ตอน 2
“เฮ้อ !!” หญิงสาวถอนหายใจ ขณะพาตัวเองกลับบ้าน คืนนี้คงเป็นคืนแรกสำหรับเธอจะได้พักหรือนอนให้สบายใจ ก่อนจะจัดการเรื่องหนักอึ้งพวกนั้น...เธอบอกตัวเองให้อาบน้ำ เข้านอน ไม่ต้องคิดอะไร อย่างน้อยเธอก็ได้รู้ในสิ่งที่เพื่อนรักเตือน “ขอบใจนายยุทธ” เธอนึกถึงเพื่อนสนิทคนหนึ่งได้ออกปากเตือนเธอเรื่องหุ้นส่วน โดยเฉพาะเรื่องความใจดี ความไว้เนื้อเชื่อใจ เธอเคยค้านหมอจอมยุทธหลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้
รุ่งเช้าพิรวีรีบไปพบหมอจอมยุทธยังโรงพยาบาล ชายหนุ่มทำงานเป็นศัลยแพทย์ฝีมือเยี่ยม
“เฮ้อ เป็นจริงอย่างที่แกว่าจริงๆ ไอ้หมอ” เมื่อคืนแม้พิรวี จะพยายามข่มตาให้หลับ ทว่าเธอนั้นไม่สามารถทำสิ่งที่เรียกว่านอนหลับให้เป็นผลสำเร็จ เช้านี้ ร่างบางสมส่วน ใบหน้าอิดโรยของเธอ จึงมานั่งจมแป๊กอยู่ต่อหน้าหมอจอมยุทธ นายแพทย์ศัลยแพทย์ฝีมือดี เพื่อนรักของพิรวี นักธรุกิจสาวสวยนั่งถอนหายใจต่อหน้าชายหนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า
“หมายความว่ายังไงรวี”
“ยัยเพื่อนรักของฉันน่ะสิ เล่นฉันแล้ว”
“ยังไง อธิบายให้ฉันฟังหน่อยสิ”
“ฉันไม่แน่ใจนัก”
“ไม่แน่ใจ อะไรที่ทำให้เธอคิดว่าเพื่อนรักของเธอเล่นเธอล่ะ ยัยบอส ผู้บริหารสูงสุดแห่ง พิรวี คอฟฟี่” หมอหนุ่มเงยหน้าจากเอกสาร การตรวจร่างกายคนไข้ตรงหน้า เขาต้องวิเคราะห์คนไข้เคสนี้อย่างหนัก เพราะต้องผ่าตัดหัวใจ สำคัญมากๆ แต่พอหญิงสาวเอ่ยเรื่องหนักใจให้ฟัง เขาจึงต้องเงยหน้าจากแฟ้มตรวจหนาตึกบนโต๊ะ
“ฉันยังจับไม่ได้คาหนังคาเขาหรอก แต่ได้หลักฐานหลายชิ้น” หญิงสาวยกถ้วยกาแฟกระดาษ ร้านสะดวกซื้อชั้นล่างของตึกศัลยกรรมขึ้นจรดริมฝีปากดื่มเสียงดังอึก แล้วค่อยๆ วางลงกับโต๊ะทำงานของเพื่อน
“นี่เธอ เธอไม่ได้ไปจับชู้สาวนะ จะจับให้ได้คาหนังคาเขา”
“อย่ายั่วฉัน ไอ้หมอ”
“โทษที แค่ฉันอยากให้แกสบายใจน่ะรวี” หมอหนุ่มคลี่ยิ้ม เขาเป็นคนเตือนพิรวีเองให้ระวังเรื่องการไว้ใจใครสักคน เขาสงสัยหุ้นส่วนของหญิงสาว เพราะในเวลาที่พิรวียุ่งอยู่กับการทำงาน แต่เขากลับพบช่อชบากับผู้ชายของเธอเดินเที่ยวสบายใจ ขณะเขาเดินทางไปดูงานยังอิตาลี ช่างบังเอิญ
“ฉันพบอะไรผิดปกติหลายอย่าง”
“อะไรบ้างล่ะ”
“นี่ไง” เอกสารเบิกจ่าย หญิงสาวหยิบติดมือมาหนึ่งแผ่น ตอนออกจากห้องทำงานตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อจะหาทางพิสูจน์และเอาผิดคนบังอาจปลอมลายเซ็นอันทรงเกียรติของเธอ รายการสั่งซื้ออุปกรณ์หลายรายการในเอกสาร ถูกยื่นมาตรงหน้าหมอหนุ่มผู้หล่อเหลา สาวๆ หลงใหลทั้งโรงพยาบาลและทั้งมหาวิทยาลัย
“คืออะไร” หมอหนุ่มกวาดตาสำรวจรายการสั่งซื้อคร่าวๆ ร่วมสิบรายการ “ตรงไหนบอกว่าผิดสังเกต” เพราะความเป็นหมอไม่ใช่นักธุรกิจ จะมองตัวเลขปราดเดียวรู้ได้ทันที จึงขอความกระจ่างจากหญิงสาว แม่นักธุรกิจมือหนึ่ง
“ดูที่ลายเซ็นสิ” นิ้วเรียวจิ้มลงไปตรงลายเซ็นผู้มีอำนาจอนุมัติ
“ลายเซ็น” คิ้วมุ่นมองตามนิ้วเรียว
“อืม” เธอส่งสายตา พยักหน้าบอกเพื่อน
“ลายเซ็นเธอไงยัยรวี”
“แน่ใจหรือ ดูให้ดีสิ แกเป็นเพื่อนฉันตั้งแต่ประถม แม้เราจะแยกกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่ยังไงเราก็เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน แค่ต่างคณะ แกกับฉันขอแค่อ้าปากน่าจะเห็นไปถึงตับ ดูไม่ออกเลยหรือว่าลายเซ็นนั้นมันของฉันหรือไม่” การพยายามสาธยายความสัมพันธ์ยาวนาน เตือนสติให้หมอจอมยุทธใช้สายตาภายใต้กรอบแว่นสายตาเอกลักษณ์ความเป็นหมอผ่าตัด นั้นให้พิจารณาความเป็นจริงอีกนิด
“แน่นอน ลายเซ็นนี้ไม่ใช่ของแก” หลังจากพิจารณาด้วยสายตาผ่านแว่นสายตา หมอจอมยุทธจึงพบความแตกต่าง ตรงจุดบกพร่องของลายเซ็นในช่องผู้มีอำนาจนั้นถนัดตา
“เจ๋งมาก ขอบคุณที่ยังจำลายเซ็นของฉันได้ ไม่เสียแรงเป็นเพื่อนรักกันมานาน ถ้าจับผิดไม่ได้ ฉันตัดแกออกจากความเป็นเพื่อนยาวนานแน่ไอ้หมอ” หญิงสาวยิ้มบางกับเพื่อนเก่าแก่
“จะเอายังไงต่อ”
“จับให้มั่นคั้นให้ตาย” พิรวีทำท่ากำมือ เหมือนกำลังจะบีบลูกเจี๊ยบ
“แกจะมีโอกาสนั้นหรือรวี”
“แกคงไม่ปล่อยให้คนสวยอย่างฉันทำงานนี้คนเดียวหรอกนะ ไอ้หมอ ช่วยกันบ้างสิ” พิรวีก้มหน้าสวยเข้าใกล้ หมอหนุ่ม เขาเบี่ยงหน้าหลบ
“ฉันมีคนไข้ต้องดูแล อีกสองเดือนฉันต้องไปดูงานต่อยังอเมริกา อาจจะต้องยาวไปถึงอิตาลี ก่อนหน้านั้นอาจจะช่วยได้ แต่ถ้าหลังจากนั้น ฉันคิดว่าแกต้องช่วยตัวเองในฐานะผู้บริหารมือหนึ่ง ถ้ามันมากมายนักไปเรียนต่อสู้เลยน่าจะดีว่ะ” ท้ายประโยคแค่ล้อเล่น เพราะเรื่องยุ่งยากเกี่ยวกับเงินทอง หากจับได้ มีหลักฐานพร้อม คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจ และขั้นตอนของศาลหากต้องฟ้องร้องกันจริงๆ
“คิวยาวซะ อย่างกับพวกดาราดัง”
“ฉันน่ะหมอนะเว้ย”
“อืม ฉันคิดว่าแกเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ รวมถึงบอดี้การ์ดแสนดี สุดหล่อ ให้กับฉันซะอีก” หญิงสาวพยายามป้อยอ รู้ทั้งรู้ว่าหมอจอมยุทธไม่ใช่คนหลงคำยอ เขาทำงานซื่อตรง หนักแน่น เก่ง ฉลาด สุขุม ใจดี มีน้ำใจ สุภาพบุรุษ รวมทุกอย่างคือหมอจอมยุทธ
“พูดแบบนี้ฉันก็เขินน่ะสิรวี” มือหนายกลูบท้ายทอยตัวเองไล่ความเขิน
สองหนุ่มสาว คือเพื่อนรักกันนานแสนนาน เรียกได้ว่าตั้งแต่เด็ก เริ่มเรียนอนุบาล ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย แม้ในระดับมหาวิทยาลัยจะแยกจากกัน เพราะสนใจเรียนคนละคณะ หมอจอมยุทธ สอบได้คณะที่เขาชอบคือคณะแพทย์ศาสตร์
เพราะหัวดีเรียนเก่งตั้งแต่เด็กยันโต ส่วนพิรวี พวกหัวปานกลาง เลือกสอบคณะบริหารธุรกิจ ทั้งคู่แยกย้านกัน แต่ความแน่นแฟ้นฉันเพื่อนไม่ทำให้ทั้งคู่ห่างกัน แม้จะต้องเรียนหนักในทางการแพทย์ มีบางครั้งต้องห่างกัน แต่ยังหาโอกาสเดินทางกลับบ้านพร้อมกันบ้างหลังเลิกเรียน
หากวันใดต้องทำกิจกรรมในคณะของตัวเอง จะต่างคนต่างกลับ กระทั่งทุกวันนี้ทั้งคู่ต่างมีหน้าที่การงาน จำเป็นต้องแยกย้าย เพื่อไปเรียนในระดับสูงขึ้น ปริญญาโท พิรวีเรียนมหาวทิยาลัยเดิม ทำให้ช่อชบาเข้ามาแทนที่หมอจอมยุทธ เพราะหมอจอมยุทธต้องเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ เฉพาะด้านในสาขาเดียวกัน
“แกคอยดูแลปกป้องฉันในเวลาโดนพวกเด็กเกเรรังแกฉันเมื่อตอนเด็กๆ ฉันยังจำได้ไม่เคยลืม”
พิรวีหวนนึกถึง วีรกรรมของหมอจอมยุทธ ในคราวยังเป็นเด็กชายจอมยุทธ เมื่อยังเรียนชั้นประถมศึกษา พิรวีโดนรังแกจากเด็กผู้ชายอันธพาล ชอบแกล้งเด็กผู้หญิงน่ารัก ถูกดึงหางเปียบ้าง แย่งตุ๊กตาบ้าง เด็กหญิงพรวีมักจะร้องไห้ ขอให้เด็กชายจอมยุทธช่วย ฮีโร่ตัวน้อย สามารถจัดการเด็กอันธพาลพวกนั้นจนหมอบราบคาบ แต่ตัวเองก็น่วมไม่แพ้เด็กอันธพาลพวกนั้น ได้รอยฟกช้ำกลับไปฝากป้าจิราภรณ์ นับแต่นั้นมาพิรวีจึงมีจอมยุทธเป็นทั้งบอดี้การ์ดทั้งเพื่อนเคียงข้างตลอดไปไม่เคยโดนใครรังแก
ความสนิทสนมของทั้งคู่ทำให้คนรอบข้างเข้าใจว่าทั้งคู่นั้นคือคู่รัก ภาพทุกคนประจักษ์น่าจะเป็นเช่นนั้น แท้จริงแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งสองหนุ่มสาว หาได้มีจิตคิดต่อกันฉันชู้สาวไม่ ทั้งคู่เคยถามตัวเองเหมือนว่าทำไมไม่เป็นแฟนกันให้รู้แล้วรอดไป ไหนๆ ไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบพิรวีเพราะมีหมอจอมยุทธ หรือเด็กชายจอมยุทธ นายจอมยุทธ คอยคุมแจขนาดนั้น
ทั้งเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ทั้งคู่เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก หญิงสาวสวยดุจนางในวรรณคดี สง่า น่ารักไร้ที่ติ ชายหนุ่มในเมืองเชียงรายไม่มีใครไม่หลงใหลในความสวย ความน่ารัก รวมทั้งความสามารถของพิรวี แต่เมื่อนึกถึงจอมยุทธทุกคนที่คิดจะขายขนมจีบให้กับพิรวี ต้องยอมแพ้และถอยหลังทุกที ด้วยคิดว่าจอมยุทธนั้นคือคนรักของหญิงสาว