ตอนที่ 1 พระชายาท่านอ๋อง
จวนอ๋อง / ห้องรับรองแขกในตำหนัก
“เจ้า!!….เหตุใด...เจ้าถึงได้มาอยู่....ที่นี่!!”
“หม่อมฉัน….ไม่ทราบเพคะ กะ..เกิดอะไรขึ้น”
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ….ด้านนอกโวยวายกันใหญ่แล้ว บุตรีท่านแม่ทัพฟู่หายตัวไปพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้ากำลังหมายถึง…..นางใช่หรือไม่”
"ฉางรุ่ยหยาง" ท่านอ๋องผู้ปกครองเมืองหลิงโจว พระโอรสคนที่หกของฮ่องเต้กับพระสนม “ฉางลู่เฟย” หันมาถามองครักษ์หนุ่มข้างกายนามว่า “เสี่ยวหมิง”
“ท่านอ๋อง!!…หรือว่านางคือ….”
“เจ้าคือผู้ใด เหตุใดจึงมานอนเปลือยกายอยู่ในห้องของข้าได้”
“หม่อมฉัน!!…”
“ฟู่ซิ่วอิง!! เป็นเจ้าจริง ๆ เหตุใดจึงได้มาอยู่ที่นี่”
“ท่านพ่อ ข้า…”
“ท่านอ๋อง นี่มัน…เกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”
“หึ ข้าเองก็อยากรู้เช่นกัน เจ้ารีบสวมชุดเสียเถอะแล้วออกไปคุยกันข้างนอก เสี่ยวหมิง!! ปิดประตู!!”
“พ่ะย่ะค่ะ”
องครักษ์หนุ่มหันไปปิดประตูและพาคนที่มุงอยู่ที่หน้าห้องรับรองแขกออกไป ส่วนด้านในห้องในยามนี้มีเพียงเขาและนางที่ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความสงสัยและสภาพที่กึ่งโป๊เปลือยและดูเหมือนว่านางและบุรุษหนุ่มตรงหน้านี้ จะมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นเพราะท่านอ๋องเองก็อยู่ในสภาพที่มิได้ต่างจากนางมากนัก
“ขวับ!!”
ดาบสีเงินคมกริบพาดมาที่ไหล่ของนางอย่างจงใจ “ฟู่ซิ่วอิง” ที่มิทันได้เตรียมใจหันไปมองเขา นางในตอนนี้ไม่สามารถขยับกายได้เพราะความปวดร้าวตั้งแต่ช่วงหน้าท้องลงไปถึงขาราวกับถูกฉีกออกเป็นเสี่ยง ๆ แม้แต่แรงที่จะพูดกับเขาก็แทบจะไม่มีเหลือ นางถูกพิษอะไรเข้าไปกันแน่
“เจ้าบอกข้ามาดี ๆ เหตุใดเจ้าจึงต้องวางยาข้าเพื่อทำเรื่องเช่นนี้!!”
“วะ ว่าอย่างไรนะเพคะ วางยางั้นหรือ มะ ไม่จริง หม่อมฉันไม่รู้เรื่อ….”
ดาบค่อย ๆ ขยับเพื่อให้นางเงยหน้าขึ้นมาตอบ ม่านน้ำตาที่เริ่มไหลรินเพราะพระพักตร์ที่เย็นชาและสายตาแห่งความเกลียดชังไม่ต่างกับน้ำกรดที่แสบร้อนสาดมาใส่ทั้งตัวนาง แต่นางเองก็หารู้ไม่ว่าตนเองมาอยู่ที่นี่ได้เช่นไร
“นึกไม่ถึงว่าจวนแม่ทัพจะกล้าทำเรื่องที่อัปยศเช่นนี้ได้”
“เปล่านะเพคะ หม่อมฉันมิได้…”
“หากเจ้ามิได้ทำ เช่นนั้น….”
“หม่อมฉัน…โอ๊ย!!”
ท่านอ๋องดึงดาบกลับเมื่อเห็นว่าสตรีตรงหน้าล้มตัวฟุบไปกับผ้าห่มเพราะความเจ็บปวด เขาต้องรู้แน่อยู่แล้วว่าระหว่างเขากับนางเกิดอะไรขึ้นเพราะเมื่องานเลี้ยงต้อนรับเมื่อคืนนี้
เขาดื่มหนักมาแต่ก็ไม่ถึงกับจำความไม่ได้ เมื่อเดินเข้ามาก็พบกับนางที่นอนกึ่งเปลือยอยู่บนเตียงเขาและ….
“นี่เจ้า!!…ข้าให้เวลาเจ้าครึ่งก้านธูป รีบจัดการตัวเองเสียแล้วรีบตามข้าออกไปที่ห้องโถงเล็ก”
สิบวันถัดมา
ข่าวงานอภิเษกได้ถูกประกาศขึ้นหลังเหตุการณ์ชวนน่าสงสัยในคืนงานเลี้ยงต้อนรับท่านอ๋องสู่เมืองหลิงโจว เขาพึ่งจะเดินทางมารับตำแหน่งได้เพียงไม่กี่วันก็มีคนวางยาและส่งตัวบุตรีแม่ทัพเมืองหลิงโจวมาที่ห้องรับรองของเขาในตำหนัก
แม้ว่านางจะเป็นบุตรของแม่ทัพใหญ่เลื่องชื่อ แต่เขาที่ยังมิทันได้สืบรู้ความเป็นไปของขุนนางในเมืองนี้สักเท่าใดกลับต้องมาแต่งตั้งนางเป็นพระชายา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เขากับบุตรีท่านราชครูถูกจับตามองว่าทั้งคู่จะเป็นคู่อภิเษกหลังจากที่เขาย้ายมาที่หลิงโจว
“อะไรนะเจ้าคะ ไม่ใช่ข้าแต่เป็น….คนสกุลฟู่!!”
“ลูกแม่เจ้าใจเย็น ๆ ก่อน”
“ไม่!! ผู้ใดก็ทราบว่าลูกกับท่านอ๋อง….ไม่ ลูกไม่มีทางเชื่อเหตุใดคืนนั้น...ไหนท่านแม่บอกว่าจัดการทุกอย่างเรียบร้อยอย่างไรเล่าเหตุใดจึงได้เป็นนางที่เข้าไปในห้องบรรทมของท่านอ๋อง!!”
“ถิงเอ๋อร์!! เจ้าเงียบเสียงลงหน่อยสิ เจ้าฟังแม่ก่อนนะ”
“ไม่ ข้าไม่เชื่อ ข้าจะไปเข้าเฝ้าท่านอ๋อง ข้าจะ…"
“ไม่มีประโยชน์หรอก วันนี้ท่านอ๋องรับราชโองการและตกลงเรื่องพิธีอภิเษกแล้ว”
“ราชครูเมิ่งจ๋าย" เดินเข้ามาในห้องของบุตรสาวด้วยท่าทีที่สงบ สกุลเมิ่งได้รับคำสั่งให้ย้ายมาเพื่อเป็นที่ปรึกษาให้กับท่านอ๋องที่เมืองหลิงโจวแห่งนี้
และแน่นอนว่าทุกคนย่อมทราบดีว่าหลังจากทุกอย่างลงตัวแล้วท่านอ๋องคงมิพ้นที่จะอภิเษกกับ “เมิ่งลี่ถิง” บุตรีของท่านราชครูเป็นแน่ แต่ทว่าวันนี้นางกลับพลาดตำแหน่งพระชายาเอกไปเสียง่าย ๆ
“ไม่จริง!! ท่านพ่อไม่จริงใช่หรือไม่เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ เพียงแค่บุตรสาวแม่ทัพต่ำต้อยนั่นจะสู้ฐานะบุตรีราชครูเช่นข้าได้เช่นไรกันเจ้าคะ มันต้องไม่เป็นความจริงลูกไม่ยอมนะเจ้าคะลูกสู้อุตส่าห์ตามท่านอ๋องมาถึงที่นี่ ข้าไม่ยอม!!"
“เจ้าทำอะไรไม่ได้แล้ว ฮ่องเต้ประทานราชโองการสมรสลงมาแล้ว สกุลฟู่เองก็รับไปแล้วงานอภิเษกจะถูกจัดขึ้นในอีกสิบวันข้างหน้านี้แล้ว”
“อะไรนะเจ้าคะ เหตุใดจึง….รวดเร็วปานนี้”
“ถิงเอ๋อร์ เรื่องนี้แม่ว่าเราค่อยคุยกันทีหลังเถอะนะ”
“ไม่ ข้าไม่เชื่อ ข้าจะไปเข้าเฝ้า ไม่จริง!!”
“จับนางเอาไว้ รอให้พ้นงานอภิเษกไปแล้วข้าถึงจะปล่อยนางออกไปนอกจวน ถิงเอ๋อร์ ใช่ว่าเรื่องนี้พ่อจะยินยอมแต่ตอนนี้เจ้าต้องตั้งสติเสียก่อน”
“ไม่นะท่านพ่อ!! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้นะ ข้าคือพระชายาท่านอ๋อง ต้องเป็นข้าเพียงผู้เดียว ท่านพ่อ!!”
แม้ว่าจะรู้ว่าบุตรสาวเสียใจเพียงใดแต่ครั้งนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนั้นก็เป็นสิ่งที่แม้แต่ท่านอ๋องก็ปฏิเสธไม่ได้ งานอภิเษกถูกจัดขึ้นหลังจากนั้นตามกำหนดเวลา
เรื่องราวดูเหมือนจะไม่มีสิ่งผิดปกติใด ๆ เพราะทั้งคู่ต่างเข้าพิธีกันอย่างถูกต้อง แม้ว่าท่านอ๋องจะมิได้ยินยอมแต่เพราะความรับผิดชอบพระองค์จึงต้องทำ
งานอภิเษก / ห้องส่งตัว
“กรี๊ด!!!!! ช่วยด้วย!!! เร็ว ๆ เข้า พระชายา…..ฆ่าตัวตาย!!!”
“อะไรนะ!!!”
ผ้าแพรสีขาวพันผูกคอของเจ้าสาวในชุดสีแดงสดเอาไว้เมื่อทุกคนรวมถึงเจ้าบ่าวในงานที่เปิดประตูเข้าไปเพราะเสียงของตกในห้องแม่สื่อจึงตัดสินใจเปิดออก
ร่างของฟู่ซิ่วอิงร่วงลงมาและตกใส่ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าพระสวามีหมาด ๆ แต่สีหน้าและแววตาของเขาช่างตกใจได้อย่างเยือกเย็นนัก โชคดีที่นางไม่ทันได้เห็นว่าเขาดูมิได้เสียใจกับการที่พระชายาที่พึ่งร่วมพิธีกราบไหว้ฟ้าดินและยังไม่ทันส่งตัวได้ตายลงก่อน
“เหตุใดข้าจึงอาภัพนัก แม้นจะได้อภิเษกกับท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ แต่ก็ถูกตราหน้าว่าแย่งบุรุษของสตรีอื่นอย่างหน้าไม่อาย ถูกนินทาว่าเป็นหญิงงามเมืองที่ไร้คุณสมบัติของพระชายา อีกทั้งยังมาตายในวันแต่งงานของตนเอง ไม่!! ข้าไม่ยอม!!”
“อิงเอ๋อร์”
“ทะ ท่านปู่….ท่านหรือเจ้าคะ”
“หลานปู่ คิดถึงเจ้าเหลือเกิน”
“ท่านปู่ ท่านมารับข้าไปอยู่ด้วยหรือเจ้าคะ หลานเหนื่อยเหลือเกินเจ้าค่ะ หลาน…”
“ไม่ หลานเป็นคนสกุลฟู่ เลือดในกายเจ้าเป็นเลือดของนักรบที่หลั่งเลือดเพื่อแผ่นดิน เจ้าจะมาตายโดยมิได้ลากคนชั่วมากระทำผิดเช่นนี้หาได้ไม่ ปู่มาเพื่อชี้ทางกลับไปให้เจ้า”
“แต่ว่าข้า….หลังจากถูกพิษนั่นแล้ว วรยุทธ์ของข้าก็เสื่อมถอย ยานั่นทำลายวรยุทธ์ข้าจนหมดสิ้น”
“เจ้ามิต้องกังวลใจไป หลานของข้ามีหรือที่จะให้กลับไปมือเปล่า เจ้าจงรับทุกอย่างที่บรรพบุรุษสกุลฟู่ทิ้งเอาไว้ให้รวมถึงเพลงดาบที่แข็งแกร่งที่สุดไป ลากคนชั่วออกมาและกำจัดให้สิ้นอย่าได้ปล่อยให้มันอยู่หนักแผ่นดินหลิงโจว”
“แต่ว่าหลาน…จะทำเช่นไรต่อเจ้าคะ”
“เจ้ากลับไปเจ้าก็จะรู้เองว่าต้องทำเช่นไร จงเชื่อในสัญชาตญาณแรกของเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะทำสิ่งใดอย่าลืมว่าปู่จะอยู่กับเจ้าเสมอ”
“ท่านปู่ อย่าพึ่งไปเจ้าค่ะ”
ร่างของแม่ทัพฟู่เหลียงผู้เฒ่าค่อย ๆ ถอยออกไป นางจำได้เพียงวิ่งไล่ตามเท่าใดก็ไม่ทัน ยิ่งเอื้อมมือไปเท่าใดก็เอื้อมไม่ถึง
“ท่านปู่!!”
“พระชายา!!! พระชายาฟื้นแล้วเพคะท่านอ๋อง!!”