฆ่าตัวตาย แต่ทำเพื่อปล่อยเลือด ลดฤทธิ์ยา……
เมื่อเซียวลิ่งเยว่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว
นางเพิ่งจะหยุดเลือดได้ ฤทธิ์ยาในร่างกายก็ถาโถมออกมาอย่างหนัก
นางเกาะขอบเตียงเพื่อลุกขึ้นไปหาน้ำดื่ม ทว่าขาทั้งสองข้างกลับอ่อนเปลี้ย แทบจะล้มลงบนพื้น
และแล้วเวลานี้ เสียงคนโหวกเหวกโวยวายอยู่ด้านนอกก็ดังเข้ามา
“ท่านอ๋อง ท่านโปรดระงับโทสะ….”
“หลบไป ข้าอยากจะดูนัก ว่านางคิดจะทำอะไรกันแน่? !”
เสียงเดือดดาลดังลั่น เขาสาวเท้าเดินมาแล้วถีบบานประตูห้องหอ
“ปัง ——”
เสียงดังลั่นทำเอาคนที่ได้ยินต่างอกสั่นขวัญแขวน
พ่อบ้านจวนอ๋อง องครักษ์ และสาวใช้ต่างคุกเข่าลงพูดว่า“ท่านอ๋องโปรดระงับโทสะ!”
เซียวลิ่งเยว่ที่นั่งยองๆชันเข่าที่พื้นข้างเดียวพยายามเงยหน้าขึ้น นางมองเห็นเงาร่างอึมครึมท่าทางเย็นชายืนอยู่หน้าประตูลางๆไม่ชัดเจน
คนคนนั้นก็คืออ๋องอี้ จ้านเป่ยหาน!
“รออยู่ข้างนอกให้หมด ไม่มีคำสั่งของข้า ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้ามา!”น้ำเสียงเย็นชาของฝ่ายชายดังขึ้น
“ปัง!”เสียงประตูห้องหอปิดดังปัง
ตามด้วยฝีเท้าก้าวเดินเข้ามา ราวกับจะเอาชีวิตอย่างไรอย่างนั้น
“โอ๊ย!”เซียวลิ่งเยว่ขมวดคิ้วเป็นปม ลำคอขาวละออของนางถูกชายหนุ่มบีบ และนางยังถูกกดลงบนเตียงอีกด้วย
ทรมานจากการขาดอากาศหายใจ อ่อนแรงจากการเสียเลือด อีกทั้งฤทธิ์ยาในร่างกายกำลังออกฤทธิ์อย่างรุนแรง
เซียวลิ่งเยว่ดิ้นรนขัดขืน“ปล่อย….ปล่อยนะ!”
เตียงที่โปรยปรายไปด้วยดอกไม้ ของมงคลต่างๆกระจัดกระจายหล่นลงบนพื้นเพราะนางดิ้นรนขัดขืน
“ท่านอ๋อง…..”พ่อบ้านและคนอื่นๆที่อยู่ด้านนอกได้ยินการเคลื่อนไหวด้านในต่างทำตัวไม่ถูก
“หุบปาก ไสหัวไปให้หมด!”จ้านเป่ยหานตะคอกด้วยความเดือดดาล
ด้านนอกเงียบลง คนต่างออกไปหมดแล้ว
ด้านในห้องหออันโอ่อ่า เหลือเพียงแค่ชายหญิงคู่หนึ่งที่ยังไม่ทันได้กราบไหว้ฟ้าดิน
เจ้าบ่าวบีบคอเจ้าสาว แววตาอำมหิต พูดอย่างไร้เยื่อใยว่า“เซียวลิ่งเยว่ คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าฆ่าตัวตายบนเกี้ยวของข้า ! เจ้าอยากตายขนาดนี้ ข้าจะทำให้สมความปรารถนาของเจ้าเดี๋ยวนี้!”
“อือ…..”
เซียวลิ่งเยว่ถูกบีบคอจนหายใจไม่ออก ข้างหน้ามืดมน ไม่สามารถเปล่งวาจาอะไรออกมาได้เลย
นิ้วทั้งห้าของจ้านเป่ยหานบีบแน่น
ผู้ชายสารเลวคนนี้…..เขาคิดจะบีบให้นางตายคามือจริงๆ!
เซียวลิ่งเยว่กลั้นหายใจเฮือกสุดท้ายควานหาไหล่ของเขา และกวาดไปที่ลำคอ ตอนที่จ้านเป่ยหานยังไม่ได้สติกลับมา นางได้หาจุดตามเส้นลมปราณเรียบร้อย จากนั้นก็ออกแรงโจมตี!
จ้านเป่ยหานตัวสั่นเทิ้ม เขาถูกกดจุดจนล้มทั้งยืน
“แค็กๆๆ!”เซียวลิ่งเยว่พยายามดิ้นรนออกจากการเกาะกุมของเขา นางตะแคงไปอีกด้านพร้อมกับกุมลำคอไอออกมา
นางเกือบขาดอากาศหายใจตายแล้ว
“เซียวลิ่งเยว่ เจ้ากล้าซุ่มโจมตีข้าหรือ? !”เสียงเดือดดาลเล็ดรอดไรฟันออกมา
เซียวลิ่งเยว่หันกลับไปมอง นางเห็นใบหน้าหล่อเหลาของจ้านเป่ยหานเย็นชา น่ากลัวเป็นอย่างมาก
นางทั้งโมโหทั้งตลก พูดว่า“ท่านอ๋องอยากจะสังหารหม่อมฉัน ทำไมหม่อมฉันจะไม่กล้าลอบทำร้ายท่านอ๋องล่ะเพคะ?”
เพราะเกือบถูกบีบคอตาย ลำคอนางบาดเจ็บ น้ำเสียงของนางจึงแหบพร่า ฟังดูแล้วมีเสน่ห์เย้ายวนอย่างแปลกประหลาด
“เจ้า!”จ้านเป่ยหานโมโหกัดฟันกรอด“เจ้าเป็นคุณหนูไร้สาระไปวันๆ เจ้าไปฝึกเรียกสะกดจุดมาจากไหนกัน?”
การสะกดจุดแบบนี้หาได้น้อยแล้ว เขาใช้พลังทั้งหมดที่มีโจมตี คิดไม่ถึงเลยว่าจะสลัดไม่ออก ซ้ำยังมีความรู้สึกว่าเลือดลมปราณติดขัด กำลังภายในถูกกลืนกินด้วย
“หม่อมฉันแนะนำเลยนะเพคะ ท่านอ๋องเก็บแรงไว้บ้างก็ดี การสะกดแบบนี้ ถ้าหม่อมฉันไม่คลาย ชาตินี้หากท่านอ๋องคิดจะคลาย…..โอ๊ย!”
เซียวลิ่งเยว่ยังพูดไม่จบ น้ำเสียงก็พลันเปลี่ยน พร้อมกับขมวดคิ้วเป็นปม
ให้ตายเถอะ……
ร่างกายนี้ไม่มีกำลังภายใน นางจะทนฤทธิ์ยานี้ไม่ไหวแล้ว!
สรรพคุณยาที่นางโดน ถ้าอยากจะขจัดพิษออกก็ไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งที่ยากคือตอนนี้ในมือของนางไม่มียาสมุนไพร ถ้าหากถอนพิษช้าล่ะก็ อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตก็ได้
นอกเหนือจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งวิธี นั่นก็คือ……
เซียวลิ่งเยว่มองไปทางจ้านเป่ยหานด้วยสายตาคลุมเครือ
“เจ้าคิดจะทำอะไร?”จ้านเป่ยหานถูกนางจ้องมองจนรู้สึกขนลุกซู่
“ท่านเคยนอนกับผู้หญิงหรือไม่?”เซียวลิ่งเยว่จ้องถาม