ตอนที่ 2
เสียงไก่ขันช่วงตีห้าอากาศค่อนข้างหนาวแก้วกัลยาหาเสื้อแขนยาวไหมพรมใส่ให้มารดา แล้วหยิบอีกตัวให้กับตนเอง ค่อยๆ แง้มประตูกวาดตามองรอบๆ ในมือถือขวดเหล้าที่พ่อเลี้ยงชอบกินเป็นประจำไว้แน่น
“อีแก้ว!”แก้วกัลยาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เส้นผมถูกกระชากจนใบหน้าแหงนหงาย
“แก้ว!”กรองกาญจ์กรีดร้องเมื่อเห็นลูกโดนทำร้าย
เพียะ!
มือว่างอยู่ข้างหนึ่งฟาดลงบนใบหน้าแม่ แก้วกัลยาเลือดขึ้นหน้า เมื่อพบว่าใบหน้ามารดาแดงก่ำเลือดออกจากริมฝีปาก
เพล้ง!
ขวดเหล้าทำจากแก้วฟาดลงไปบนศีรษะเลือดไหลนองออกมาราวกับท่อประปาแตก แก้วกัลยาฉุดรั้งมารดาออกมาแล้วรีบเร่งไปที่ถนน บังเอิญพบลุงข้างบ้านกำลังขับรถส่งผักกะหล่ำปลี เขาตกใจเมื่อเห็นหญิงสาวโบกไม้โบกมือ
“อ้าว แก้วจะไปไหนเหรอลูก”ลุกจวบเอ่ยถาม
“ลุง! แก้วขอติดรถไปด้วยสิ ไอ้วัฒน์มันตีแม่กับหนูอีกแล้ว”
“ไอ้เวรตะไลนั่น มันทำแบบนี้อีกแล้วเหรอ แล้วเอ็งจะไปไหนล่ะ”
“หนูจะเข้ากรุงเทพ ลุงไปที่ตลาดใช่ไหม!”เสียงหอบหายใจของหญิงสาวดังขึ้น กวาดตามองอย่างระแวดระวังเพราะกลัวพ่อเลี้ยงใจโฉดจะตามมา
“ใช่แก้ว รีบขึ้นมาเร็วๆ เข้า!”
สองแม่ลูกรีบขึ้นนั่งกระบะหลัง จังหวะนั้นชัยวัฒน์ฟื้นจากอาการมึนงงวิ่งคลำศีรษะตามมาติดๆ
“อีแก้วมึงจะไปไหน!”ตะโกนลั่นวิ่งตามรถ คนขับรถเคลื่อนออกทันที
กรองกาญจ์สะอื้นไห้ เพราะเธอทำให้ลูกต้องตกที่นั่งลำบากไม่คิดว่าชัยวัฒน์จะกลับกลายจากหนุ่มใหญ่แสนดีเป็นไอ้ขี้เมาอาละวาดทุกเวลา พลอยทำให้ลูกต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนเพราะตัวเองไม่ค่อยแข็งแรงเท่าใดนัก นึกถึงสามีที่เสียชีวิตไปแล้วละอายใจ
“แม่ขอโทษนะแก้ว...”คนเป็นแม่บอกเสียงเครือสั่น
“แม่จะขอโทษแก้วทำไม แม่ไม่ผิดคนผิดคือไอ้วัฒน์โน้น”
รถส่งผักจอดหน้าตลาดแก้วกัลยาประคองแม่ลงมา ก่อนยกมือไหว้ลุงจวบ
“ขอบคุณมากนะลุง”
“แล้วมีที่จะไปกันแล้วเหรอ”ลุงจวบเอ่ยถามสีหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ก็ไม่มีหรอกค่ะลุง แต่ก็ยังดีกว่าอยู่ให้ไอ้วัฒน์มันกระทืบเอา”
ลุงจวบครุ่นคิดหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาเปิดออก กระดาษโน้ตเก่าดำจนไม่รู้รูปร่างชายกลางคนเพ่งมองแล้วส่งให้ แก้วกัลยารับมาสีหน้ามึนงง
“นี่เป็นที่อยู่ของอีจัน มันเป็นน้องสาวลุง นี่เบอร์โทรของมันเอ็งลองโทรหาดูนังแก้ว ตอนนี้มันเป็นคนใช้บ้านเจ้าสัวมีชื่อในกรุงเทพโน้น”ลุงจวบแนะนำ
“จริงเหรอลุง! ขอบคุณมากนะ”แก้วกัลยายิ้มกว้าง
“ไม่เป็นไรหรอก เห็นเอ็งตั้งแต่อ้อนแต่ออก แล้วพ่อแกก็เป็นเพื่อนลุงมานาน”นึกถึงเพื่อนเก่าแล้วใจหายไม่น่าจากไปเร็ว
แก้วกัลยายกมือไหว้อีกครั้ง ก่อนจูงมือมารดามาที่ท่ารถเพื่อเข้ากรุงเทพ เงินในกระเป๋ามีอยู่สามพันบาทไม่รู้จะต่อชีวิตได้นานเท่าไหร่คงต้องหาทางโทรติดต่อกับป้าจันเสียก่อน หวังว่าคงมีทางรอดให้เธอ รถทัวร์มุ่งหน้าสู่กรุงเทพราคาไม่เบาเลยทีเดียวแก้วกัลยาซื้อตั๋วพร้อมมารดาสองร่างก้าวขึ้นรถ
กรองกาญจ์ยกมือปาดน้ำตาลวกๆ เสียดายที่ดินผืนนั้นเหลือเกิน สามีเป็นคนสร้างมากับมือ ตอนนี้ติดจำนองไม่มีเงินไถ่ถอนคงทำได้แค่รอวันเจ้าหนี้มายึดเท่านั้น เวลาเกือบสิบปีที่อยู่กับไอ้เดนมนุษย์นั้นสูญเปล่า แถมยังต้องให้ลูกมาลำบาก แก้วกัลยาเหลือบมองมารดาเห็นน้ำตารีบกุมมือไว้แน่น ต่อจากวันนี้คือชีวิตใหม่แล้ว จะทำทุกอย่างเพื่อแม่
แปดโมงเช้ารถทัวร์จอดเทียบท่ารถหมอชิตหญิงสาวประคองมารดาลงมาจากรถ ถือโทรศัพท์กดเบอร์จากกระดาษเก่าดำเพื่อตามหาป้าจันทันที
“ฮัลโหลใครพูดคะ!”เสียงปลายสายตอบรับ
“ฮัลโหลป้าจันใช่ไหม!”แก้วกัลยาโพลงออกมา น้ำตารื้น
“ใช่ นั่นใครเหรอ”
“หนูชื่อแก้วค่ะ พอดีลุงจวบบอกให้โทรหาป้า”
“แก้วเหรอ ใช่แก้วลูกสาวอีกรองใช่ไหม!”จันถามเสียงสั่น
“ใช่จ้ะป้า”
“โอ้ย! ไปไงมาไงโทรมาหาป้าได้ล่ะแก้ว มีอะไรหรือเปล่า”
“คือว่า... ป้าจัน แก้วกับแม่ลงมากรุงเทพจ้ะ แต่เราสองคนยังไม่มีที่อยู่ป้าจันพอจะช่วยหนูหน่อยได้ไหม”รู้สึกไม่สบายใจแต่ทำยังไงได้ มองไปทางไหนก็มืดแปดด้านเมืองใหญ่แบบนี้
“ไม่มีงานทำกันใช่ไหม ลองมาสมัครที่บ้านเจ้านายป้าดูไหม ท่านใจดีตอนนี้กำลังรับแม่ครัวอยู่เลย!”จันแนะนำ
“จริงเหรอคะ!”ตื่นเต้นเมื่อได้ทราบข่าวดี
“เดี๋ยวป้าส่งที่อยู่ให้ในมือถือนะ แล้วแก้วขึ้นแท็กซี่มาก็ได้บอกเขาตามที่อยู่ที่ป้าส่งให้นะ”
“ได้จ้ะป้า”
วางสายจากจัน แก้วกัลยาหันมาทางมารดา สีหน้าแช่มชื่นอย่างน้อยค่ำคืนนี้คงมีที่นอน จูงมือแม่มายืนตรงทางเท้าสำหรับช่องทางรอรถแท็กซี่โบกมือบอกที่อยู่ตามแมสเสจที่ป้าจันส่งมาให้