บทที่ 8
บทที่ 8
ในส่วนของด้านหลังกว้างมากพอที่จะนั่งได้สี่คนส่วนพีทน่ะ ทั้งตื่นเต้น ทั้งเกร็งแถมยังต้องทำตัวแมนต่อหน้าผู้ชายของเพื่อนไปอีก
'แกต้องช่วยฉัน ทำตัวแมนๆเข้าใจไหม' พระพายบอกเขาตอนที่นั่งคุยกันในร้านกาแฟเมื่อครู่
'ทำไมอ่ะ' กระเทยยักษ์ที่นั่งกินเค้กอยู่มองเพื่อนตาปริบๆ
'อยากให้เขาหึง งั้นสิ' เบลที่รู้ทันเอ่ยแซวขึ้นมา
'ก็ประมานนั้นแหละ ฉันก็อยากรู้ว่าเขาจะรู้สึกยังไงที่เห็นฉันสนิทกับผู้ชายคนอื่น' พระพายตอบตามจริง อยากรู้เหมือนกันเขาจะรู้สึกยังไง
'ถ้าที่แกเล่ามา ฉันว่าเขาไม่คิดอะไรกับแกหรอก ก็แกเล่นเอาแต่กัดกับเขาทั้งวัน เปลี่ยนจากแง่งๆใส่ มาอ่อยดีกว่ามะ' กระต่ายทำท่ายั่วยวนประกอบการนำเสนอ
'ยังไงวะ' พระพายทำหน้างุนงง
'ไว้คุยที่บ้าน พ่อรูปหล่อแกมาละ ตอนนี้ก็นิ่งๆไปก่อน อย่าไปทะเลาะกับเขา โอเคนะ' กระต่ายพยักพเยิดไปที่หน้าร้าน เลยทำให้ทุกคนมองตาม จึงเห็นว่านักรบกำลังเดินเข้ามา
พระพายทำตามที่เพื่อนบอก โดยเริ่มจากการไม่ต่อต้าน ทำตัวให้ดูไม่ดื้อรั้นและอ่อนโยนขึ้น ซึ่งมันก็ดูได้ผลเมื่อคนตัวโตแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด กับท่าทีที่เปลี่ยนไปแบบกระทันหันของพระพาย
สี่สาวที่นั่งอยู่ด้านหลังพูดคุยหัวเราะกันคิกคักในขณะที่พีทพยายามนั่งนิ่งๆแอ๊บแมนตามที่เพื่อนขอ จนแทบจะกระอักความเป็นกระเทยออกมารอมร่อ แต่พีทเองก็ยอมรับว่านักรบช่างหล่อเหลาเสียจริงๆ มากกว่าที่พระพายเคยเล่าให้ฟังหรือที่เคยดูจากในรูปหลายเท่า ท่าทางเคร่งขรึมยิ่งส่งผลให้เจ้าตัวดูน่าค้นหามากขึ้นไปอีก
ไม่นานนัก รถปิ๊กอัพของนักรบก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้าเรือนหลังใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางไร่องุ่น ทุกคนลงจากรถมาชื่นชมความใหญ่โตอลังการของไร่ทอรักและบ้านหลังสวยของพระพาย
"โห ไร่แกใหญ่มาก" กระต่ายทำตาโตมองไปรอบๆด้วยอาการตื่นเต้นอย่างเก็บอาการไม่อยู่
"สวยสุดๆ ฉันจะถ่ายรูปทุกมุมเลย แบบเอาไว้ลงไอจีได้ทั้งปี ดีไหม" เบลว่าพลางมองหาที่ถ่ายรูปสวยๆ หันไปยิ้มกับเพื่อนๆ
"ตรงนั้นคือดี" พีทชี้นิ้วไปทางภูเขาที่อยู่ถัดไปจากไร่นิดหน่อย
"ขอบคุณนะ ขอบคุณที่ไปรับเพื่อนฉันด้วย" พระพายเอ่ยปากขอบคุณบุรุษหนึ่งเดียวที่ช่วยขนกระเป๋าลงมาให้ระหว่างที่เพื่อนๆกำลังชื่นชมความงามของไร่ เธอยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นเพื่อนๆดีใจ เลยไม่ทันได้เห็นแววตาประหลาดใจของอีกฝ่ายที่ส่งมา
นักรบไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมพระพายดูสงบเสงี่ยมชอบกล ทั้งที่เมื่อเช้ายังจ้องจะงับคอเขาให้ได้ แต่พอคิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกัน เขาเองก็ไม่ได้อยากทะเลาะด้วยเสียเท่าไหร่
"มากันแล้วเหรอ เข้าบ้านกันก่อนสิ" เวชเดินออกมาจากบ้านพอดีเจอเข้ากับบรรดาเพื่อนๆ ของลูกสาวก็เข้ามาทักทายพร้อมพิสินี ที่เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเรียบร้อยแล้ว คล้ายว่ากำลังจะออกไปข้างนอกอีกครั้ง
"พวกแก นี่คุณป๋าฉัน แล้วก็นั่นคุณพิ แฟนคุณป๋า" พระพายแนะนำทั้งสองให้เพื่อนๆรู้จัก ทุกคนเข้ามาทักทายพ่อของเพื่อนเป็นการใหญ่
"สวัสดีค่ะ/ครับ" ยกมือไหว้อย่างพร้อมเพียง เวชมองแล้วยิ้มให้แต่พิสินีทำเพียงยิ้มเหยียดๆส่งมา
"ตามสบายนะ อยากได้อะไรก็บอกเหมียว ป๋าไปข้างนอกก่อน"
"คุณป๋าจะไปไหนคะ ไม่ทานข้าวเย็นกับหนูเหรอ" พระพายเกาะแขนอีกข้างของบิดาเอาไว้ส่งสายตาออดอ้อน ไม่ได้สนใจสายตาจิกกัดที่พิสินีพยายามส่งมา
"วันนี้ป๋ามีนัดกินข้าวกับปลัดธนู หนูอยู่กับเพื่อนๆนะลูกนะ เอาล่ะไปกันคุณ ป๋าไปนะเด็กๆ" เวชแตะมือลูกสาวเบาๆ ก่อนขอตัวออกไปจากตรงนั้น เดี๋ยวจะเลยเวลาที่นัดกับปลัดธนูเอาไว้จะดูไม่ดี
เด็กๆค้อมหัวให้เล็กน้อย คุณป๋าของเพื่อนจึงเดินออกไปขึ้นรถพร้อมแฟนสาว พระพายเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแค่ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพาเพื่อนๆเข้าบ้าน
"ไปพวกเรา เข้าบ้านกัน" พระพายหันมาบอกเพื่อนๆ ทุกคนจึงเดินตามเจ้าของบ้านเข้าไปด้านใน ส่วนนักรบเมื่อเห็นเด็กๆเข้าไปกันหมดแล้วก็เลยขับรถออกมาจากตรงนั้นโดยมีพระพายหันมองจนรถลับตาไป
"บ้านแกหลังใหญ่มาก น่าอยู่สุดๆ ถ้าฉันเรียนจบแล้วหางานไม่ได้ ฉันมาสมัครงานบ้านแกได้ไหม" กระต่ายพูดขึ้น สายตาก็มองไปรอบๆอย่างเก็บรายละเอียด
"ได้สิ ด้วยความยินดี พวกแกจะมาเที่ยวเมื่อไหร่ก็ได้ ที่นี่ยินดีต้อนรับเสมอ" พระพายบอกเพื่อนเสียงใส พาไปที่ห้องพักแขกที่จัดไว้ให้บริเวณปีกขวาของตึก
"ทำหน้าที่อะไร แม่บ้านเหรอ" ระหว่างเบลก็เอ่ยแซวกระต่ายเสียงดังพลางหัวเราะคิกคัก
"เป็นแม่บ้านก็เอาย่ะ บ้านสวยขนาดนี้" กระต่ายตอบกลับ ทำปากค่ำใส่เพื่อน
"โอ้ย ไม่กัดกันสักวันจะตายมั้ยนังโจรอ้วนผอม" พีททะลุขึ้นมากลางปล้องเพราะเริ่มรำคาญทั้งสองคน เรียกเสียงหัวเราะของพระพายเบาๆ ทะเลาะกันเก่งแต่ก็รักกันนั่นแหละ
"พีท แกนอนห้องนั้น เบลกับต่ายนอนนี่นะ ส่วนชมพู่ไปนอนกับฉัน ลงตัวพอดีเป๊ะ" ทุกคนพยักหน้าหงึก ๆ ตกลงกันแล้วว่าจะพักผ่อนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปทานอาหารด้วยกัน