ตอน 5
“พระคู่หมั้นของท่านพี่ล่ะ ไม่บอกเธอเสียหน่อยรึ”
“เจ้าก็รู้เนมเฟร์เธอคือข้อตกลงทางการเมือง พี่ไม่เคยนึกต้องการจะสมรสกับเธอแม้แต่น้อย สำหรับพี่เธอคือน้องสาว”
“เธอรู้คงเสียใจแย่”
เจ้าหญิงนีลาร์ คือเจ้าหญิงจากหัวเมืองทางตะวันออก ญาติห่างทางสายเลือด แทบจะไม่มีเชื้อสายเดียวกันด้วยซ้ำ บิดาของเธอคือผู้ปกครองมณฑลทางตะวันออก เมื่อเจ้าชายคีนอฟได้ขึ้นดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาท พระบิดาและพระมารดาจึงสรรหาคู่หมั้นคู่หมายเพื่อจะให้อภิเษกขึ้นเป็นราชินี คู่บัลลังก์ร่วมกับเจ้าชายคีนอฟ
แม้จะได้รับการคัดค้านจากคีนอฟก็ตาม เพราะเขาเคยเห็นเจ้าหญิงนีลาร์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ วิ่งเล่นด้วยกัน เอ็นดูเหมือนน้องสาว อยู่ในวงค์เครือญาติเดียวกันแม้จะห่างออกไปพอสมควร คราวนี้เขากลับต้องหมั้นกับเธอ เพื่อเหตุผลทางบ้านเมือง เนื่องจากเขาเองไม่ยอมหาคู่ครองด้วยตัวเอง ผู้หญิงมากมายจากสกุลดังถูกพาเข้ามาให้เจ้าชายเลือก ทั้งงดงาม ทั้งพร้อมไปด้วยความสามารถ เจ้าชายยังปฏิเสธไม่เลือกหญิงงามนางใดสักคน แต่ยังไงธรรมเนียมย่อมเป็นธรรมเนียม องค์รัชยายาทจะขึ้นครองบัลลังก์โดยไร้ราชินีนั้นไม่ได้
“พี่ฝากเจ้าดูแลเธอหน่อยแล้วกัน วัยใกล้กันน่าจะเข้าใจกันดี เจ้าน่าจะรู้นะเนมเฟร์ว่าพี่คิดกับเธอยังไง” คีนอฟรู้ดีว่าน้องชายของตนชอบพอเจ้าหญิงนีลาร์ แต่เพราะเธอต้องก้าวขึ้นมาเป็นราชินีของเขาตามคำสั่งของผู้ใหญ่ ทั้งเจ้าหญิงนีลาร์เอง รวมทั้งเจ้าชายเนมเฟร์จึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก บวกกับเจ้าเนมเฟร์เอง ขึ้นชื่อว่าเจ้าสำราญ เพลย์บอย เปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้า เจ้าหญิงนีลาร์เมื่อต้องหมั้นกับเจ้าชายคีนอฟ จึงต้องตัดใจจากเจ้าชายเนมเฟร์ก่อนจะเผลอใจให้เขามากกว่านี้
“อย่าบอกนะว่าการเดินทางครั้งนี้ ท่านพี่ตั้งใจจะเสาะหาราชินีด้วยตัวเอง”
“แค่ไปเที่ยวและแวะเยี่ยมสหายน่ะ ไม่เจอกันนาน หากโชคดีพี่อาจได้พบกับว่าที่ราชินี ถ้าดวงของพี่ไม่ดีเอาซะเลย คงต้องกลับมารับหน้าที่ตามพระราชบัญชาต่อไป” ใบหน้างดงามของเจ้าชายรัชทายาทเปื้อนความเศร้าหมอง เมื่อนึกถึงชะตากรรมของตัวเองก่อนขึ้นครองบัลลังก์ เจ้าชายคีนอฟทรงมีความงดงาม องอาจ เต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นผู้นำ
ใบหน้าคมคายหาที่ติแทบมิได้ ดวงหน้าดั่งภาพเขียนในจินตนาการของจิตรกรเลื่องชื่อ รูปร่างบึกบึน สูงล่ำ สมส่วน หาชายใดในสามภพเปรียบปราน มีผู้หญิงทั้งในเมืองและนอกเมือง รวมทั้งเมืองต่างๆ สมยอมพร้อมใจจะก้าวเข้ามาให้พระองค์ทรงเลือกเพื่อเป็นราชินี หรือเป็นแค่นางสนองพระโอษฐ์ก็ยังดี แต่เขาหาสนใจนางพวกนั้นไม่ ถึงแม้จะเข้ามาอยู่ในราชวังอันงดงามตรงวังหลัง เพื่อการถวายตัว
“ท่านพี่ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงเรื่องทางนี้ ลืมแล้วหรือว่าน้องชายผู้นี้มีฝีมือไม่เลวเหมือนกัน อีกอย่างบ้านเมืองเราอยู่กันอย่างสงบมานานแสนนานตั้งแต่ท่านพ่อทรงขึ้นครองราช” คำกล่าวของเจ้าชายเนมเฟร์นับว่าถูกต้องทุกประการ
“พี่วางใจเจ้าได้ใช้หรือไม่ เนมเฟร์” มือหนายกขึ้นแตะไหล่หนาของอีกฝ่าย เพื่อถามความมั่นใจ
“แน่นอนท่านพี่” อีกฝ่ายตอบกลับด้วยใบหน้าจริงจัง แวววาวดั่งจะให้สัญญาจะดูแลความเรียบร้อยในพระราชวัง รวมถึงเก็บความลับการเดินทางเยือนเมืองไทยของพี่ชายให้มิดชิด
“รวมทั้งเจ้าหญิงนีลาร์ด้วยใช่หรือไม่” ผู้เป็นพี่ชายถามด้วยรู้ความในใจน้องชาย เขาทั้งคู่สนิทกันรักกันกว่าพี่น้องคนอื่นๆ เพราะยังมีน้องสาวต่างมารดาอีกสองคน ซึ่งสมรสแยกย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ก็ไม่ห่างจากพระราชวังหลวงนัก คือเจ้าหญิงโนอา กับเจ้าหญิงเฟียซาน ทั้งเจ้าชายคีนอฟและเจ้าชายเนมเฟร์ไม่ค่อยสนิทนัก ทว่าด้วยเชื้อสายเดียวกันจึงรักในฐานะพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันเท่านั้น
“งั้นพี่ขอไปเตรียมตัว”
“ว่าแต่ท่านพี่ไม่ได้บอกกำหนดการเดินทางกับกระหม่อมเลยนะพ่ะย่ะค่ะ” อีกฝ่ายต้องการทราบกำหนดการแน่นอนในการเดินทางของพี่ชาย เขาจะได้เตรียมการอะไรบางอย่างได้
“เจ้าต้องได้รู้ ย้ำแค่ว่าห้ามแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ท่านพ่อรู้เด็ดขาด แม้แต่ท่านแม่ด้วย”
“แน่นอนท่านพี่ ท่านพี่กับกระหม่อมย่อมรักษาคำมั่นต่อกันไม่ว่าเวลาจะผ่านพ้นไปแค่ไหน” เจ้าชายเนมเฟร์ยอมรับทุกครั้งว่าเจ้าชายคีนอฟ คือพี่ชายแสนดี เขารักมากและเทิดทูนหากบางครั้งผลประโยชน์อาจจะต้องมาก่อนความรักก็ตาม เขาอาจจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามไม่ต่างอะไรกับพี่ชาย แต่ในแววตาแฝงนัยบางอย่างช่างไม่มีผู้ใดอ่านความหมายในนั้นออกแม้แต่ผู้เดียว
“อ้อ อย่าลืมพาว่าที่ราชินีกลับมาด้วยนะพ่ะย่ะค่ะท่านพี่”
“เรื่องนั้นเป็นเรื่องของอนาคต พี่คงกำหนดไม่ได้ อีกอย่างถึงพี่พบหญิงถูกใจใช่ว่าจะได้แต่ง ตามธรรมเนียมปาราคัส” เขาอยากทุบธรรมเนียมนั้นทิ้งนัก
เจ้าชายคีนอฟผละจากน้องชายไปยังพระตำหนักส่วนพระองค์ ทั้งคู่สนทนากันอยู่ในอุทยานต้องห้าม พื้นที่ในเขตราชวังชั้นใน ห้ามบุคคลภายนอกเข้าหรือรบกวน เว้นเสียแต่จะได้รับอนุญาต ที่ผ่านมานั้นก็ไม่มีบุคคลภายนอกได้รับอนุญาตเลยแม้แต่ผู้เดียว ยังคงมีแค่ พระชารา พระราชินี และราชวงศ์ ภายในอุทยานต้องห้ามมีไม้ดอก พันธุ์ไม้นานาชนิด ทะเลสาบน้ำจืดปิดใสสะอาด มีขนาดใหญ่สามารถลงอาบได้สบายๆ เพื่อผ่อนคลาย มีน้ำใสตลอดทั้งปี รวมทั้งน้ำพุร้อน และสิ่งให้ความสำราญมากมาย
คีนอฟมักพาตัวเองมาพักผ่อนคลายความหนักอึ้งในสมอง อุทธยานแห่งนี้บ่อยๆ ทว่าวันนี้เขากลับได้น้องชายติดสอยห้อยตามมาคุยธุระด้วยอีกอย่างเขามักแอบมาฝึกซ้อมฝีมือทั้งยิงปืน ฟันดาบ กับองค์รักคนสนิทประจำ
เจ้าชายเนมเฟร์ก้าวออกจาก อุทยานต้องห้าม เดินมาตามทางแวดล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้ตลอดแนว เพื่อกลับพระตำหนักส่วนพระองค์เช่นกัน เขามองหาร่างสูง บึกบึนพี่ชาย จนลับตาหลักจากแยกทางกัน
“คอนเต” เสียงทุ้มเรียกขานองครักษ์ส่วนพระองค์ซึ่งกำลังพักผ่อนนอกเวลางานอยู่ในเรือนพัก อีกฝ่ายเมื่อรู้ว่าใครมาถึงเรือนพัก จึงรีบเด้งตัวจากที่นั่งประจำ
“เจ้าชายเนมเฟร์ เสด็จมาถึงเรือนพักของกระหม่อมด้วยเรื่องอันใดพ่ะย่ะค่ะ” คอนเตโค้งคำนับตามธรรมเนียมปาราคัส
“มีงานให้ทำ ตามองค์รัชทายาทไปยังเมืองไทย”
“หมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าไม่รู้ความต้องการของเราหรือแกล้งไม่รู้กันแน่คอนเต” เจ้าชายเนมเฟร์หน้านิ่ว คิ้วมุ่น ปกติคอนเตจะรู้ใจเขาไปซะทุกอย่างแค่เอ่ยปากเท่านั้น
“กระหม่อมทราบพ่ะย่ะค่ะ”
“อีกไม่กี่วันท่านพี่คีนอฟจะทรงเสด็จไปเยือนเมืองไทยอย่างลับๆ สั่งให้เราปิดแม้กระทั่งท่านพ่อกับท่านแม่ เจ้าจะต้องจับตาดูให้ดีว่าท่านพี่เดินทางเมื่อไหร่ รีบรายงานเราทุกฝีก้าว” สั่งองครักษ์คนสนิทเสียงเข้ม เขามุ่งมั่นจะทำบางสิ่งบางอย่าง
“พ่ะย่ะค่ะ” คอนเตน้อมรับ เขารู้แผนการและความต้องการของเจ้าชายเนมเฟร์มาตลอด แม้รู้ว่าไม่ถูกต้อง แต่เนื่องจากเขาถูกมอบให้แต่งตั้งให้ทำหน้าที่องครักษ์ของเจ้าชายเนมเฟร์ ชีวิตนี้จึงต้องอุทิศให้กับเจ้าชายเนมเฟร์
“หน้าที่ของเจ้าคือ ติดตามท่านพี่อย่าให้คลาดสายตา ติดต่อรายงานเราเป็นระยะ ย้ำอย่าให้คลาดสายตา” ชี้หน่าอีกฝ่ายเพื่อย้ำคำสั่ง เขาจะพลาดไม่ได้ โอกาสมาถึงแล้ว แหงนมองไปเบื้องหน้า ไม่คิดเลยโอกาสจะมาถึงไวขนาดนี้ เขาได้แต่หวัง บัดนี้ความหวังเริ่มส่อแววความจริง
“พระองค์ทรงทำเช่นนั้นเพราะอะไรพ่ะย่ะค่ะ” คอนเตเคยเสียมารยาทเตือนสิ่งที่เจ้าชายเนมเฟร์คิดจะทำแล้วครั้งหนึ่ง แต่ถูกหาว่าไม่ฝักใฝ่เห็นคนอื่นดีกว่าพระองค์
“เจ้าอย่าเพิ่งถาม แค่ทำตามคำสั่งของเราเท่านั้นเป็นพอ เพราะเจ้านั้นคือองครักษ์ประจำตัวของเรา เรานั้นไว้ใจที่สุด จริงมั้ยคอนเต” คำถามท้ายประโยคเล่นเอาองครักษ์ผู้มีฝีมือถึงกับร้อนๆ หนาวๆ กับสายตาเหี้ยมเกรียมส่งผ่านมาให้ เจ้าชายเนมเฟร์คิดจะทำการอันใดทำไมเขาจะไม่รู้ นั้นล่ะคือสิ่งที่ทำให้เขาคิดหนัก ราชบัลลังก์จะต้องร้อนเป็นไฟหรืออย่างไร ประวัติศาสตร์ปาราคัสนั้นไม่เคยจารึกเสียด้วยสิ