บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 11 การเสแสร้งของแม่ดอกบัวขาว

เหยาเซิงเหลือบมองอย่างดูแคลน เก่งเหลือเกินร้องไห้ได้ทันทีโดยที่ไม่มีอารมณ์ร่วมโดยอายุอานามขนาดนี้แล้ว ยังจะเสแสร้งเป็นเด็กๆ อยู่อีก

อ๋องคังเมื่อเห็นชายารองติงร่ำไห้ ถึงได้มีปฏิกิริยาตอบรับ สายตาขุ่นมัวจ้องมองเหยาเซิง

“เสว่มี่ เจ้ากล้าปรักปรำชายารองติงได้อย่างไรกัน นางเป็นแม่เลี้ยงของเจ้า เหตุใดถึงได้ทำนางร้องไห้กัน”

เมื่อเห็นชายารองติงร่ำไห้ พ่อของตนก็ออกนอกเรื่องไปทันที เหยาเชิงจึงได้เข้าใจแล้วว่าเหตุที่แม่ดอกไม้ขาวนี่นึกจะร้องก็ร้องในทันที เป็นเพราะไม่ได้รู้สึกทุกข์ระทมจริงๆนางหาได้สงสารหรือระทมทุกข์อะไรทั้งนั้น

เหยาเซิงหยักคิ้วหลิ่วตาด้วยความเยาะเย้ย นัยน์ตาเต็มไปความดูถูก

“ชายารองติงใช้น้ำตา เพื่อปัดการตายของสาวใช้นั่นมาให้ข้าอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นก็ช่วยร้องไห้ให้สมจริงเสียหน่อยเถอะ เห็นน้ำตาของท่าน โดยที่ไร้ความเจ็บในดวงตา และใบหน้าไม่ขยับแม้แต่นิดของท่าน นั่นหมายความว่าท่านแค่ต้องการแสร้งร้องห่มร้องไห้ให้ท่านพ่อดูก็เท่านั้น”

ทุกคนเมื่อได้ยินเหยาเซิงพูดเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองชายารองติงในอดีตไม่เคยได้สังเกต แต่ในตอนนี้กลับเป็นจริงเหมือนที่นางได้พูดไว้หยดน้ำตาที่ร่วงหล่นของชายารองติง ดวงตางดงามราวกับไม่ได้ตกแต่งใดใด เพียงแต่ภายในตานั้นกลับไร้ความรู้สึกดูปลอมเปลือกจนน่าอึดอัดใจ

ชายารองติงเมื่อถูกมองจากสายตารอบข้าง น้ำตาก็หยุดไหลในทันที ใบหน้าบางเพราะความอับอาย ดวงตาฉายแววความเกลียดชัง

คังเสี้ยเหอย่อมทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้แม่ของตนต้องมาโดนดูถูกเยี่ยงนี้ ประจวบเหมาะเห็นแววตาเหยียดหยามของ องค์รัชทายาทยามเมื่อมองไปที่แม่ของนาง สิ่งนี้มันเกี่ยวข้องกับอนาคตของเธอยิ่งนัก

ด้วยความโกรธในใจ ทำให้นางเดินไปยืนประชันหน้ากับเหยาเซิง ดวงตาจ้องเขม็ง และด่าทอด้วยความเกลียดชัง

“พี่ใหญ่ ทุกทีเจ้าก็ไม่ได้ชอบที่จะพูดอะไร แต่กับเรื่องไร้มารยาทนี่มันคนละเรื่อง วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของท่านพ่อ แต่เจ้ากลับมาช้า แม่ข้าจึงเป็นกังวล ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเจ้าหรือไม่แต่เจ้าทั้งฆ่าคน ทั้งมาดูถูกแม่ของข้า แล้วเหตุใดถึงยังไม่รีบขอโทษกัน"

มุมปากเหยาเชิงโค้งขึ้น สายตาอ่อนโยนจ้องมองเด็กสาวที่อยู่เบื้องหน้าอย่างขำขัน “ข้าทำอะไรผิด เหตุใดถึงต้องขอโทษกัน”

คังเสี้ยเหอเบิกตาโต มองเด็กสาวเบื้องหน้าที่กำลังยิ้มแย้มสดใส หากไม่ใช่ว่ารูปลักษณ์ยังคงเช่นเดิม นางคงคิดว่านี่คือคนละคนเป็นแน่

เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนั้น ก็รู้สึกเกลียดจนอยากจะยื่นมือไปตบให้ เหมือนในอดีต แต่ท่านพ่อกับองค์รัชทายาทอยู่ที่นี่ นางจึงทำอะไรมากไม่ได้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา ยื่นมือไปดึงแขนเสื้อของเหยาเซิงไว้ แล้วชี้ไปที่หัวเข่า ขบกรามแน่นก่อนจะกล่าว

“เจ้าคนชั่ว ยังไม่รีบคุกเข่าขอขมาท่านแม่ข้าอีก” คำว่าคนชั่วที่หลุดออกจากปากมา

ดวงตาที่อ่อนโยนของเหยาเซิงแปรเปลี่ยน เป็นเย็นชาในทันที ใช้ข้อศอกสะบัดมือของคังเสี้ยเหอจนทำให้ แขนขวาของนางหลุดไป

“โอ๊ย”

คังเสี้ยเหอร้องเสียงดัง พร้อมถอยหลังไปสามก้าว ก่อนจะจับแขนของตัวเองแล้วร้องเสียงดัง

“ท่านพ่อ ท่านดูพี่สาวสิเจ้าคะ ข้าเพียงแค่อยากให้นางพูดขอโทษเพียง เท่านั้น แต่นางกลับจะหักแขนของข้า"

อ๋องคังที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกนางไม่ได้ เห็นโดยแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างบุตรีทั้งสอง มองคังเสี้ยเหอที่จับแขนของตัวเองอยู่ก็หน้านิ่วคิ้วขมวด

“เสว่มี่ไม่ได้มีวรยุทธ จะไปหักแขนของเจ้าได้เยี่ยงไรกัน” คังเสี้ยเหอยังคงส่ายแขนไปมา ยื่นไปเบื้องหน้าอ๋องคัง มุ่ยปากลงพร้อมบ่นอุบ “ท่านพ่อดูสิเจ้าคะ มันเจ็บเหมือนจะตายเลย ท่านพ่อ...”

นางเพียงยกแขนขึ้นเท่านั้น เมื่อเห็นสายตาโกรธเกรี้ยวของท่านอ๋องคัง ดวงตาโตมองชายสูงวัยเบื้องหน้า นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

เพราะคังเสี้ยเหอเริ่มรับรู้ ว่าแต่เดิมนางไม่มีแรงแม้แต่จะยกแขน แต่มันไม่ใช่เรื่องจริง นอกจากอาการเจ็บเล็กน้อย ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกไปทั้งนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel