อีริค x ขิม (5)NC+++
เช้าวันต่อมา
ปรั่ก ! ปรั่ก! พับ! พับ!
“อื้อ!” ขิมส่งเสียงอื้ออึงในลำคอพลางนิ่วหน้าอย่างรู้สึกปวดเมื่อยไปทั่วทั้งร่างกาย โดยเฉพาะส่วนสงวนที่เธอหวงแหนเท่าชีวิต กำลังถูกแข็งบางอย่างรุกล้ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนเธอเจ็บหน่วงและจุกบริเวณมดลูกไปหมดร่างเคลื่อนไหวขึ้น ๆ ลงๆ เร็วแรง ทำเอาเวียนหัวราวกับโลกกำลังเจอภัยพิบัติ สมองที่หนักอึ้งเริ่มกลับมาประมวลผลอีกครั้ง
“อ๊า! รัดแน่นฉิบหาย ซี๊ด~” น้ำเสียงทุ้มต่ำปนกระเส่าดังแว่วเข้ามาในหู ขิมเบิกตาโพล่งตกใจสุดขีด “นะ...นาย!!”
เธอนอนหงายร่างกายเปลือยเปล่า เข่าทั้งสองข้างถูกร่างหนาดันอ้าออกไปด้านข้างจนสุด พลันเห็นกลีบกุหลาบที่บอบช้ำเกรอะกรังไปด้วยน้ำกามปนเลือด รวมถึงหน้าท้องแบนราบที่นูนเป็นลำให้เห็นตามจังหวะหยาบโลนของร่างหนา
“ตื่นเช้าหนิ” อีริคแสยะยิ้ม ตามร่างกำยำเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อไม่ต่างไปจากขิม ที่ตอนนี้อึ้งช็อกอย่างหนักกับภาพตรงหน้า ทว่าความเจ็บสะท้านไร้ซึ่งความเสียวเล่นผ่านเข้ามาอย่างหนักจนเธอไม่อาจเก็บสีหน้าได้ สองมือขยุ้มผ้าปูเตียงแน่น ทั้งร่างโยกคลอนไปตามแรงกระแทกกระทั้นของร่างหนา
“ยะ..หยุดได้แล้ว...เจ็บ!” ขิมน้ำตาไหลพรากพยายามขยับริมฝีปากเปล่งเสียงร้องขอ ท่ามกลางเสียงเนื้อกระทบเนื้อประสานกับเสียงขาเตียงขูดรูดกับพื้นห้องดังสนั่น อี๊ดอ๊าด! พับ! พับ! แต่ไม่มีท่าทีว่าอีริคจะยอมหยุด กลับเร่งจังหวะให้เร็วและแรงกว่าเดิม จนหัวเห็ดบานเบาะตอกเข้าผนังมดลูกถี่ ๆ
พรึ่บ!
“อ๊ะ!” ขิมส่งเสียงออกมาเมื่อทั้งร่างถูกพลิกให้นอนคว่ำหน้าโดยที่ยังเป็นหนึ่งอันเดียวกัน จากนั้นบั้นท้ายงอนงามก็ถูกมือหนาจับกระดกขึ้นเล็กน้อย ความเหนื่อยล้าและเรี่ยวแรงที่แทบไม่เหลือทำให้เธอฟุบครึ่งหน้าไปกับหมอนใบใหญ่ สองมือกำปลอกหมอนระบายความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ไม่เคยได้รับมาก่อนราวกับร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทุกครั้งที่คนด้านหลังขยับเอวสอบตอกอัดความใหญ่โตเข้ามาในร่องสาว
ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในหัวเป็นระยะ ๆ
ปึก ! ปึก! เพียะ! เพียะ!
“โอ๊ย!จะ..เจ็บนะ อ๊ะ!” ฝ่ามือใหญ่ฟาดลงมาบนบั้นท้ายงอนงามอยู่หลายที จนผิวขาวแดงเถือกปรากฏรอยมือทั้งห้า ขณะกลางความเป็นสาวฉ่ำน้ำหล่อลื่นมีเลือดปนจาง ๆ ถูกความใหญ่โตเข้าเล่นงานอย่างรุนแรงป่าเถื่อน
“หึ” อีริคเค้นเสียงในลำคอเบา ๆ อย่างพึงพอใจโดยไม่สนใจว่าร่างเล็กจะรู้สึกอย่างไร ทว่าทั้งเสียงร้องของความเจ็บปวดทั้งเสียงครางจากร่างเล็กเป็นตัวจุดชนวนอารมณ์หื่นกระหายให้โหมกระพือมากกว่าเดิม ทั้งที่ปรนเปรอความใคร่ตัวเองลงบนร่างกายอันน่าหลงใหลหลายต่อหลายน้ำเกือบรุ่งสางแต่ก็ยังไม่พอ เช้ามาจึงบรรเลงบทรักเร่าร้อนอีกครั้งโดยอีกคนยังอยู่ในห้วงนิทรา
แม้ว่าเข้าจะพรากความบริสุทธิ์จากหญิงสาวมานับไม่ถ้วน ทว่าผู้หญิงตรงหน้าตอนนี้กลับทำให้เขาติดใจจนอยากจับกดทุกวินาทีและทุกครั้งที่มีโอกาส
12:00 น
“อ๊ะ!” ขิมเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดกล้ามเนื้อทันทีที่ขยับร่างกาย มือบางยกขึ้นมานวดคลึงขมับเบา ๆ พลางค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมอง แพขนตางอนงามเปียกชุ่มจนหนักอึ้ง เธอยังนอนโทรมอยู่บนเตียงของอีริค หลังจากเมื่อเช้าช่วงล่างถูกทารุณอย่างหนักต่อจากเมื่อคืนจนไม่รู้ว่าสลบเหมือดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ โดยที่ตอนนี้ทั้งร่างมีเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ตัวเดียว
เหตุการณ์หลาย ๆ เมื่อคืนเธอยังจำได้ไม่หมด โดยเฉพาะเรื่องบนเตียงที่ไม่รู้ว่าเธอหรือเขาเริ่มก่อน น่าอายชะมัด!
แกร๊ก~
เมื่อเห็นว่าบานประตูถูกผลักเข้ามาขิมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงทันที เธอโกรธเขาที่ฉวยโอกาสในยามที่เธอไม่มีสติ ความบริสุทธิ์ที่หวงแหนถูกพรากไปในวันที่ไม่พร้อม หนำซ้ำเขายังป่าเถื่อนทำราวกับว่าเธอไร้ความรู้สึก
อีริคพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ เดินถือถาดโจ๊กหมูหอมกรุ่นมาหยุดยืนอยู่ข้างเตียง แล้วกล่าวบอกเสียงอ่อน “ลุกขึ้นมากินข้าว”
ร่างเล็กใต้ผ้าห่มยังคงเงียบมีเพียงเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาเบา ๆ อีริคถอนหายใจวางถาดบนโต๊ะข้างเตียงแล้วทรุดตัวนั่งบนเตียง ดึงผ้าห่มออกจากใบหน้าจิ้มลิ้มแต่ร่างเล็กกลับต่อต้านไม่ยอมให้ดึงออกได้ง่าย ๆ
“จะนอนอยู่แบบนี้ไปทั้งวันเลยหรือยังไง ลุกขึ้นมากินข้าวกินยาแล้วก็อาบน้ำซะ”
“....”
“อย่าให้ต้องพูดอีกรอบนะขิม!” อีริคใส่เสียงเข้มลงในประโยคอย่างสุดจะทน ทว่าเสียงสะอึกสะอื้นของร่างเล็กใต้ผ้าห่มผืนหนากลับดังขึ้นจนไหล่สั่นแรงกว่าเดิม อีริคถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อีกครั้งอย่างพยายามทำใจให้เย็นลง “ฉันขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยแล้วกัน แต่ถ้าเธอไม่จูบฉันก่อน...เรื่องก็คงไม่เลยเถิด”
ขิมจับขยุ้มผ้าห่มแน่นด้วยความคับแค้นใจ คำขอโทษเหล่านั้นไม่มีความจริงใจเลยสักนิด หนำซ้ำเขายังโยนความผิดมาให้เธออย่างหน้าไม่อาย ทั้งที่เธอถูกพรากความบริสุทธิ์ที่มีค่าสำหรับผู้หญิงไปอย่างไม่มีวันหวนคืน...
พรึ่บ !
ผ้าห่มถูกกระชากออกอย่างกะทันหัน จนสบปะทะเข้ากับแววตาคมกริบที่จ้องมองมาอย่างรำคาญ เธอเกลียดแววตาแบบนั้นของเขาเป็นที่สุด หวังจะดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปงอีกครั้ง แต่ก็สู้แรงยักษ์ของเขาที่รั้งไว้ไม่ได้ ทั้งที่ร่วมรักกันอย่างหนักหน่วง แต่ไม่มีท่าทีว่าเขาจะอิดโรยแต่อย่างไร ต่างจากเธอที่แทบขยับร่างกายไม่ไหว
“เลิกทำตัวเป็นเด็ก แล้วลุกขึ้นมากินข้าวกินยาคุมซะ”
“ไม่กิน! ไอ้ผู้ชายเห็นแก่ตัว! ออกไปให้พ้น!!!”
“ฉันปล่อยในถ้าไม่อยากท้องก็อย่าดื้อ”
“ถ้าขิมอยากท้องล่ะ แล้วคุณจะทำไม?” ขิมถามออกไปอย่างประชดพลางปาดน้ำตาออกจากพวกแก้มลวก ๆ ดวงตากลมโตบวมเป่งเพราะร้องไห้เป็นเวลานานจนเปลือกบางตาแทบปิดสนิท
“ที่ถามน่ะคิดดีแล้วเหรอ?”
“คุณต้องตอบคำถามขิมไม่ใช่ย้อนถามขิม!”
“ฉันไม่อยากมีลูกกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก ถ้าเธออยากเจ็บปวดไปจนตายก็แล้วแต่!” อีริคผุดตัวลุกขึ้นทันทีที่จบประโยค แล้วเดินออกไปโดยไม่สนใจว่าร่างเล็กบนเตียงจะรู้สึกอย่างไร
ปัง!ขิมอึ้งมองตามแผ่นหลังแกร่งไปกระทั่งบานประตูปิดลงเสียงดังจนเธอสะดุ้งตัวโหยง เนื้อตัวชาวาบราวกับถูกของแข็งกระแทก มือบางกุมหน้าปล่อยโฮออกมาอย่างหนักอีกครั้ง ประโยคบอกเล่าเชิงข่มขู่ของผู้ชายที่รักหมดใจ ทำเธอเจ็บปวดอนึ่งว่าถูกสายฟ้าฟาดเข้ามากลางใจ โดยเฉพาะคำว่าไม่ได้รักที่เปล่งออกมาจากปากเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาใจร้ายกับเธอทั้งการพูดทั้งการกระทำไม่เคยถนอมน้ำใจเธอเลยสักครั้ง