2
“แม่จ๋า ขวัญไม่อยากให้พ่อกับพี่ช้างทำงานแบบนี้เลย มันเป็นบาปนะแม่” ขวัญข้าวคุยกับบัวริน ขณะกำลังล้างถ้วยชาม
“แม่ก็ไม่อยากให้ทำ แต่จะทำยังไงได้ล่ะลูก นายมีบุญคุณกับเรามาก ถ้าไม่ได้นาย ป่านนี้พ่อก็คงติดคุก เราก็ไม่ได้อยู่กันอย่างทุกวันนี้”
ไม่ใช่ว่าบัวรินจะเห็นดีเห็นงามกับอาชีพของสามีและลูกชาย แต่นางเอ่ยปากห้ามปรามไม่ได้ วิเศษหรือที่เรียกกันติดปากว่า นาย มีบุญคุณกับครอบครัวนางมาก มากเสียจนคิดว่าชาตินี้ไม่รู้จะชดใช้หมดหรือไม่ ปัญญารักและเคารพวิเศษมาก จะให้ล้างมือไม่ทำงานก็ไม่ได้ เนื่องจากถูกวิเศษขอร้องไว้ ซึ่งเหตุผลนี้ขวัญข้าวเข้าใจ แต่ในความเข้าใจก็ไม่อยากให้บิดาและพี่ขายไปเสี่ยงอันตราย
“ขวัญรู้ว่านายมีบุญคุณกับเรามาก แต่ขวัญเป็นห่วงพ่อกับพี่ช้าง กลัวว่าสักวันจะพลาดพลั้งถูกตำรวจจับ”
ทำอาชีพผิดกฎหมาย ปรปักษ์รายสำคัญคือตำรวจ แม้ว่าจะมีแผนดีมากแค่ไหน ระวังตัวมากเพียงใด ขวัญข้าวคิดว่า สักวันหนึ่งอาจมีผิดพลาด ถูกจับตัวดำเนินคดี คราวนี้แม้แต่วิเศษอาจจะช่วยไม่ได้ ยิ่งช่วงนี้ตำรวจกวดขันอย่างหนัก หลายรายถูกจับกุมและสาวถึงนายใหญ่ เธอจึงกลัวว่า ปัญญากับคชาจะโดนบ้าง
“พ่อกับช้างก็ระวังตัวอยู่นะ อีกอย่างนายมีคนในคอยบอกข่าว แม่ว่าคงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ไม่อย่างนั้นคงโดนจับตั้งนานแล้ว” บัวรินพูดให้ลูกสาวสบายใจ ทั้งที่นางเองก็เป็นห่วงสองพ่อลูกไม่น้อย คิดไม่ต่างกับที่ขวัญข้าวเอ่ยมา
“ตอนนี้เราก็มีเงินเก็บมากพอที่จะไปตั้งตัวที่อื่นนะแม่ แม่ลองพูดกับพ่อสิจ้ะ พูดให้พ่อเลิกทำงานนี้ แล้วไปอยู่ที่อื่น เปิดร้านอะไรก็ได้หาเลี้ยงตัวเอง พี่ช้างเก่งเรื่องซ่อมรถยนต์ เปิดอู่ซ่อมรถก็ดีนะแม่ ฝีมืออย่างพี่ช้างระดับเซียนเรียกพี่ มีลูกค้าแน่ๆ จ้ะ ขวัญก็จะช่วยพ่ออีกแรง ขวัญจะเปิดร้านอาหารเล็กๆ รับรองว่าเราไม่อดตายแน่นอนจ้ะ”
เป็นความฝันของขวัญข้าวที่มีมาช้านานนับตั้งแต่รู้ว่า บิดาและพี่ชายทำอาชีพใดให้กับใคร แล้วไม่รู้ว่า ชาตินี้ความฝันของตนจะเป็นจริงหรือไม่ ถึงแม้ว่าความฝันจะลิบเลือน แต่เธอก็หวังลึกๆ ว่า สักวันหนึ่งเธอจะเดินไปถึงฝันนั้น
“พ่อไม่มีวันเปลี่ยนใจหรอกขวัญ ขวัญก็รู้นิสัยพ่อดีนี่” บัวรินถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตอบกลับบุตรสาวเสียงเนือย รู้สึกอ่อนล้าใจอย่างบอกไม่ถูก “แม่ว่า สุดแต่เวรแต่กรรมดีกว่านะลูก เราสองคนทำอะไรไม่ได้มากกว่าเป็นห่วงพ่อกับช้าง พูดมากก็ไม่ได้ พานจะโดนมือเท้าเอาได้ แล้วขวัญก็อย่าไปพูดเรื่องนี้กับพ่อนะ แม่ไม่อยากให้ขวัญเจ็บตัว”
ขวัญข้าวไม่ใช่ลูกรักของปัญญา เนื่องจากปัญญาไม่อยากได้บุตรสาว อาจเป็นเพราะด้วยอาชีพของตน ทำให้เขาอยากมีลูกชายมากกว่า เกรงว่าผลกรรมที่ทำไว้จะตกถึงขวัญข้าว แต่แม้ว่าปากจะทำเหมือนไม่รัก แต่หารู้ไม่ว่า ขวัญข้าวไปไหนมาไหน ปัญญาจะสั่งให้ไอ้จ้อยไปเป็นเพื่อนทุกครั้ง อ้างว่ากลัวขวัญข้าวจะไปทะเล่อทะล้าปล่อยไก่ นำพาให้ตำรวจมาจับตนกับคชา
“จ้ะแม่” ขวัญข้าวรับปาก แม้ว่าจะอยากทำมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่อยากเจ็บตัว ประการสำคัญ บัวรินก็จะพลอยถูกหางเลขไปด้วย สองแม่ลูกช่วยกันล้างจานชามจนเสร็จ จากนั้นทั้งคู่ไปช่วยกันจัดกระเป๋าเดินทางให้ปัญญากับคชาตามคำสั่ง
ณ บ้านตันติยานนท์ กรุงเทพมหานคร
หลังจากเสร็จสิ้นการทานอาหารเย็น วชิราภรณ์จะขึ้นมาดูแลลูกสาวที่ยังหลงอยู่ในอีกโลกหนึ่ง โลกที่ไม่มีใครรบกวนพรรณพฤกษาได้ เธอไม่มีความเจ็บปวด เสียใจ ทุกอย่างในสมองว่างเปล่า จะมีเพียงเรื่องเลวร้ายที่ฝังลึกในจิตใต้สำนึก ที่มักจะกระตุ้นขึ้นมาได้ทุกเมื่อ นางกับสามีจึงจ้างพยาบาทพิเศษมาดูแลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ทว่าช่วงสามวันที่ผ่านมา ยุพดีพยาบาทพิเศษลากิจ ไปดูแลบิดาที่ป่วยอยู่จังหวัดลำปาง วชิราภรณ์จึงต้องรับหน้าที่นั้นเอง ยังดีว่า วิรงรองคนรักของบุตรชายขันอาสามาช่วยดูแลอีกแรงหนึ่ง
“คุณแม่คะ นมของกล้วยไม้ค่ะ” วิรงรองวางแก้วนมลงบนโต๊ะหัวเตียง ก่อนจะเดินไปนั่งข้างว่าที่แม่สามี “หน้าคุณแม่ดูโรยๆ วิว่า คุณแม่ไปพักเถอะคะ วิจะดูแลกล้วยไม้เองค่ะ”
“ไม่เป็นไรลูก นี่เพิ่งทุ่มกว่าเอง แม่อยู่กับกล้วยไม้อีกหน่อยก็ได้จ้ะ วิจะได้พักบ้าง เหนื่อยกับกล้วยไม้มาทั้งวันแล้ว”
วชิราภรณ์กล่าวอย่างเกรงใจ นับตั้งแต่ยุพดีลางาน วิรงรองแทบจะไม่ห่างพรรณพฤกษาเลย เธอจะดูแลพรรณพฤกษาราวกับเป็นน้องสาวของตนเอง ทำให้นางกับทุกคนในบ้านพากันเกรงใจ และรักเธอมากยิ่งขึ้น
“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะคุณแม่ แรกๆ ที่กล้วยไม้กลับมาบ้าน อาการน้องหนักกว่านี้อีกค่ะ เรายังผ่านกันมาได้เลย ตอนนี้กล้วยไม้ดีขึ้นเยอะ ไม่อาระวาดหนักเหมือนก่อน อาการหวาดกลัวก็น้อยลง วิไหวค่ะคุณแม่”
อาการพรรณพฤกษาดีขึ้นกว่าเมื่อหกเดือนก่อน แต่ไม่ใช่ว่าจะดีขึ้นมากมายถึงขั้นจำญาติมิตรสหายได้ ดีในที่นี้คือ ไม่อาระวาด ไม่มีทีท่าหวาดกลัวและตื่นตระหนกเหมือนก่อน เธอวางใจคนรอบข้างที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนมากขึ้น แต่มีเรื่องหนึ่งที่ยังคงเป็นปัญหาคือ ไม่มีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอได้ แม้แต่บิดาและพี่ชาย เพราะพรรณพฤกษาจะแสดงอาการหวาดกลัวขึ้นมาทันที
วิรงรองพูดจากใจ เธอไม่รู้สึกว่าการดูแลพรรณพฤกษาเป็นเรื่องใหญ่หรือเป็นเรื่องที่ทำให้ตนเองต้องลำบาก ตรงกันข้ามเธอยินดีและเต็มใจดูแลน้องสาวคนนี้ เพราะพรรณพฤกษาคือน้องสาวของกัลป์ ชายหนุ่มที่ตนรัก ประกอบกับความสงสารในชะตากรรมของอีกฝ่ายด้วย
“แม่ขอบใจวิมากนะลูก ขอบใจจริงๆ”
วชิราภรณ์ไม่มีคำใดจะเอ่ย นางยิ้มทั้งน้ำตา ปลาบปลื้มใจที่บุตรชายสายตาแหลมคม หาลูกสะใภ้ที่มีจิตใจงดงามราวกับนางฟ้า นางไม่แปลกใจเลยที่กัลป์รักและปลงใจแต่งงานกับวิรงรอง ทั้งที่มีตัวเลือกนับร้อยให้เลือก
“วิเต็มใจคะคุณแม่ คุณแม่ไปพักนะคะ ทางนี้ปล่อยเป็นหน้าที่วิเองค่ะ”
เธอบอกว่าที่แม่สามีอีกครั้ง วชิราภรณ์ยิ้มบาง หันไปหอมแก้มบุตรสาวที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องอย่างวางใจ