บท
ตั้งค่า

8 รักษาแผลใจที่ทะเล

“นังเพื่อนเลว มันทำยังงี้กับเธอได้ไง”

เสียงเกรี้ยวกราดจาก สาวผิวคล้ำ หน้าตาคมขำ อายุไล่เลี่ยกับอรนลิน สิ่งที่บ่งบอกว่าเธอไม่พอใจก็คือ ดวงตาวาว ปากกับจมูกย่นเข้าหากันจนเกือบชิด อรนลินรู้ว่าเมษาเจ็บแค้นแทนเธอที่ถูกพุทธิตาทรยศ จึงได้แต่ยิ้มบางๆ ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ใจสุดแสนบอบช้ำ

“ช่างมันเถอะ เราพยายามที่จะลืม ไม่นึกถึงอีก ในเมื่อพวกเขาชอบอย่างนั้นก็ปล่อยให้เสพสุขกันซะให้พอ ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป”

“ถ้ามันไปนอนกับผู้ชายคนอื่น เราจะไม่ด่าแม้แต่คำเดียว นี่อะไร รู้กระทั่งรู้ว่าภูเป็นแฟนของเธอ จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ยังกล้าไปแบให้เขา มันอดอยาก ยากไร้ถึงขนาดหักหลังเพื่อนเลยเหรอ หรือว่าร่านจัดจนหาที่ลงไม่ได้ เจอภูก็เลยซั่มกันซะ”

เมษาเป็นคนกล้า ไม่กลัวใคร ปากร้าย แต่ใจดี เป็นเพื่อนร่วมคณะสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน และรู้จักพุทธิตาเป็นอย่างดี หลังจากเรียนจบเธอมาทำงานฝ่ายบัญชีอยู่ที่ พัทยา บีช แอนด์ ซี นานๆ ครั้งถึงจะกลับเข้าไปสังสรรค์กับเพื่อนที่กรุงเทพฯ

อรนลินต้องการหาที่สงบจึงแวะมาหาเมษา และเล่าความทุกข์ให้ฟังจนหมดสิ้น ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ เมษาด่าพุทธิตาเสียยับเยิน

“เขาอาจจะเกิดมาคู่กันก็ได้”

“ผีเน่ากับโรงผุน่ะสิ ตอนเรียนแม่นี่ก็ไม่มีทีท่าว่าเป็นคนร่านสวาทเลย ทำไม๊ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้ กินแฟนเพื่อนได้ลงคอ ไม่นึกถึงบาปบุญเล้ย”

“เอาเถอะ เอาเถอะเมษา เราไม่อยากได้ยินชื่อสองคนนี่ให้เสนียดหูอีกต่อไป เราต้องการบ้านพักหลังเล็กๆ บรรยากาศเงียบๆ ตั้งใจจะอยู่สักเดือน เธอพอจะหาให้เราได้ไหม”

“มาอยู่เพื่อทำใจงั้นเถอะ”

“ยังงั้นแหละ ถ้าขืนอยู่ที่กรุงเทพฯ สุขภาพจิตเราคงแย่ ภูจะต้องตามมากวนใจบ่อยๆ”

“สันดานผู้ชายทำตัวเป็นหมาสองราง จะเอาไว้ทั้งสองคน ว่าจะไม่พูดหยาบแล้วเชียว แต่พฤติกรรมของไอ้อีทั้งสองคนนี่ ทำให้เราอดใจเอาไว้ไม่ไหว อย่าให้เจอหน้านังตานะ ไม่งั้นเราจะบอกมันว่าถ้าอยากจนทนไม่ไหวก็ไปรูดกับเสาไฟฟ้าซะ”

เมษายังคงด่าพุทธิตาอย่างมันปาก ซึ่งก็ทำให้อรนลินใจแป้ว กลัวว่ามีคนผ่านมาได้ยินจะมองเมษาว่าเป็นคนไม่ดี ปากคอเราะร้ายชอบพูดหยาบคาย จึงตัดบทถามเกี่ยวกับเรื่องที่พักต่อ

“ว่าไง มีบ้านหลังเล็กๆ สำหรับพักคนเดียวให้เราสักหลังไหม”

“อุ๊ยตาย! ขอโทษจ้ะ ของกำลังขึ้น ตอนนี้ลดระดับอาการปรี๊ดลงมามาแล้ว และเข้าสู่โหมดอารมณ์ปกติแล้วล่ะ บ้านหลังเล็กๆ มีจ้ะ อยู่ห่างออกไปจากโรงแรมทางซ้ายมือ ซึ่งตรงข้ามกับทะเล มีถนนกั้นตรงกลาง เงียบสงบ คนไม่พลุกพล่าน เธอจองหลังนึงใช่ไหม”

“ใช่ เราจะอยู่เดือนนึง”

“โอ มายก๊อดเพื่อนรัก ดีมากๆ เลย เราจะได้มีเพื่อนกินข้าว เพื่อนคุย เอายังงี้ เราจะช่วยพูดกับผู้จัดการให้ลดราคาค่าเช่าลง เพราะเธออยู่นาน และที่สำคัญเป็นเพื่อนเราด้วย รับรองว่าได้ในราคาพิเศษกว่าคนอื่น”

“ขอบใจเธอมากเลยนะเมษา เธอคือเพื่อนแท้ในยามที่เราทุกข์”

หญิงสาวซาบซึ้งต่อความปรารถนาดีของเมษา ยื่นมือเข้ามาช่วยในช่วงที่ไม่มีใคร เหมือนลอยคออยู่กลางทะเลกำลังบ้าคลั่ง ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดหรือไม่

“ไม่เป็นไร เราเป็นเพื่อนกัน เอาล่ะรอสักครู่ เราจะไปถามผู้จัดการที่ห้องทำงานก่อนนะ”

“จ้ะ ตามสบาย”

ความทุกข์ที่สุมอยู่ในอกถูกปลดออกไป เรื่องที่พักจึงไม่มีปัญหา เมื่อรู้ว่าจะต้องได้อยู่ที่นี่แน่นอน และจ่ายในราคาพิเศษ เธอไม่ใช่คนรวย เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา ยึดอาชีพเขียนนวนิยายเพียงอย่างเดียว เงินที่ได้มาเก็บเอาไว้ แล้วนำออกมาใช้ในช่วงที่ผลงานยังไม่ออกตีพิมพ์ การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจึงไม่ฟุ่มเฟือย ซื้อของเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ทั้งที่ความจริงแล้วพ่อแม่ของเธอ ที่อยู่ต่างจังหวัด เป็นเจ้าของโรงสีข้าว ฐานะร่ำรวย แต่เธอไม่เคยขอเงินจากท่านแม้แต่บาทเดียว นอกจากรถเก๋งที่พ่อซื้อให้เนื่องในโอกาสเรียนจบระดับปริญญาตรี และหวังว่าเธอจะกลับไปอยู่บ้านถ้าหากว่าเงินไม่พอใช้

แต่จนแล้วจนรอดหญิงสาวยังคงต่อสู้ด้วยลำแข้งตัวเอง ยึดหลักรู้จักกิน รู้จักใช้ เมื่อรู้จักกับภูดิสซึ่งยึดอาชีพทำร้านประดับยนต์ มีรายได้ดีพอสมควร มีเงินพอที่จะแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่ทุกอย่างจบลงเพราะกิเลสตัณหาเพียงอย่างเดียว หญิงสาวนึกมาถึงตรงนี้ น้ำตาเริ่มไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด

“เรียบร้อยแล้วจ้ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel