ตอน 1
โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ คิงส์ไซต์ แบบฉบับผู้บริหารสูงสุดแห่งบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกาแฟครบวงจร ทั้งในและต่างประเทศ บริษัท พิรวี คอฟฟี่ จำกัด ใบหน้าสวย งดงามราวภาพวาดของใครบางคนกำลังหมกมุ่น งุนงง อยู่กับเอกสารมากมายในแฟ้มงานต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นตัวเลขแทบทั้งสิ้น แฟ้มเอกสารมากมายถูกวางซ้อนอยู่บนโต๊ะ นี่คือสาเหตุทำให้หน้าสวยๆ ของเจ้าของโต๊ะต้องมุ่น คิ้วยับย่น ไร้ความสดใส ตัวเลขทางบัญชีซึ่งหาที่มาที่ไปไม่ได้
แต่เธอในฐานะผู้บริหารสูงสุดของ บริษัท พิรวี คอฟฟี่ จำกัด จำต้องตรวจสอบให้รู้ที่มาที่ไปนั้นให้จงได้ หญิงสาวขอให้พนักงานฝ่ายบัญชีส่งแฟ้มเอกสารทางการเงินสำหรับไตรมาสสามมาให้ยังห้องทำงานส่วนตัวเมื่อหลายวันก่อน จนป่านนี้การค้นหารายจ่ายเกิดขึ้นมากมายมหาศาล ยังไม่พบ
เพราะการหมกเม็ดของใครบางคน เธอได้รับการท้วงติงจากผู้ตรวจบัญชีถึงความผิดปกติของบัญชีรายจ่ายไม่สัมพันธ์กับรายรับ เธอและผู้ช่วยจำเป็นแต่งตั้งลับเฉพาะ รู้เพียงคนเดียว ทางด้านการบัญชี จึงต้องทำงานกันอย่างหนักในการตรวจสอบเอกสารดังกล่าว
“แก้ว ตกลงหาเจอหรือยัง” ผ่านมาหลายชั่วโมงในห้องทำงานผู้บริหารอย่างพิรวี เธอพูดคุยอยู่กับผู้ช่วย ซึ่งสละเวลาส่วนตัวมาทำงานนอกเวลากับผู้บริหาร ซึ่งมีหน้าที่หลักดูแลการตลาดเป็นส่วนใหญ่ มีเพื่อนสนิทร่วมกันจัดตั้งบริษัทขึ้นมาพร้อมกัน เธอผู้นั้นดูแลด้านการบัญชีและการเงิน เวลานี้หล่อนหายไปที่ใดสักแห่ง อาจจะมัลดีฟ หรือบาหลี หรือไม่ก็ยุโรป เนื่องจากอยู่ในช่วงลาพักร้อนประจำปี ป่านนี้คงเริงร่าอยู่ที่ประเทศไหนสักประเทศกับคนรู้ใจ
“จวนแล้วค่ะบอส” หญิงสาวร่างเล็กเงยหน้าจากกองเอกสาร เต็มไปด้วยตัวเลขตรงหน้า
“ฉันขอบใจเธอมากนะแก้ว อุตส่าห์เสียสละเวลากับงานนี้ แทนที่เธอจะได้พักผ่อน” เสียงกล่าวขอบคุณและชื่นชมในที แก่พนักงานบัญชี ระดับปฏิบัติการจากใจจริง พิรวีอาศัยช่วงเวลาพักร้อนของหุ้นส่วนคนสำคัญ เพื่อนสนิทช่อชบา กำลังเริงร่าลาพักร้อน ถือโอกาสตรวจสอบบัญชีด้วยตัวเอง ด้วยสงสัยอะไรบางอย่าง ความจริงแล้วไม่ใช่บางอย่าง มากอย่างทีเดียว ร่วมสัปดาห์เธอพบอะไรผิดปกติ แต่ขอเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับซะก่อนจะหาทางจัดการเอาผิดกับคนทำผิด
การจำหน่ายกาแฟ จากไร่ พิรวี ขายดีจนไม่มีคู่แข่งรายใดสามารถทำยอดขายแซงหน้าได้ แต่พอเข้ามาดูบัญชีในช่วงใกล้ปลายปีกลับพบว่ามีปัญหา เงินจำนวนมหาศาล ซึ่งได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกาแฟทุกประเภท ทุกชนิด หายไปอย่างไร้ร่องรอย มีหลายคนและเพื่อนสนิท รวมทั้งคนใกล้ตัวอย่างหมอจอมยุทธ เพื่อนสนิทของพิรวี เตือนให้เธอระวังหุ้นส่วนรายนี้ไว้จงหนัก แม้ว่าเธอไม่เคยระแคะระคายใจมาก่อนเลยก็ตาม คราวนี้เธอจึงใช้ช่วงเวลาปลอดโปร่งจัดการนำบัญชีหลายสิบเล่มมาตรวจสอบย้อนหลัง แน่นอนเธอพบอะไรส่อพิรุธแต่ขออุบไว้ก่อน ผู้ช่วยเธอคงจะพบมันเช่นกัน
“น่าจะผิดสังเกตตรงลายเซ็นของบอสค่ะ”
“อืม ฉันพบหลายใบเหมือนกัน”
“แต่ละใบจำนวนเงินเยอะๆ ทั้งนั้นเลยนะคะบอส”
“ใช่ ฉันขอให้เธอเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ต่อไปหากจะมีการเบิกจ่าย ส่งเอกสารพวกนี้มาให้ฉันตรวจสอบอีกทีหนึ่ง บอกทุกคนที่เกี่ยวข้องด้วย กำชับว่าเป็นคำสั่งจากฉัน ห้ามใครทำอะไรโดยพลการเด็ดขาด ฉันจะหาตัวคนทำ ซึ่งจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก...”
ความสงสัยในใจเริ่มหาจุดโฟกัสได้ เอกสารในมือหลายใบ บ่งบอกได้ส่วนหนึ่งว่ามีใครคนใดคนหนึ่งบังอาจปลอมลายเซ็นพิรวี ศุภกร หญิงสาววัยยี่สิบแปด หน้าตาผิวพรรณ รูปร่างดี ผมยาวย้อมสีสว่างให้เข้ากับยุคสมัย นัยน์ตากลมโตฉายแววมุ่งมั่น ทรงอำนาจความเป็นผู้นำ รวมความสามารถในความเป็นนักธุรกิจสาว เธอก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารสูงสุดอายุยังน้อย
พิรวีได้รับมรดกเก่าแก่สืบทอดกันมาหลายรุ่น นั่นคือไร่กาแฟเก่าแก่จากรุ่นคุณทวด มาถึงรุ่นบิดา ต่อมาถึงรุ่นเธอ หลายพันไร่อยู่ ณ เชียงราย แรกๆ ไร่นี้ไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากไร่กาแฟเก่าแก่จนเรียกได้ว่าเกือบจะรกร้าง แต่เพราะหัวนักธุรกิจและการค้า ทำให้พิรวี ศุภกร คิดต่อยอดด้วยการนำกาแฟยอดฮิต อาราบิก้า ลงปลูกในไร่ กระทั่งได้ผลผลิตดีเกิดคาด เธอส่งขายในประเทศเป็นที่นิยมทั่วไป มียอดการสั่งซื้อสั่งจองจนจัดส่งไม่ทัน ได้รับคำแนะนำให้ส่งขายต่างประเทศ
จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งบริษัท ร่วมกับเพื่อนสนิท ซึ่งรู้จักคบหารู้จักกันนานนม เธอกับช่อชบาพบกันรู้จักมักจี่กัน เมื่อตอนเรียนบริหารทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ผ่านมาทุกอย่างดำเนินการได้ดีไม่มีสะดุด พิรวี ไว้ใจให้ช่อชบาดูแลเรื่องการเงินในบริษัท ส่วนเธอ ดูแลเรื่องการตลาดและการส่งออก สิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับเธอ เมื่อหลายเดือนก่อน ยอดขายดีขึ้นตามลำดับ
แต่ทว่าเม็ดเงินควรจะได้ตามยอดขายกลับหดหาย หาที่มาที่ไปไม่ได้ กระทั่งเธอเองต้องอดหลับอดนอน ทำงานเพื่อตรวจสอบเอกสารเบิกจ่ายเงิน ตามได้เห็นอยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่ ใหญ่ขนาดนี้ยังไม่พอให้วางแฟ้มเอกสารมากมายเลย ไม่นึกเลยว่าคนอย่าง ช่อชบา นราพรรณ จะทำกับเธอได้ แม้พิรวีจะไม่แน่ใจนัก ในใจเธอนั้นมากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์น่าจะเป็นใครไม่ได้ นอกใจคนเดียวในใจ
สำหรับความเชื่อของตัวเอง ว่าช่อชบา อาจจะคิดหรือไม่ได้คิดคิดโกงเงินมหาศาลของเธอ เป็นที่มาของเงินหลายล้านหายไปจากบัญชีไร้ร่องรอย
“รับทราบค่ะบอส” กนกแก้วรับปากเจ้านาย หญิงสาวร่างเล็กผู้ซื่อสัตย์ ไฟแรง ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยไม่ปริปากบ่นสักคำ แม้จะกลับบ้านหลังพนักงานคนอื่นแทบทุกวัน
“ขอบคุณเธออีกที แน่นอน เธอจะได้ค่าเหนื่อยที่คุ้มค่าสำหรับหลายวันที่ผ่านมา” รอยยิ้มเจ้านายแสนสวยผุดขึ้นน้อยๆ บนริมฝีปาก มองคนร่างเล็กด้วยความเอ็นดู
“ค่ะบอส หน้าที่ของแก้วอยู่แล้วค่ะ อย่าห่วงเลย” กนกแก้วเก็บเอกสาร เก็บแฟ้ม ให้เข้าที่ นำกลับไปไว้บนชั้นวางแฟ้มประจำฝ่ายบัญชีการเงินเช่นเดิม
“ฉันอยากมีบริวารที่ซื่อสัตย์อย่างเธอเดินอยู่ในบริษัทมากๆ” หญิงสาวยกมือก่ายหน้าผากหนักอึ้ง เอนหลังกับพนักพิงเก้าอี้บุนวมสีดำ ท่าทางใช้ความคิดหนัก
“คงจะได้เวลาเธอกลับบ้านซะที ฉันใช้งานเธอเยอะเกินไปเดี๋ยวทางบ้านจะเป็นห่วงเอา” บอกพนักงานร่างเล็กเหนื่อยๆ
“ค่ะบอส งั้นแก้วขอตัวนะคะ อ้อ...บอสอย่าลืมพักบ้างนะคะ แก้วรู้ว่าบอสเหนื่อย”
“แน่นอน ฉันควรพักบ้าง แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ไปเถอะสาวน้อย” ยิ้มบางให้ คนตัวเล็กเดินออกจากห้องทำงานของเจ้านายสาว พนักงานคนอื่นๆ กลับไปนานแล้ว แก้วจึงพบแต่ยามรักษาการเดินตรวจตรา
แล้วลูกน้องสาวโสดกนกแก้วเดินจากไป หล่อนหิ้วกระเป๋าสะพายขึ้นบ่า เดินออกจากห้องทำงานส่วนตัวของพิรวีไป ผู้บริหารสาวได้แต่มองตามด้วยหัวใจห่อเหี่ยว เธอถูกเพื่อนหักหลัง คำนี้พิรวีไม่ปรารถนาจะเอ่ยมันออกมาจากริมฝีปากเลยเชียว
ยังโชคดีเธอพอจะมีคนซื่อสัตย์กับเธออยู่บ้าง แม่ตัวเล็ก น่ารัก เพิ่งเดินจากไป มือบางค่อยๆ กวาดสิ่งของลงกระเป๋าสะพายใบเก่ง รวมทั้งแฟ้มเอกสารทางการเงิน จัดแฟ้มสำคัญทางการเงินวางไว้บนโต๊ะให้เข้าที่เข้าทาง ทำให้เหมือนกับว่าเธอนั้นไม่ได้แตะต้องเอกสารพวกนั้นเลย ล็อกโต๊ะทำงานแน่นหนา
เพราะในนั้นมีเอกสารความลับบางอย่าง ได้ดึงออกจากแฟ้มหลายเล่ม ทุกอย่างเรียบร้อย หญิงสาวกวาดสายตาโดยรอบ แน่นอน เธอเป็นคนละเอียด การเป็นเจ้าของกิจการทำให้เธอต้องละเอียด นี่คือทฤษฎีบังคับ ดูเหมือนว่าวันนี้เธอเพลีย ล้า เหนื่อย
สมองคงจะถึงเวลาพักบ้าง มือบางหยิบฉวยกุญแจรถบนโต๊ะ เดินไปยังลานจอดรถตรงช่องสำหรับจอดรถผู้บริหารสูงสุด ร่างบางเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย สตาร์ทแล้วทะยานเจ้ายานพาหนะยุโรปออกจากลานจอดรถประจำของตัวเอง จุดหมายคือบ้านแสนสบายของเธอเอง เธอลงทุนซื้อบ้านหลังใหม่หลังจากเดินทางเข้ามาทำธุรกิจในเมืองหลวง
บ้านอยู่ชาญเมือง แค่หลังกะทัดรัด ไม่หรูหรา ไม่ใหญ่โต แค่อยู่เพียงลำพังจะใหญ่โตขนาดไหนกัน บิดาและมารดา นานๆ จะลงมาเยี่ยมจากเชียงรายซะที ส่วนพี่ชายรักษาการที่นั่น ไม่ค่อยได้มา เพราะต้องดูแลไร่ และฟาร์มปศุสัตว์ ปลีกตัวมากรุงเทพฯ ยาก ยกเว้นน้องสาวสุดที่รักจะร้องขอ