บท
ตั้งค่า

9

ทว่าอำนาจในมือวิเศษและคนหนุนหลังไม่อาจทำให้พันตำรวจตรีนพดลเกรงกลัว เขาพร้อมจะเผชิญกับอำนาจมืดในทุกรูปแบบ ขอเพียงจับคนชั่วมาลงโทษตามกฎหมายได้เป็นพอ สองปีที่ผ่านมานพดลกับพวกช่วยกันตามสืบเรื่องวิเศษเงียบๆ รวบรวมข้อมูลทุกอย่างที่พอจะเป็นประโยชน์ให้มากที่สุด จนกระทั่งสายข่าวรายงานการขนย้ายสินค้าครั้งนี้ให้นพดลรู้ นายตำรวจหนุ่มไฟแรงจึงวางแผนจับกุมการขนย้ายอาวุธเถื่อน เป็นของกลางที่จะนำพาไปถึงตัววิเศษ

รถบรรทุกเป้าหมายขับรถมาตามเส้นทางโดยไม่รู้ตัวว่า อีกไม่กี่สิบเมตรมีกำลังตำรวจหลายสิบนายรออยู่ แล้วบนพื้นถนนมีตะปูเรือใบหลายร้อยตัวเป็นเครื่องกำดักชั้นดีกระจายไปทั่ว ทางด้านนพดลก็รอคอยอย่างใจเย็น ลุ้นระทึก จับตามองล้อรถบรรทุกที่อีกไม่กี่อึดใจจะเหยียบตะปูพิฆาตล้อ

“รถเป็นอะไรวะไอ้ช้าง” ปัญญาถามลูกชาย เมื่อรถบรรทุกส่ายไปมาขับไม่ตรงทาง และหยุดนิ่งในอึดใจต่อมา

“เหมือนยางจะแบน” ผู้พูดคาดเดา ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วชะโงกหน้ามองล้อรถบรรทุก ดวงตาคชาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นตะปูเรือใบเกลื่อนพื้นดิน สาเหตุที่ทำให้รถไม่อาจไปต่อได้ “พ่อตะปูเรือใบ”

ปัญญารีบคว้าปืนเพราะการที่ตะปูเรือใบอยู่บนพื้นไม่ใช่เรื่องปกติ เนื่องจากเส้นทางนี้รู้ๆ กันอยู่ว่า ไม่ใช่ทางเอกที่จะมีรถยนต์สัญจรผ่านไปมา

“ระวังตัวด้วยไอ้ช้าง พ่อว่ามันทะแม่งอยู่นะ” ปัญญาพูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงของนพดลผ่านโทรโข่งดังขึ้น

“มอบตัวซะดีๆ ตอนนี้ตำรวจล้อมไว้หมดแล้ว” เสียงที่ดังก้องป่า ทว่าคนทำผิดกฎหมายไม่คิดจะมอบตัว พวกเขาพร้อมสู้เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม

ปัง...ปัง...ปัง

เสียงปืนดังขึ้นเป็นชุดทันทีที่นพดลพูดจบ กระสุนปืนของเหล่าคนไม่ดีสาดไปไม่รู้ทิศทาง เนื่องจากพวกเขาไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดักซุ่ม ได้ยินเพียงเสียงเท่านั้น ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้เปรียบกว่า ยิงสวนกลับถูกพาหนะของเหล่าคนร้ายที่เวลานี้ลงจากรถ ใช้รถที่ตนเองโดยสารมากำบังกระสุน

“พ่อหนีไปก่อน ฉันจะยิงคุ้มกันให้เอง” คชาที่หมอบอยู่ในรถบอกบิดา

“เออ” ไม่ใช่ว่าปัญญาจะไม่ห่วงลูกชาย แต่ทั้งสองตกลงกันไว้ว่า หากมีเรื่องฉุกเฉินให้แยกย้ายกันหนี เพราะหากห่วงกันไปมาอาจเกิดความผิดพลาดได้

“พ่อไปทางนั้น” คชาชี้ไปทางแนวป่าด้านหลังรถบรรทุก เพราะจุดนั้นไม่มีวิถีกระสุนของตำรวจที่ยิงโต้กลับมา ปัญญาหมอบเดินเข้าไปในป่าโดยมีคชาคอยยิงสกัดให้

“สารวัตรพวกมันจะหนีแล้วครับ” จ่าเชิดบอกนพดล

“อย่าให้มันหนีไปได้” นพดลบอกลูกน้องที่ยิงไปยังฝ่ายตรงข้ามต่อเนื่อง เขากำลังจะเคลื่อนตัวจากจุดที่ซุ่ม ทว่าเสียงร้องตะโกนของจ่าเชิดเตือนดังลั่น

“ระวัง มันปาระเบิดมา” นพดลกับพวกแตกฮือดังฝูงผึ้งแตกรัก ต่างขยับตัวหนีกันไปคนละทิศละทาง หลบระเบิดกลมเกลี้ยงที่คชาเกวี้ยงมา

ตูม...เสียงระเบิดดังสนั่น ช่วงเวลานี้เป็นจังหวะดีให้เหล่าคนร้ายจะหลบหนี ต่างคนต่างกระจายตัวกันหนี เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ คชาวิ่งหนีคนละทางกับบิดา

“หมวดตั้มกับหมู่ชาติคุมของกลางไว้ ที่เหลือตามจับพวกมันให้ได้ อย่าให้มันหนีรอด” นพดลสั่งการ ก่อนจะไล่ตามคนร้ายไปติดๆ โดยมีเสียงปืนดังต่อเนื่อง

ปัญญาวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต เขาคิดเพียงว่าต้องหนีรอดจากการจับกุมให้ได้ ไม่เช่นนั้นคงติดคุกยาวหรือไม่ก็อาจจะตายในคุก เขาไม่ยอมเป็นเช่นนั้นเด็ดขาด ทว่าอีกคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่บนต้นไม้ใหญ่ ไม่ได้คิดเช่นเดียวกับปัญญา บุคคลปริศนาคนนั้นกำลังใช้ปืนไรเฟิลเล็งไปยังปัญญา รอจังหวะและโอกาสปล่อยกระสุนปืน

ปัง...ฟิ้ว

“โอ๊ย!” สิ้นเสียงปืนไรเฟิล เสียงร้องโอดครวญของปัญญาก็ดังขึ้น วินาทีต่อมาร่างสูงโปร่งทรุดนอนกับพื้น ปืนในมือหลุดกระเด็นไปห่างตัวสองเมตร เขาก้มมองดูบาดแผลที่ถูกยิงแล้วทำหน้าเจ็บปวด พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนหนีตำรวจที่วิ่งไล่มาติดๆ ทว่าเขาไม่อาจทรงตัวลุกขึ้นได้ “โอ๊ย! แม่งเอ๊ย”

ปัญญาสบถ หน้าตาบอกถึงความเจ็บปวด มองดูเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผล ก่อนจะเงยหน้ามองกลุ่มคนที่วิ่งมาทางตน ในเมื่อลุกเดินไม่ได้ ปัญญาใช้วิธีคืบคลาน เขาคลานไปยังปืนที่ตกอยู่ไม่ไกล หากหยิบขึ้นมาได้ จุดหมายต่อไปคือนำพาร่างไปยังต้นไม้ใหญ่ที่ใกล้ที่สุดเพื่อหลบกำบัง แต่ทุกอย่างที่ปัญญาคิดไว้ก็ช้ากว่านพดลกับพวกที่มาถึงตัวซะก่อน

“อย่าพยายามเลยมึง เจ็บอย่างนี้ยังจะตะกายหนีอีก”

นพดลพูดกับปัญญา ในขณะที่จ่าเชิดกับตำรวจอีกนายหนึ่งจับกุมปัญญาที่นอนอยู่บนพื้น ได้แต่มองด้วยสายตาเจ็บใจ ไม่คิดว่าตนเองจะถูกจับกุม หากไม่ถูกยิงรับรองว่า ตำรวจไม่มีทางจับเขาได้แน่

“ขอโทษนะลุงเล็ก ถึงเวลาที่ลุงต้องเกษียณซะที อีกอย่างงานนี้ต้องมีแพะด้วย” เจ้าของปืนไรเฟิลพูดขึ้น ขณะใช้กล้องส่องทางไกลดูเหตุการณ์ด้วยรอยยิ้มพอใจกับความสำเร็จของตน

ตกดึกคืนเดียวกัน ณ กรุงเทพมหานคร

ทันทีที่น้ำเย็นเฉียบถูกสาดลงบนใบหน้าของขวัญข้าว ทำให้เธอสะดุ้งตัวตื่น ไอคอกแคกจากการสำลักน้ำ พอเห็นชายร่างสูงใหญ่ยืนถมึงถึงตรงหน้า เธอรีบถอยร่นหนีอย่างหวาดกลัว มองไปรอบๆ ห้องไม่คุ้นตา ก่อนจะลำดับเหตุการณ์สุดท้ายที่จำได้

ขวัญข้าวถูกใครคนหนึ่งนำผ้ามาปิดตรงจมูก จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย...

ใช่แล้ว...เธอถูกจับตัวมา แล้วชายตรงหน้าคือคนคนนั้น

“ถ้าฉันไม่ปลุกเธอก็คงไม่ตื่น หลับอย่างกับตาย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel