Chapter 3 : สัมภาษณ์งาน
"ขอโทษนะคะ" ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆรถฉันแหงนหน้าขึ้นมามองฉัน แล้วนี่อะไรเนี่ย อ้าปากค้างทำไม กรามค้างหรอ
จากนั้นไม่นานเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วถามฉัน "รถคุณหรอครับ" เขาเม้มปากแน่นทำตาปริบๆใส่ ปกติป่ะเนี่ย
ใช่ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะฉันรีบหน่ะ พอดีวันนี้มีสัมภาษณ์งานที่นี่ มาเกือบสาย หาที่จอดแล้วแต่ไม่มีที่ว่างเลย ฉันเลยถือวิสาสะจอดขวางรถคุณไว้ แล้วนี่คุณมารอตรงนี้นานหรือยังคะ ทำไมไม่โทรหาฉัน" ฉันหันมองไปที่หน้ากระจกรถตรงที่ปัดน้ำฝนก็ไม่มีกระดาษที่ฉันเสียบไว้ แสดงว่าเขาต้องเห็น แล้วทำไมไม่โทรมาหล่ะ
"ถ้ารีบทำไมไม่มาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วหล่ะครับ" พูดดีด้วย กลับมายอกย้อนพูดจากวนตีนใส่ อีตานี่หน้าตาก็ดีแต่ปากเสีย
"อ่าวคุณ ก็ขอโทษแล้วไง แปะเบอร์ไว้ให้ด้วย ทำไมไม่โทร" ฉันเท้าสะเอวแล้วขึ้นเสียงใส่ผู้ชายตรงหน้า นี่ทำไมสูงขนาดนี้หล่ะเนี่ยคนหรือเปรต ฉันต้องเชิดหน้าคุยกับเขาเป็นโยด
"รบกวนเช็คโทรศัพท์ด้วยนะครับ ผมโทรหาคุณแล้วแต่โทรไม่ติด" จะโทรไม่ติดได้ยังไง ด้วยความสงสัยฉันจึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู...เวรละฉันผิดเต็มประตู ลืมไปเลยว่าปิดโทรศัพท์ไว้ตอนที่สัมภาษณ์งานอยู่ ฉันได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วก้มหน้ายอมรับผิด
"เอ่อ..." ฉันเม้มปากเข้าหากันจนแน่น ไม่กล้าอ้าปากออกไป ยอมรับชะตากรรมไปก็แล้วกันนะยัยอลิน
"ไงครับ จะอ้างว่าแบตหมดหรืออ้างว่า..." ฉันรีบยอมรับผิดก่อนที่เขาจะพูดจบ
"ปิดเครื่องค่ะ" ฉันจึงก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิดอีกครั้ง แล้วนี่เขารอฉันมานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย
"หึ ปิดเครื่อง งั้นรบกวนช่วยเลื่อนรถออกไปด้วยนะครับ ผมเสียเวลารอคุณตั้งสาม-สิบ-นาที" อุ่ยสามสิบนาทีเลยหรอ แถมยังมาพูดเน้นคำว่าสามสิบนาทีใส่หน้าฉันอีก ฉันก็ก้มหน้ารับผิดอยู่นี่ไงเล่า อ่า~ไม่ได้สิ ต้องไปรีบเลื่อนรถให้เขาก่อน
"ค่ะๆๆๆ" ฉันรีบเดินไปขึ้นรถแล้วสตาร์รถทันทีอ่ะชิบหายอีกคงรอบนี่เขาคงจะพยายามเลื่อนรถฉันด้วยงั้นสิ เพราะฉันเผลอไปดึงเบรคมือด้วย เห้อ รีบเลื่อนรถให้เขาเถอะ ก่อนที่เขาจะด่าฉันในใจไปมากกว่านี้
"พ้นไหมคะ ออกได้ไหม" ฉันชะโงกหน้าแล้วตะโกนถามเขา"
"ได้" ตอบห้วนใส่ฉันอีกคนละ ตอนมาก็ยัยเจ้ปากแดง มาตอนนี้ยังจะมาเจออีตานี่อีกคน
ฉันเห็นเขาเดินขึ้นรถไป...
บรึ้น บรึ้น
ฉันมองข้างกระจกรถของฉันอีกฝั่งจะเร่งเครื่องทำไม รู้แล้วว่ารถสปอร์ต จะอวดรวยว่างั้นเถอะ แล้วเขาก็หักพวงมาลัยขับออกมาจอดเทียบรถข้างๆฉัน แล้วกดกระจกลงพูดกับฉัน
"มาสมัครงานฝ่ายไหน" นี่จะมาสัมภาษณ์งานฉันอีกคนหรือไง จะอยากรู้ไปทำไม
"ฝ่ายบัญชีค่ะ" เออก็ดีและฉันก็ไปตอบเขายัยบ๊อง
"งั้นหรอ หวังว่าเราคงได้ทำงานร่วมกันนะครับ ขอให้โชค-ดี" หย่ะ ขอให้โชคเลือดนะ ฉันได้แค่คิดในใจ อยากจะด่าก็ด่าไม่ได้ เพราะฉันเป็นคนผิด
"อ้อ ถ้าไปจอดรถขวางคนอื่นแบบวันนี้อีก อย่าโง่ดึงเบรกมือนะครับ บาย"
"ไอ้..." จะรีบปิดกระจกหนีทำไมหล่ะ ยังไม่ทันได้ด่าเลย ผู้ชายอะไรมาด่าผู้หญิงว่าโง่ ถึงฉันจะผิดจริงก็ไม่ควรมาพูดจาแบบนี้ต่อหน้าคนที่ไม่รู้จักสิ อีตานี่ นิสัยไม่ดี ขออย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลย
แล้วนี่เมื่อกี้เขาบอกว่า หวังว่าเราคงจะได้ร่วมงานกัน หมายความว่าไง ฉันต้องทำงานกับเขาหรอ หรือว่าเขารู้ว่าฉันคือใคร ไม่น่าใช่อ่ะ ฉันเหลือหันไปมองป้ายที่ติดอยู่กับเสาข้างๆรถเขาเมื่อกี้ ต้องตกใจเบิกตากว้างมือนาบขึ้นทาบอก
"กรี๊ดดดดดดดดด" ฉันหวีดออกมาสุดเสียงเหมือนคนเสียสติ
"ที่จอดรถผู้บริหาร VIP โอ้ยยย ซวยซ้ำซ้อน นี่ฉันต้องชวนยัยเมย์ไปทำบุญเก้าวัดซะหน่อยละ ภายในวันเดียวเจอแต่ปัญหาหลายอย่างติดๆกัน ดีอยู่อย่างเดียวคือตอนสัมภาษณ์งาน แล้วอีตานั้นมีตำแหน่งอะไรในบริษัทนี้หรือว่า...